3 ทำเลคอนโดเหลือขายสูงสุด จอมเทียน-พัทยา-เขาพระตำหนัก-แหลมฉบัง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่อีอีซี ชลบุรี- ระยอง-ฉะเชิงเทรา ไตรมาส 2 ปี 65 หน่วยเหลือขายลดลง 7.8% ทำเลคอนโดเหลือขายสูงสุด 3 อันดับแรก โซนจอมเทียน, พัทยา-เขาพระตำหนัก, แหลมฉบัง
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยเสนอขายในพื้นที่ 3 จังหวัดไตรมาส 2 ปี 2565 พบว่ามีจำนวน 59,541 หน่วย มูลค่า 205,352 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 20,034 หน่วย มูลค่า 88,120 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านจัดสรร 39,507 หน่วย มูลค่า 117,231 มีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาด 3,522 หน่วย มูลค่า 13,812 ล้านบาท มีโครงการขายได้ใหม่จำนวน 7,868 หน่วย มูลค่า 24,880 ล้านบาท ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขาย 51,673 หน่วย มูลค่า 180,472 ล้านบาท
ทั้งนี้ในด้านอุปทานไตรมาส 2 ปี 2565 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งหมด"ลดลง"จากช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 โดยลดลงทั้งจำนวนหน่วย และมูลค่า ทั้งนี้จำนวนหน่วยลดลงร้อยละ -6.71 มูลค่าลดลงร้อยละ -3.97 เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยเสนอขายทั้งหมด ณ ไตรมาส 1 ปี 2565 ขณะที่หน่วยเสนอขายเพิ่มขึ้นโดยมีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน3,522 หน่วย มูลค่า 13,812 ล้านบาท จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกร้อยละ 19.14 มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.06โดยเป็นโครงการอาคารชุดเพียง 882 หน่วย มูลค่า 3,518 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านจัดสรร 2,640 หน่วย มูลค่า 10,295 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาภาพโดยรวมจะพบว่าโครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาส 2 โดยส่วนใหญ่มีเพียง 2 ทำเล คือ ศรีราชา-อัสสัมชัญ และทำเลหาดจอมเทียน ขณะที่โครงการบ้านจัดสรรกระจายอยู่ในหลายทำเล โดยส่วนมากจะเป็นการเปิดโครงการในพื้นที่ย่านนิคมอุตสาหกรรมและพื้นที่ใกล้เขตเมือง เช่น ทำเลนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้-อีสเทิร์น ทำเลเมืองระยอง ทำเลศรีราชา-อัสสัมชัญ และทำเลแหลมฉบัง
สำหรับสถานการณ์หน่วยเหลือขายในพื้นที่อีอีซี ณ ไตรมาส 2 ปี 2565 มีจำนวน 51,673 หน่วย" ลดลง"จากไตรมาสแรกร้อยละ -7.8 มูลค่า 180,472 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -5.5 เป็นโครงการอาคารชุด 18,088 หน่วย มูลค่า 80,629 ล้านบาท
ซึ่งทำเลที่มีอาคารชุดเหลือขายมากยังคงเป็นสูงสุด 3 อันดับแรก คือ อันดับ 1 โซนจอมเทียน 7,129 หน่วย มูลค่าโครงการ 36,759 ล้านบาท อันดับ 2 โซนพัทยา-เขาพระตำหนัก 4,883 หน่วย มูลค่าโครงการ 27,316 ล้านบาท อันดับ 3 โซนแหลมฉบัง 1,709 หน่วย มูลค่าโครงการ 3,095 ล้านบาท ซึ่งจะสังเกตได้ว่าแม้จะมีสินค้าใหม่เติมเข้ามาในตลาดแต่จำนวนหน่วยเหลือขายลดลง สถานการณ์โดยรวมไปในทิศทางการปรับตัวดีขึ้น
ด้านอุปสงค์ พบว่าในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 7,868 หน่วย มูลค่า 24,880 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการอาคารชุดเพียง 1,946 หน่วย มูลค่า 7,491 ล้านบาท ซึ่งทำเลที่มียอดอาคารชุดขายได้ใหม่มากยังคงเป็นสูงสุด 3 อันดับแรกคือ อันดับ 1 โซนหาดจอมเทียน 542 หน่วย มูลค่า 2,935 ล้านบาท อันดับ 2 โซนพัทยา-เขาพระตำหนัก 371 หน่วย มูลค่า 2,174 ล้านบาท อันดับ 3 โซนศรีราชา-อัสสัมชัญ จำนวน 303 หน่วย มูลค่า 731 ล้านบาท