กลุ่มทุนลุยปักหมุดคอนโดหรูลุมพินีไพร์มแอเรียมาแรง!

กลุ่มทุนปักหมุดคอนโดหรูย่านลุมพินีชิง ซิตี้ เรียลตี้ร่วมทุนสไวร์ ผุด 2 อาคารสูง 52 ชั้น156 ยูนิตสูง 71 ชั้น 239 ยูนิต เฟรเซอร์สผุดBranded Residencesขาย 4แสนบาทต่อตร.ม.
หลังจากปี 2560 -2561 ที่ผ่านมาแทบ"ไม่มี"โครงการคอนโดระดับลักชัวรีเปิดตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาต่อเนื่อง รวมไปถึงการหายไปของกำลังซื้อคนจีนที่เป็นกำลังซื้อหลักในตลาดคอนโด ทว่าในปี2568นี้จะเริ่มมีการเปิดตัวโครงการคอนระดับลักชัวรี ,ซูเปอร์ลักชัวรี และอัลตราลักชัวรีออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเกิดจากซัพลาย"ลดลง" ทำให้กลุ่มทุนไทย-เทศตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการในทำเลทอง อย่าง สวนลุมพินี ถือเป็น "Prime Area" แห่งหนึ่งในกรุงเทพ ที่มีโรงแรมระดับ 5-6 ดาวรวมถึงอาคารสำนักงานจำนวนมาก เพื่อรองรับดีมานด์ที่มีกำลังซื้อสูงทั้งคนไทยและต่างชาติ
สุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย กล่าวว่า สวนลุมพินี ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นที่สุดของการพัฒนาโครงการอสังหาฯที่มีความพร้อม ทำให้มีโครงการขนาดใหญ่ที่กำลังพัฒนา และที่เปิดให้บริการไปแล้วจำนวนมากที่สุดคิดป็นมูลค่าการพัฒนามากกว่า แสนล้าน! เฉพาะโครงการ "วันแบงค็อก"มีมูลค่าเกินแสนล้านบาทและยังมีโครงการขนาดกลาง เล็ก และขนาดใหญ่อีกหลายโครงการที่อยู่ในพื้นที่นี้ อีกทั้งโครงการต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่
ที่ดินส่วนใหญ่ในพื้นที่นี้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ซึ่งจำกัดการพัฒนาในลักษณะของการเช่าซื้อระยะยาว(Leasehold )เป็นหลัก การที่โครงการในพื้นที่มีความหลากหลายทั้งในด้านประเภทและกลุ่มทุน ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ หรือคอนโดมิเนียม ล้วนเป็นการสะท้อนถึงศักยภาพของย่านนี้ได้เป็นอย่างดีทำให้มีผู้ประกอบการอสังหาฯไทยและต่างชาติร่วมทุนพัฒนาโครงการคอนระดับลักชัวรี ,ซูเปอร์ลักชัวรี และอัลตราลักชัวรีออกมา
ในขณะที่ราคาที่ดินในพื้นที่นี้จะราคาแพง ล่าสุดที่มีการซื้อขายไปถึง 3.9 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งเป็นการยืนยันให้เห็นถึงความต้องการและความน่าสนใจของนักลงทุน ท่ามกลางความท้าทาย กลุ่มของผู้ประกอบการที่เข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาฯในพื้นที่นี้มีหลากหลายมาก ถ้านับตั้งแต่ 30 กว่าปีก่อนหน้านี้ถึงปัจจุบันก็มีไม่น้อยแล้วเช่นกัน ทั้งผู้ประกอบการไทย และโครงการที่เป็นการร่วมทุนของผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการต่างชาติ ซึ่งโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการไทย
"โครงการต่างๆ เหล่านี้อาจจะสร้างเสร็จและเปิดให้บริการทั้งโครงการหรือบางส่วนไปแล้ว แต่ก็ยังมีบางโครงการหรือที่ดินอีกบางแปลงที่รอการพัฒนารวมไปถึงอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโครงการที่เป็นการร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ ซึ่งบางโครงการมีมูลค่าในการพัฒนาไม่น้อย และสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มศักยภาพให้กับพื้นที่รอบสวนลุมพินีอีกมาก"
ยกอย่าง เช่น โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ส่วนต่อขยาย บนที่ดินขนาดประมาณ 23 ไร่ที่เคยเป็นสถานทูตอังกฤษมาก่อน โครงการนี้เป็นการร่วมทุนกันระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลกับบริษัท เอชเคแอล (ไทย ดีเวลลอปเม้นท์) จำกัดบริษัทในกลุ่มฮ่องกงแลนด์ เฉพาะค่าที่ดินประมาณ 19,000 ล้านบาท รวมทั้งโครงการไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท พื้นที่อาคารเกือบ 600,000 ตารางเมตร โดยมีทั้งส่วนที่เป็นโรงแรม พื้นที่ค้าปลีก และที่อยู่อาศัย โดยคาดว่าเสร็จปี 2572
โครงการวันซิตี้ เซ็นเตอร์ โครงการอาคารสำนักงานที่เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) กับมิตซูบิชิ เอสเตทจากญี่ปุ่น บนที่ดินเช่าระยะยาวจากกลุ่มธนิยะ เป็นอาคารสำนักงานเกรด A ที่มีพื้นที่เช่ารวมประมาณ 61,000 ตารางเมตรติดกับสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต มูลค่าโครงการ 8,800 ล้านบาท
โครงการดิเอ็มบาสซี ไวร์เลส โครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนระหว่างบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กับกลุ่มฮ่องกงแลนด์ ราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 290,000 บาทต่อตารางเมตรหรือประมาณ 18 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าลงทุน 10,990 ล้านบาท
และโครงการคอนโดระดับอัลตราลักชัวรี ของ ซิตี้ ไดนามิค ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ซิตี้ เรียลตี้ และ สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จากกลุ่มทุนฮ่องกง จำนวน 2 อาคารเป็นอาคารสูง 52 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต และอาคารสูง 71 ชั้น จำนวน 239 ยูนิต ที่มองเห็นวิวสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ เป็นต้น
ในแง่ของการอยู่อาศัยเรียกได้ว่า ทำเลดังกล่าวตอบโจทย์การอยู่อาศัยเนื่องจากมีสถาบันการศึกษาหลากหลายทั้งไทยและนานาชาติ โรงพยาบาลโรงแรมหลายระดับตั้งแต่โรงแรมขนาดเล็กไปจนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว อีกทั้งยังมีเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ระดับ 3 – 5 ดาว ที่สำคัญแตกต่างจากทำเลอื่นคือมีสถานทูตของประเทศใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลียส่งผล ให้มีดีมานด์จากชาวต่างชาติเลือกทำเลนี้เป็นที่พักอาศัยระยะยาว นอกจากนี้ทำเลดังกล่าวยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร หรือภัตตาคารนานาชาติจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม พื้นที่รอบๆ สวนลุมพินีไม่เพียงแต่เป็นที่ที่มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากมาย แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตแห่งอนาคตที่สร้าง"โอกาส"แก่นักลงทุนทั้งหลายได้สร้างผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ความต้องการที่ดินสูงขึ้นส่งผลให้ราคาขายให้ทะยานขึ้นเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยมีโอกาสสูงว่าจะสูงถึง 4 ล้านบาทต่อตารางวาอย่างแน่นอน!
สอดคล้องกับสืบพงษ์ เกียรติวิศาลชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษท สยามสินธร จำกัด กล่าวว่าในระยะ 10 ปี พบว่าที่ดินในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ทำเลเพลินจิต วิทยุ หลังสวน พระราม4 ราชประสงค์ ขยับขึ้นมา 400% โดยเฉพาะโซนหลังสวนเป็นที่ดินที่แพงที่สุดแต่การพัฒนาส่วนใหญ่เป็น"นิว ดีเวลลอปเมนท์" สวนทางวิธีคิดของการพัฒนาเพราะที่ดินแพงจะพัฒนายาก แต่กลายเป็นว่ามีโครงการใหม่ขึ้นตลอดเวลาเพราะว่าศักยภาพโตเร็วกว่าราคาที่ดิน ทำให้เกิดความคุ้มทุนที่จะทุบสร้างใหม่
ล่าสุด สมบูรณ์ วศินชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เผยว่า ได้ทุบ “อพาร์ตเมนต์ เมย์แฟร์” ย่านซอยหลังสวนเพื่อจะเปิดตัวคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์มูลค่า 8,000 ล้านบาท ราคาขาย 4-5 แสนบาทต่อตร.ม. อาจใช้แบรนเด็ดเรสซิเดนซ์ ซึ่งกำลังยื่น EIA คาดใช้เวลา 1 ปี