TPIPP เปิดผลประกอบการปี 66 รายได้รวม 11,331 ล้านบาท กำไร 3,653 ล้าน
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ประกาศผลประกอบการปี 2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 11,331 ล้านบาท สูงขึ้น 705 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 3,653 ล้านบาท สูงขึ้น 29.9% จากปีก่อนหน้า
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 และผลประกอบการทั้งปี 2566 ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผลประกอบการของปี 2566 ดีขึ้นจากผลประกอบการของปี 2565 โดยในไตรมาส 4 ปี 2566 บริษัทฯมีรายได้รวม 2,858 ล้านบาท ดีขึ้น 171 ล้านบาทหรือร้อยละ 6.4 จาก 2,687 ล้านบาทในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565
สำหรับทั้งปี 2566 นั้น ทางบริษัทฯ มีรายได้รวม 11,331 ล้านบาท สูงขึ้น 705 ล้านบาทหรือร้อยละ 6.6 จากทั้งปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 10,625 ล้านบาท เป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับสิ่งที่ข่าวสารที่สื่อสารออกมาจากทางบริษัทฯตลอดปี 2565 และปี 2566
ในส่วนของกำไร/ขาดทุนนั้น ทาง บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP มีผลประกอบการดีขึ้นในไตรมาส 4 และผลประกอบการทั้งปี 2566 ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 833 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2566 สูงขึ้น 269 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.7 จาก 564 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2565
นอกจากนั้นสำหรับทั้งปี 2566 ทางบริษัทฯมีกำไรสุทธิ 3,653 ล้านบาท สูงขึ้น 840 ล้านบาท หรือร้อยละ 29.9 เติบโตขึ้นเช่นเดียวกับรายได้ ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่ บริษัทฯมีการจัดการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นจากการเปลี่ยนวัตถุดิบของโรงไฟฟ้า จากการใช้เชื้อเพลิงจากขยะ แทนที่เชื้อเพลิงถ่านหิน ซึ่งเชื้อเพลิงจากขยะมีความผันผวนของราคาน้อยกว่า
ภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นักวิเคราะห์หลายสำนักมีความเป็นห่วงเรื่อง Adder หมดแล้วกำไรของบริษัทฯจะได้รับผลกระทบ ถึงแม้ว่า Adder จะหมดเพียงร้อยละ 40 ก็ตาม โดยบริษัทฯยังสามารถขายไฟฟ้าได้ในราคาค่าไฟฐาน และบริษัทยังรับ Adder ที่เหลืออีกร้อยละ 60 อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นทางบริษัทฯได้เปลี่ยนเชื้อเพลิงจากถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงขยะทำให้ต้นทุนลดลง เนื่องจากวัตถุดิบของโรงไฟฟ้าขยะไม่ได้ผันผวนเหมือนโรงไฟฟ้าถ่านหิน ประกอบกับการที่ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นอันเนื่องจากราคาเชื้อเพลิงฟอสซิลของโรงไฟฟ้าอื่นที่สูงขึ้น ทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯสูงขึ้น
"กำไรที่เติบโตขึ้นเป็นสิ่งที่บริษัทฯได้คาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ต้น เพราะทางบริษัทฯได้ทำ projection ด้วยโมเดลการเงินของบริษัทฯเอง ผลประกอบการของบริษัทฯในปี 2566 ดีกว่าในปี 2565 ดังนั้นกำไรที่โตขึ้นเป็นสิ่งที่บริษัทฯได้คาดคะเนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ด้วยข้อกฎหมายทำให้บริษัทฯไม่สามารถประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการได้ก่อนผ่านการตรวจทาน โดยบริษัทฯ ได้เปลี่ยนโรงไฟฟ้าถ่านหินบางส่วน ให้มาใช้เชื้อเพลิงขยะ ซึ่งการเปลี่ยนเชื้อเพลิงในครั้งนี้บริษัทฯ ต้องลงทุนมหาศาล แต่บริษัทฯได้ประโยชน์สองประการ เพราะนอกจากช่วยเรื่องต้นทุนการผลิตแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มบริษัท ทีพีไอ โพลีน ที่ต้องการจะเป็น Carbon-Free group of companies หรือ กลุ่มบริษัทที่จะไม่มีการปล่อยคาร์บอนเลย ตามโปรแกรม Journey to Net Zero ของทางบริษัท" ภัคพล กล่าว