สงคราม-ต้นทุนดอกเบี้ยป่วน!บิ๊กอสังหาฯรีวิวแผนปี67รับมือ

นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย   เผยว่า จากสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกทั้งสงคราม ต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทต้องมีการรีวิวแผนการดำเนินธุรกิจในปี2567เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปจากเดิม ที่จะใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า เพราะก่อนหน้านี้"ไม่มี"สงครามอิสราเอล-ฮามาส น้ำมันกำลังขึ้นราคา อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น และกระแสเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อนโยบายเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะดอกเบี้ย ส่งผลกระทบต่อแผนการดำเนินธุรกิจที่วางไว้ จึงต้องมีการรีวิวแผนใหม่อีกครั้ง ก่อนที่มีความชัดเจนในต้นปีหน้า เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้มากขึ้น 

"จากในปีนี้ที่ยอดขายพลาดจากเป้าเล็กน้อยแต่ถ้าเทียบปีต่อปีก็ถือว่าใกล้เคียงกัน"

โดยในปีหน้ามีแผนที่พัฒนาโครงการ สินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้นทั้งโครงการบ้านเดี่ยว คอนโด ในทุกเซกเมนต์และทุกทำเลเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันต้องพยายาม"ลดต้นทุน"การพัฒนาโครงการ ท่ามกกลางภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากราคาที่ดิน  วัสดุก่อสร้าง  ค่าแรงงาน ฯลฯ  พร้อมกับพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ทั้งในเรื่องของขนาดพื้นที่ ฟังก์ชั่นการใช้สอย รวมถึงบริการต่างๆ 
 

 นายสมบูรณ์ ระบุว่า ภาคอสังหาฯยังมีปัจจัยลบที่ท้าทายในปีหน้า เพราะภาพรวมเศรษฐกิจยังมีความเปราะบาง ! จากหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง การส่งออกถดถอย และอัตราดอกเบี้ยสูง ขณะที่ภาพรวมอสังหาฯ ได้รับผบกระทบจากกำลังซื้อ"ลดลง" สวนทางกับการแข่งขันและราคาที่ดินสูงขึ้น ในแต่ละโซนมีการปรับราคาขึ้น 20%

ขณะเดียวกันสถาบันการเงินก็เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯต้องเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะ กลุ่มทาวน์เฮาส์อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ(Rejection Rate)สูงขึ้นถึง 52% เนื่องจากสถาบันการเงินมีความกังวลในเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan : NPL) ทำให้ลูกค้า"ชะลอ"การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

สำหรับ 3 แนวทางในการรับมือกับปัจจัยลบ ได้แก่  1.จับมือกับสถาบันการเงิน ในเรื่องการผ่อนต่ำ/ดอกเบี้ยต่ำ 2.ปรับลดต้นทุนส่วนเกิน โดยไม่กระทบคุณภาพและ3.ปรับสินค้าให้เหมาะสมกับกำลังซื้อลูกค้า จากเดิมที่มีสัดส่วนของทาวน์เฮาส์ 60% บ้านเดี่ยว 25% และบ้านแฝด 15% ปรับสัดส่วนบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 40%ในระดับราคาตั้งแต่20-200 ล้านบาท

ส่วนทาวน์เฮาส์เหลือ 30% บ้านแฝดกว่า 20% ที่เหลือจะเป็นคอนโด ภายใต้แบรนด์ “ KLOS” รัชดามูลค่ากว่า 400 ล้านบาท  บนพื้นที่ 1 ไร่ ราคาเริ่มต้น3.1 ล้านบาทจำนวนกว่า 100 ยูนิตจะเปิดตัวเร็วๆนี้พร้อมกันนี้บริษัทต้องการเป็น"ท็อปไฟว์"ในปี68 ในแง่ของการสร้างการ"จดจำ"แบรนด์ของลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านจากปัจจุบันติดอยู่1ใน10 ภายใต้แบรนด์ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้