4 ทำเลทองบ้านเดี่ยวน่าซื้อ ‘อยู่อาศัย-ลงทุน’ Safe Haven!

4 ทำเลทองบ้านเดี่ยวน่าซื้อ ‘อยู่อาศัย-ลงทุน’  Safe Haven!

4 ทำเลทองบ้านเดี่ยวน่าซื้อ ‘อยู่อาศัย-ลงทุน’ Safe Haven! ส่งต่อมูลค่าทางการเงินแห่งอนาคตที่สามารถสร้างมูลค่าในระยะยาวกรุงเทพกรีฑา ผลตอบแทนจากค่าเช่า เฉลี่ย 7-9% ต่อปี "บางนา" 7-8% ต่อปี “ภูเก็ต” 9-10% ต่อปีและเชียงใหม่ 5-7% ต่อปี

ในวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย ปัจจุบันการลงทุนใน “บ้านเดี่ยว” กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่างมาก ด้วยมุมมองที่ไม่ใช่แค่การหาผลตอบแทนระยะสั้นจากค่าเช่าเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างมูลค่าในระยะยาว หรือที่เรียกว่า “Lifetime Asset Value”

จากข้อมูลของ SCB EIC ระบุว่า กลุ่มลูกค้าที่มีแผนซื้อบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านขนาดพื้นที่เป็นหลัก ทั้งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ขนาดที่ดิน และสนใจทำเลใกล้เมือง เดินทางสะดวกในการไปทำงาน และส่งบุตรหลานไปโรงเรียน จึงพร้อมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อบริการหลังการขาย สิ่งอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกยิ่งขึ้น ประการสำคัญ ประหยัดพลังงาน
 

4 ทำเลทองบ้านเดี่ยวน่าซื้อ ‘อยู่อาศัย-ลงทุน’  Safe Haven!

ล่าสุด “แสนสิริ”  ระบุถึง “4 ทำเลทอง” ที่เหมาะสมกับการลงทุนบ้านเดี่ยวในยุคนี้  นอกจากจะตอบโจทย์ทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยแล้ว ยังสามารถปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนได้อีกด้วย

 “กรุงเทพกรีฑา” ทำเลดาวรุ่ง

ในแง่การลงทุน บ้านเดี่ยวย่านกรุงเทพกรีฑากำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ปัจจุบันสามารถสร้างผลตอบแทนจากค่าเช่า เฉลี่ย 7-9% ต่อปี ขึ้นอยู่กับประเภทของบ้าน โดยค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่ 300,000-600,000 บาท สูงกว่าค่าเฉลี่ยของหลายทำเลในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ราคาประเมินที่ดินทำเลนี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 170% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น! นับเป็นหนึ่งในทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตในสังคมไพรเวต และการลงทุนที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และโรงเรียนนานาชาติ
 

"บางนา" ทำเลแห่งอนาคต

บางนาอีกหนึ่งทำเลศักยภาพแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่เติบโต และมีความต้องการซื้อ และเช่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จากชาวไทย และชาวต่างชาติ สะท้อนจากยอดขายหลายโครงการย่านบางนา เป็นผลจากการปักหมุดของบรรดาเมกะโปรเจกต์ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม โครงข่ายคมนาคมที่โดดเด่น ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ รายล้อมด้วยสนามกอล์ฟ และโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง อาทิ Bangkok Patana School และ Berkeley International School ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และ Bangkok Mall ศูนย์การค้าใหม่ขนาดใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทที่สามารถเดินทางไปยังย่านธุรกิจในกลางเมือง (CBD) ได้สะดวก รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่เดินทางสู่ใจกลางเมืองได้รวดเร็ว ทำให้บางนากลายเป็นทำเลที่อยู่อาศัยคุณภาพสูงบนทำเลเส้นเลือดใหญ่แห่งกรุงเทพฯ ตะวันออก

“ภูเก็ต” พื้นที่ศักยภาพการลงทุนระดับโลก

ภูเก็ต “ไม่ใช่” แค่เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นขุมทรัพย์แห่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่สูงมาก โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยวที่มีค่าเช่าสูง 300,000-400,000 บาทต่อเดือน และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนอยู่ที่ระดับ 9-10% ต่อปี ภูเก็ตยังมาพร้อมกับการพัฒนาที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว เช่น การสร้างสนามบินใหม่ ระบบขนส่งมวลชน การพัฒนาผังเมืองสู่ “Smart City” ทำให้ภูเก็ตเป็นทำเลศักยภาพสูงในการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

"เชียงใหม่" เมืองนานาชาติ

เชียงใหม่ เป็นอีกทำเลที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยในบรรยากาศเมืองที่ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและธรรมชาติ “บ้านเดี่ยว” ในเชียงใหม่มีค่าเช่า 50,000-70,000 บาทต่อเดือน สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวที่ดี เฉลี่ย 5-7% ต่อปี ขณะที่ราคาซื้อขายบ้านเดี่ยวในเชียงใหม่อยู่ที่ราว 3.5 ล้านบาท ไปจนถึง 18 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่าทั้งในด้าน Capital Gain และการปล่อยเช่า นอกจากนี้เชียงใหม่ยังมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆ เช่น สนามบินเชียงใหม่ 2 โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง จะยิ่งทำให้เชียงใหม่เป็นทำเลที่น่าสนใจมากขึ้นในอนาคต

การเลือกลงทุนในบ้านเดี่ยวในทำเลต่างๆ เหล่านี้ จึงไม่ใช่แค่การซื้อบ้านที่ให้ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน แต่ยังเป็นการ “ลงทุน” ที่มีผลตอบแทนมั่นคงในระยะยาว สามารถส่งต่อ “มูลค่าทางการเงิน” ให้ลูกหลานในอนาคต

 
 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์