คิวช่างดันแพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างสยายปีกสู่อาเซียน

นายศรัณย์วิศว์ ภักดีนอก ผู้บริหารคิวช่าง  แพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างคุณภาพและบริการดูแลบ้านครบวงจร  เผยกลยุทธ์ธุรกิจในปี 2566 ว่า บริษัทยกระดับการให้บริการงานช่างและแม่บ้านบนแพลตฟอร์มจองช่าง ภายใต้ชื่อ “Q-CHANG”  (คิวช่าง) ด้วย 3 กลยุทธ์ประกอบด้วย

1.การพัฒนามาตรฐานและคุณภาพทีมช่างและแม่บ้านบนแพลตฟอร์มให้มีความเชี่ยวชาญที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2.ขยายเครือข่ายการให้บริการกับทางพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศและ3.สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด 

การพัฒนาศักยภาพช่างบนแพลตฟอร์มเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ “คิวช่าง” ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในปี 2566 โดยมองเป้าหมายที่ “ช่างเกรดเอ” การยกระดับทักษะความรู้ ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสการรับงานที่มากขึ้นด้วย
 

พร้อมกันนี้ยังได้พัฒนาระบบสนับสนุนการทำงานผ่าน แอปฯ Q-CHANG Buddy  เพื่อให้ช่างสามารถวางแผนการรับงานจากลูกค้าในพื้นที่ตามวันและเวลาที่ต้องการได้ง่ายขึ้นด้วยตนเอง จ่ายเงินให้กับช่างได้รวดเร็วมากขึ้น และในไตรมาส 2 ปี 2566 ยังมีแผนเปิดศูนย์เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ เพื่อให้ช่างได้เข้ามาเรียนรู้ พัฒนาทักษะการทำงาน ซึ่งจะเป็นการยกระดับคุณภาพที่ดีขึ้นทั้งชีวิตความเป็นอยู่และหน้าที่การงาน รวมถึงการสร้างประสบการณ์ร่วมที่ดีระหว่างช่างกับแพลตฟอร์ม

ปัจจุบันมีช่างในแพลตฟอร์มมากกว่า 1,350 ทีม ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ และการพัฒนาแอปฯ ช่วยทำให้ช่างวางแผนการทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ช่างสามารถรับงานได้มากขึ้นจากเดิมถึง 4 เท่า หรือ มากกว่า 90,000 งาน ส่งผลให้เกิดรายได้ของช่างรวมกว่า 250 ล้านบาท หรือคิดเป็นรายได้สูงสุดต่อเดือนมากถึง 60,000 บาท
 

สำหรับแผนงานในปี 2566 “คิวช่าง” จะยกระดับการให้บริการลูกค้าให้หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการ เพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายศรัณย์วิศว์ กล่าวต่อว่า เพื่อขยายบริการให้เข้าใกล้ลูกค้าออฟไลน์มากขึ้น คิวช่างจะขยาย Q-CHANG Shop Service บริการช่างดีใกล้บ้านคุณ หรือร้านค้าคิวช่างในร้านค้าพาร์ทเนอร์ด้านวัสดุก่อสร้าง

จากปัจจุบันที่มีทั้งสิ้น 20 สาขา จะเปิดเพิ่มเป็น 100 สาขา  ภายในไตรมาสที่ 2   นอกจากนี้ยังมีแผนขยายธุรกิจ ภายใต้แบรนด์ คิวช่าง ไปยังประเทศในอาเซียน นับเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่ก้าวกระโดดจากปริมาณกำลังซื้อขนาดใหญ่ในตลาดอาเซียน ซึ่งความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2566 เช่นกัน  โดยในปี 2566 ตั้งเป้าไว้ที่ 800 ล้านบาท