"เครือซีพี-สมาคมองค์กรสื่อ" ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์กตัญญู พร้อมมอบทุนการศึกษา "ซีพีเพื่อยุวชนครอบครัวคนข่าว"
ด้วยความเชื่อมั่นในคุณค่า "ความกตัญญู" เครือซีพีร่วมกับ 4 สมาคมฯ องค์กรสื่อ มอบทุนการศึกษา "ซีพีเพื่อยุวชนครอบครัวคนข่าว" เป็นปีแรก คัดเลือกผ่านการเขียนเรียงความถ่ายทอดเรื่องราวความกตัญญู เพื่อปลูกฝังเมล็ดพันธุ์คุณธรรมความดีในจิตใจเด็กและเยาวชน พร้อมแบ่งเบาภาระพ่อแม่ในภาวะวิกฤติโควิด-19
เมื่อเร็วๆ นี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย, สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ, สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย, สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย และ กลุ่มสื่อ News Media จัดพิธีมอบทุนการศึกษาให้ยุวชนครอบครัวคนข่าว จำนวน 100 ทุน ทุนละ 10,000 บาท ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 6 ทรู ดิจิทัล พาร์คเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของครอบครัวคนข่าวในช่วงโควิด-19 ควบคู่ไปกับการปลูกฝังความกตัญญูแก่เด็กและเยาวชนไทย
ทุนการศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยปลูกฝังความกตัญญูแก่เด็กและเยาวชนในสังคมไทยซึ่งเป็นแนวคิดของ ประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ที่ต้องการปลูกฝังแนวคิดเรื่องความกตัญญูให้เกิดในสังคมไทย เพราะเชื่อมั่นว่าความกตัญญูเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทย
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ เครือซีพี กล่าวถึงความสำคัญของการมอบทุน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของเครือซีพีที่เชื่อมั่นในคุณค่าของความกตัญญูมาตลอดระยะเวลา 100 ปีในการดำเนินธุรกิจ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมกับ 4 สมาคมสื่อฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระด้านค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนแก่บุตรธิดาของครอบครัวคนข่าวในช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยจะต้องเขียนเรียงความถ่ายทอดเรื่องราวความกตัญญู ซึ่งเป็นเป้าหมายอีกประการที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ มองเห็นถึงคุณค่าความกตัญญู ซึ่งถือเป็นคุณธรรมที่ดีงามของสังคมไทย
"สื่อมวลชนเปรียบเสมือนโรงเรียนขนาดใหญ่ให้กับสังคม ซึ่งเราหวังว่าทุนการศึกษานี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยปลูกฝังความกตัญญูแก่สังคมไทย ซึ่งเป็นพื้นฐานของความรัก ความเสียสละ นำไปสู่การมีครอบครัวที่แข็งแรง และการอยู่ร่วมกันในสังคม ผมมีความยินดีที่สมาคมสื่อฯทั้ง 4 สมาคมฯได้ร่วมมือกันเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความกตัญญูให้กับเด็กๆ และเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของชาติไทย และหวังว่าทุนการศึกษานี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวคนข่าวได้ไม่มากก็น้อย" ดร.ธีระพล กล่าว
ด้าน มงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การมอบทุนในครั้งนี้เป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่บุตรหลานนักวิชาชีพสื่อมวลชนหลากหลายแขนง ซึ่งนอกจากช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้ปกครองในช่วงที่ประเทศยังเผชิญกับโควิด-19 ทำให้ลูกหลานที่เรียนอยู่นำทุนนี้ไปใช้จ่ายทางด้านการศึกษา พร้อมๆ กับปลูกฝังค่านิยมความกตัญญูผ่านคนรุ่นใหม่ ซึ่งความกตัญญูเบื้องต้น คือความกตัญญูกับครอบครัว และถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ โดยเครือข่ายสมาคมสื่อฯ พร้อมร่วมมือสื่อสารผลักดันแนวคิดความกตัญญูให้เกิดความตระหนักรู้ในวงกว้างของสังคมไทยต่อไป
สำหรับการมอบทุนดังกล่าว มีเยาวชนคนรุ่นใหม่จากครอบครัวคนข่าว ตั้งแต่อนุบาลจนไปถึงอุดมศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมส่งเรียงความ และนำเสนอมุมมองแนวคิดความกตัญญูในหลายมิติ ทั้งความกตัญญูต่อพ่อแม่ผู้มีพระคุณ การช่วยเหลือคนรอบข้างโดยไม่หวังผลตอบแทน ไปจนถึงการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ
ด.ญ.ภัทราภรณ์ พงษ์ทอง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนโสมาภา (นวมินทร์) ถ่ายทอดเรื่องความกตัญญูในเรียงความ ระบุว่า เคยป่วยเป็นโรคเนื้องอกที่ก้านสมอง ซึ่งได้ผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อปีที่ผ่านมา ในช่วงที่พักฟื้นและกายภาพ ได้มีโอกาสไปอยู่ห้องพักรวมกับผู้ป่วยเด็กอื่นๆ และได้เห็นพยาบาลต้องเย็บถุงย่ามสำหรับใส่ถุงปัสสาวะให้กับผู้ป่วยเด็กสะพายเดิน ปัจจุบันได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ต้องทำคีโมทุกสัปดาห์ โดยหลังจากเรียนออนไลน์ จะช่วยคุณแม่เย็บถุงย่ามแล้วนำไปบริจาค ซึ่งเป็นเรื่องราวที่รู้สึกภูมิใจมาก และต้องการให้คนไทยช่วยกันทำความดีช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดและแบ่งปันให้คนรอบข้างให้มากๆ
ด้าน นายนนทกานต์ สิงห์สุวรรณ นักศึกษาปีที่ 1 คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ขอบคุณเครือซีพีที่ได้มอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อในคุณค่าของความกตัญญู และพร้อมมุ่งมั่นทำความดีตอบแทนสังคม เช่น การทำกิจกรรมจิตอาสาในพื้นที่ต่าง ๆ รวมไปถึงการกตัญญูต่อครอบครัว ซึ่งถือเป็นสถาบันที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งเบาภาระงานบ้าน และการดูแลพ่อแม่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สะท้อนความดีและความกตัญญูที่คนในสังคมทำร่วมกันได้
เช่นเดียวกับ น.ส.วริษา เสนาะจิตต์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวคนข่าว และชูประเด็นในเรื่องความกตัญญู ซึ่งเป็นคุณธรรมพื้นฐานของทุกคนและประเทศชาติ ช่วยให้เกิดความรักความเข้าใจในครอบครัว เริ่มง่ายๆจากตัวเรา คือการเป็นลูกที่ดี ตั้งใจเรียนหนังสือ แบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ด้วยการช่วยเหลืองานบ้าน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การปลูกฝังเมล็ดพันธุ์คุณธรรมกตัญญูให้แก่เด็กๆ และเยาวชน โดยเริ่มต้นจากครอบครัว เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคม และประเทศชาติที่มีความสุข และความยั่งยืนตามมา เพราะที่ไหนมี "ความกตัญญู" ที่นั่นย่อม "งดงาม" เสมอ