กำลังซื้อลด-ต้นทุนพุ่งฉุดอสังหาฯหนุนคอนโดรีเซล-บ้านหรู-บ้านมือสองมาแรง

กำลังซื้อลด-ต้นทุนพุ่งฉุดอสังหาฯหนุนคอนโดรีเซล-บ้านหรู-บ้านมือสองมาแรง

แม้ว่าสัญญาณการฟื้นตัวตลาดอสังหาฯ ดีขึ้น แต่ผู้ประกอบการยังคงเผชิญปัญหาหลายด้าน ทั้งกำลังซื้อหดตัวจากภาวะเงินเฟ้อและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กระแส “คอนโดรีเซล-บ้านหรู -บ้านมือสอง” มาแรง!! ตอบโจทย์คนที่มีกำลังซื้อจำกัด

อัญชนา วัลลิภากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าราคาที่ดินและต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น สิ่งหนึ่งที่สะท้อนออกมาคือ การค้นหาบ้านมือสองสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 

แม้ว่าบางพื้นที่เช่นเชียงใหม่ปีนี้ ความสนใจบ้านใหม่สูงขึ้น 43.2% มือสองลดลงอยู่ที่ 3.1 แต่ที่น่าสนใจคือคอนโดในตลาดส่วนกลางอย่างกรุงเทพฯ-ปริมณฑล คู่แข่ง “ไม่ใช่”โครงการใหม่แต่เป็นโครงการเดิมที่ออกมารีเซล และขณะนี้ก็เริ่มเห็นคอนโดรีเซลได้รับความสนใจค่อนข้างสูงในเชียงใหม่เช่นกัน

“เชียงใหม่สนใจรีเซลโฮมในตัวเมือง หางดงสันทราย เพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญ และในระดับราคาบ้านเดี่ยว 5-10 ล้านบาท ที่สันทรายความสนใจรีเซลโฮมสูงกว่า นิวโฮม ส่วนทาวน์โฮมรีเซลได้รับความสนใจในพื้นที่ตัวเมืองมากกว่ารอบนอก”
 

กำลังซื้อลด-ต้นทุนพุ่งฉุดอสังหาฯหนุนคอนโดรีเซล-บ้านหรู-บ้านมือสองมาแรง

ขณะที่รายงานสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศไตรมาสแรก อุปทานมีแนวโน้มสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 64 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโอกาสเติบโตเพราะ “ราคาถูกกว่า" นอกจากนี้ ภาครัฐยังสนับสนุนการซื้ออสังหาฯ มือสองราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% ถึงสิ้นปี 2565

วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประเมินว่า ตลาดบ้านมือสองปีนี้จะเติบโต 9% ส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันสูงขึ้นและภาวะเงินเฟ้อ ทำให้หันมาพิจารณาซื้อบ้านมือสองที่ถูกกว่าและได้ทำเลที่ดี และยังได้รับการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองอีกด้วย 

ปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ตัวเลขการโอนบ้านเมืองสองสูงขึ้นเรื่อยๆ จากปี 2562 ที่มีมูลค่า 14,618 ล้านบาท ปี 2563 มูลค่า 15 ,835 ล้านบาท และปี 2564 มูลค่า 17,324 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการบ้านยังคงมีอยู่ไม่ได้หายไปไหนแค่เปลี่ยนจากมือหนึ่งไปมือสอง

ในฐานะผู้ประกอบการ ต้องปรับตัวจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กำลังซื้อลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ โดยพัฒนาโครงการตามความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เน้นราคาเข้าถึงง่าย เพราะปัจจุบันราคาอสังหาฯ โตเร็วกว่ารายได้

พีระ สุวรรณศรีนนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารงานโครงการ บริษัท ไลฟ์ แอนด์ ลีฟวิ่ง จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ ผู้ประกอบการทั้งที่อยู่ในและนอกตลาด ทั้งรายใหญ่และรายย่อยเริ่มเปิดตัวในพื้นที่อีอีซี เน้นโครงการแนวราบเป็นหลัก 80% ส่วนคอนโด 20 % เพราะยังมีสต็อกเหลือ ส่วนราคาสินค้าได้รับราคาขึ้น 5-10%

ปัจจุบันสถานการณ์การขายยังมีกำลังซื้อที่เป็นเรียลดีมานด์ เข้ามาอย่างต่อเนื่องโต 15-20% แต่ในกลุ่มลูกค้าระดับล่างที่มีปัญหาเรื่องกำลังซื้อ จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ทาวน์โฮมราคา 1.5-2 ล้านบาท ถูกปฏิเสธสินเชื่อถึง 40% !!

พีระ กล่าวว่าลูกค้าที่มีกำลังซื้อ และไม่มีปัญหาการขอสินเชื่อมักจะเป็นกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ราคา 3-5 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปมีผู้ประกอบการหลายรายจับตลาดกลุ่มนี้ เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและไม่มีปัญหาเรื่องการกู้

กำลังซื้อลด-ต้นทุนพุ่งฉุดอสังหาฯหนุนคอนโดรีเซล-บ้านหรู-บ้านมือสองมาแรง

สอดคล้องกับผลการสำรวจของ คอลลิเออร์ส ประเทศไทย คาดการณ์ว่าครึ่งปีหลังปี 2565 อุปทานเปิดขายใหม่ของบ้านระดับลักชัวรีราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปมากกว่า 750 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 35,000 ล้านบาท ส่งผลให้อุปทานเปิดขายใหม่ในปีนี้สูงกว่า 1,000 ยูนิตเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

และช่วง 5 ปี เปิดขายกว่า 4,127 ยูนิต มูลค่า 144,450 ล้านบาท!! โดยครึ่งแรกปี 65 พบว่า โครงการที่เปิดขาย 92.41% เป็นบ้านเดี่ยว รองลงมา คือ ทาวน์เฮ้าส์ 4.34% และบ้านแฝด 1.97%

“ทิศทางตลาดโซนอีอีซี ยังคงเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ส่วนบ้านหรู 10 ล้านบาทขึ้นไปจะได้รับการตอบรับมากขึ้นจากการเข้ามาของแรงงานนอกพื้นที่ และต่างชาติ ในระดับผู้บริหาร ในอนาคตจากอุตสาหกรรมนิว เอสเคิร์ฟ”พีระกล่าว