ย้อนรอย“แอชตัน อโศก”หลังคดีจบ!ศาลสูงสั่งถอนใบอนุญาตก่อสร้างทั้งหมด
ย้อนรอยคอนโดหรู “แอชตัน อโศก”ของอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่เป็นคดีความยืดยาวมานานมาถึง7 ปี ล่าสุดคดีจบแล้ว!เมื่อศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างทั้งหมด สร้างความสั่นสะเทือนวงการอสังหาฯ
ในปี 2558 แอชตัน อโศก เป็นโครงการคอนโดหรู ย่านอโศก ที่มีความสูง 51 ชั้น พัฒนาโดย บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนถือหุ้นระหว่าง อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ 51% และ ซี อินเวสเม้นท์ ไฟว์ ไพรเวท ลิมิเต็ด บริษัทในกลุ่มของมิตซุย ฟูโดซัง ประเทศญี่ปุ่น 49%
ถือเป็นหนึ่งในโครงการคอนโดที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในห้วงเวลานั้นด้วยทำเลที่ตั้ง รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่น โดยราคาเปิดตัวต่อตร.ม.อยู่ที่ 200,000 บาท ถือว่าสูงมาก ด้วยราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท แต่ขายหมด!ในช่วงที่เปิดตัว ต่อมาราคาดีดตัวขึ้นถึงตร.ม.กว่า 300,000บาท
เนื่องจากจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งของแอชตัน อโศก ที่อยู่ใจกลางเมืองและระบบการคมนาคมที่สะดวก เพราะห่างจาก รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี สุขุมวิทเพียง 20 เมตร ติดกับ ถนนอโศก-มนตรี ถนนเพชรบุรี และถนนสุขุมวิท อยู่ใกล้กับศูนย์การค้าอย่างเทอร์มินอล 21 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อาคารอินเตอร์เชนจ์ ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นทำเลทองอย่างแท้จริง
แต่จากจุดเด่น กลายเป็นจุดด้อย เช่นกัน เพราะมีที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลัง ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล และสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ซึ่งทางอนันดา ได้เข้าซื้อที่ดินจำนวน 3 แปลง จำนวน 2 ไร่ 3 ไร่ และ 47.6 ไร่ รวมพื้นที่ในอาคาร 55,206.14 ตร.ม. แต่ที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ตาบอดไม่มีทางเข้า-ออก เพราะที่ผ่านมา รฟม.ได้เวนคืนที่ดินบริเวณดังกล่าวเพื่อสร้างสถานีรถไฟฟ้า จึงส่งผลให้ที่ดืนผืนดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่ตาบอด
จากนั้นมีการฟ้องร้อง "แอชตัน อโศก" เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2559 เมื่อ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและชาวบ้านผู้อยู่อาศัยย่านสุขุมวิท 19 ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับซอยสุขุวิท 21 ยื่นฟ้องร้องแก่ศาลปกครองกลาง โดยการฟ้องร้อง ณ ขณะนั้นคือ ละเลยปฏิบัติหน้าที่และออกใบอนุญาต ให้กับ อนันดา ในการสร้าง แอชตัน อโศก โดยเป็นอาคารสูง 51 ชั้น ตั้งบนที่ดิน 2 แปลงในสุขุมวิท 19 แยก 2 ซึ่งแต่เดิมมีซอยกว้างแค่ 3 เมตร
ตลอดระยะเวลาที่มีการยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครอง "แอชตัน อโศก" ก็ยังคงเดินหน้าก่อสร้างไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั้งเมื่อต้นปี 2561 โครงการก่อสร้างเสร็จ และยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตรวจสอบการก่อสร้างอาคารชุดโครงการ "แอชตัน อโศก" และขอออกใบรับรองการก่อสร้างอาคาร หรือแบบ อ.6 แต่ทางเจ้าพนักงานมีคำสั่งปฏิเสธไม่ออกใบรับรองการก่อสร้างอาคารแบบ อ.6 ให้แก่โครงการจึงทำให้โครงการไม่สามารถโอนกรรสิทธิ์แก่ลูกบ้านได้
จากนั้นอนันดา ได้ยื่นอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ หลังจากนั้นคณะกรรมการฯจึงได้เพิกถอนคำสั่งพนักงานท้องถิ่น ทำให้แอชตัน อโศกสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้
แต่แล้วในปี 2564 ศาลปกครองกลาง ได้สั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างคอนโด แอชตัน อโศก โดยให้เหตุผลว่า คอนโดมิเนียมตั้งอยู่บนพื้นที่ "ที่ไม่มีด้านใดด้านหนึ่งกว้างกว่า 12 เมตรที่ติดกับถนนที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตร" และ "ไม่เชื่อมกับถนนที่มีความกว้าง 18 เมตร" และ หรือคือผิด พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร
จนกระทั้งเมื่อวานนี้ (27ก.ค.66) ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยื่นฟ้องขอเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโครงการแอชตัน อโศก และขอเพิกถอนใบอนุญาตให้โครงการดังกล่าวใช้ที่ดินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นทางเข้า-ออก สู่ถนนอโศก พิพากษาให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างทั้งหมด!โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ออกใบอนุญาต
ปัจจุบัน “แอชตัน อโศก” มีการโอนห้องชุดแล้ว 87% คิดเป็นมูลค่า 5,653 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 6,481 ล้านบาท มีผู้พักอาศัย 580 ครัวเรือน แบ่งเป็นคนไทย 438 ราย และลูกค้าต่างชาติ 142รายจากทั้งสิ้น 20 ประเทศ ปัจจุบันโครงการยังมีสต็อกเหลือขายมูลค่า 828ล้านบาท