เปิดคลังความคิด-ขุมทรัพย์เศรษฐา ทวีสินแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย

เปิดคลังความคิด-ขุมทรัพย์เศรษฐา ทวีสินแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย

เปิดคลังความคิด-ขุมทรัพย์‘เศรษฐา ทวีสิน’ซีอีโอบิ๊กคอร์ป “แสนสิริ” เจ้าของอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์สินทรัพย์มูลค่ามากกว่าแสนล้านบาท เจ้าของฉายา “ซีอีโอสาย Call Out” ที่ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่และแคนดิเดตนายกฯจาก‘เพื่อไทย’กับภารกิจ‘แลนด์สไลด์’

หนึ่งในนักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทย “เศรษฐา ทวีสิน” ซีอีโอบิ๊กคอร์ป “แสนสิริ” เจ้าของอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์สินทรัพย์มูลค่ามากกว่าแสนล้านบาทในประเทศไทย นับเป็น “ผู้นำทางความคิด” ที่มีบทบาทในวงการธุรกิจ และฉายมุมมองเชิงสังคมด้วยแนวคิดที่ชัดเจน โดดเด่นในแวดวงโซเชียลมีเดีย

แน่นอนว่าหากเอ่ยชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก! โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นแฟนคลับติดตามผ่าน “ทวิตเตอร์”  ที่เศรษฐา น่าจะเป็นนักธุรกิจระดับสูงเพียงคนเดียวที่ใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารไอเดีย ความคิดของตนเองสู่สังคม อย่างเด่นชัด ตอกย้ำความเป็นตัวตน หรือคาแรคเตอร์ ที่มั่นใจในความคิด ความรู้  ประสบการณ์ที่สั่งสมมาที่พร้อมจะแบ่งปัน  โดยเฉพาะประเด็นทางสังคม การเมือง ที่เศรษฐาให้ความสนใจอย่างมาก จนได้ฉายา “ซีอีโอสาย Call Out”  ที่ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ เป็นส่วนสำคัญทำให้ “แสนสิริ” ติด 1 ใน 10 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย

และในสนามการเมือง! ทุกครั้งที่มีการขยับตัวของ “พรรคเพื่อไทย” ชื่อของ “เศรษฐา ทวีสิน”  มักถูกกล่าวถึงอยู่เสมอ พร้อมกับกระแส... ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป! มีมาอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งล่าสุดประจักษ์ชัดทีเดียวจากการเลือกตั้งทั่วไปที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2566 พรรคเพื่อไทยได้เสนอชื่อบุคคลเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หนึ่งในนั้น “เศรษฐา ทวีสิน” นักธุรกิจ ผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แห่งแบรนด์แสนสิริ วางประกบ  “แพทองธาร ชินวัตร” เรียกเสียงฮือฮาปลุกบรรยากาศการเมืองไทยที่กำลังนับถอยหลังเข้าโหมดการเลือก เลือกผู้นำประเทศคนใหม่ให้คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง!!

เปิดคลังความคิด-ขุมทรัพย์เศรษฐา ทวีสินแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย

“เศรษฐา ทวีสิน” นิคเนม “นิด” เกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ.2506 ปัจจุบันอายุ 59 ปี ด้านครอบครัว สมรสกับ แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญความงามด้านผิวพรรณ มีบุตรด้วยกัน 3 คน  

เศรษฐา จบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการเงินจาก Claremont Graduate School สหรัฐอเมริกา เริ่มต้นชีวิตทำงานเมื่อปี 2529 เป็นผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท P&G ประเทศไทย ก่อนก้าวสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันนั่งเก้าอี้ ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนธุรกิจผ่านร้อนผ่านหนาวพร้อมสร้างการเติบโตต่อเนื่อง โดยผลประกอบการปี 2564 มีรายได้ 29,747.52 ล้านบาท กำไร 2,017.28 ล้านบาท 

เปิดคลังความคิด-ขุมทรัพย์เศรษฐา ทวีสินแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย

“เศรษฐา" ถือหุ้นในแสนสิริลำดับ 4 จำนวน 661,002,734 หุ้น คิดเป็น 4.44% มูลค่ากว่า 707.2 ล้านบาท (จากราคาพาร์หุ้นละ 1.07 บาท มูลค่า ณ วันที่ 12 ต.ค. 2565) ข้อมูลล่าสุดเดือน มิ.ย.2565 แสนสิริ มีมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 121,231 ล้านบาท โดยธุรกิจหลักพัฒนาอสังหาฯ มีสัดส่วน 90% ธุรกิจอื่นๆ 10%

โดยนำส่งงบการเงินไตรมาส 2/2565 (สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2565) มีรายได้รวม 12,995.05 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,220.17 ล้านบาท

นอกจากนี้ นั่งเก้าอี้เป็นกรรมการบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกอย่างน้อย 1 แห่ง คือ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือแสนสิริ  บริษัทแห่งนี้เข้าจดทะเบียนเมื่อ 17 มี.ค.2538 นำส่งงบการเงินเมื่อปี 2564 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2564) มีรายได้รวม 150.60 ล้านบาท กำไรสุทธิ 88.12 ล้านบาท

เปิดคลังความคิด-ขุมทรัพย์เศรษฐา ทวีสินแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย

ในนามส่วนตัว “เศรษฐา” ยังปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอีกอย่างน้อย 44 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ไม่ต่ำกว่า 38 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทุนปัจจุบันรวมกันนับหมื่นล้านบาท

และมีบริษัทในเครือ “แสนสิริ” อย่างน้อย 6 แห่ง มีรายได้ในงบการเงินรอบปี 2564 เกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป ดังนี้ บริษัท ปารณัท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2560 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 10 ล้านบาท นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2564 มีรายได้รวม 2,491,377,084 บาท กำไรสุทธิ 533,685,582 บาท 

บริษัท จิรภาส เรียลตี้ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 22 ก.พ. 2560 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 10 ล้านบาท นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2564 มีรายได้รวม 2,046,936,070 บาท กำไรสุทธิ 141,338,503 บาท บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จดทะเบียน 27 ก.ย. 2539 ทุนปัจจุบัน 150 ล้านบาท นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 1,384,002,099 บาท กำไรสุทธิ 234,003,294 บาท

บริษัท อาณาวรรธน์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2546 ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 671,185,714 บาท กำไรสุทธิ 145,735,660 บาท บริษัท พิวรรธนา จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2546 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 664,420,237 บาท กำไรสุทธิ 61,777,568 บาท

บริษัท เอ็นอีดี แมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 19 พ.ค. 2547 ทุนปัจจุบัน 40 ล้านบาท นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2564 มีรายได้รวม 260,595,968 บาท ขาดทุนสุทธิ 13,326,372 บาท

ทั้งนี้ คาแรคเตอร์และคมคิดที่ชัดเจนของ “เศรษฐา” เป็น “จุดขาย” ที่สร้างความแตกต่างให้กับพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรง ของพรรคโลกเก่าและพรรคโลกใหม่หัวก้าวไกล 

ดีกรีผู้นำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนับเป็นทางเลือกใหม่ที่เติมเต็ม “ช่องว่าง” ทางการตลาดให้กับพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมา “เศรษฐา” ประกาศถึงแนวคิดและการให้ความสำคัญกับการแก้ไข “ปัญหาความเหลื่อมล้ำ” ซึ่งได้ยกเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลควรดำเนินการโดยด่วน เพราะมองว่าผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น คือ ช่องว่างทางด้าน “ความมั่งคั่ง” ระหว่าง “คนมี” กับ “คนไม่มี” ขยายตัวกว้างขึ้นอย่างน่ากลัว!  หากไม่เร่งปรับฐานสมดุลความมั่งคั่ง โอกาสที่จะเกิดความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจย่อมเป็นไปได้ยากยิ่ง

ยกตัวอย่างแนวทางลดความเหลื่อมล้ำที่ “เศรษฐา” ให้ความสำคัญในการลดช่องว่างทางสังคม ส่งเสริมความเท่าเทียม และสร้างความอย่างยั่งยืน ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาเพื่อช่วยเด็กเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษา โดยออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุน 100 ล้านบาท เดินหน้าโครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” นำร่อง จังหวัดราชบุรี และปี 2566 จะขยายไปอีก 4 อำเภอ ปี 2567 อีก 3 อำเภอ เพื่อช่วยเหลือทั้งเด็กปฐมวัยและเด็กนอกระบบกว่า 11,200 คน ที่เสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาในราชบุรี

หรือการเหมาขิง 80,000 กิโลกรัม จากเกษตรกรทางภาคเหนือ หลังประสบปัญหาเดือดร้อนหนัก ขิงราคาตกต่ำ ล้นตลาด ขาดคนรับซื้อ จากเดิมที่เคยขายได้ในราคา 20-30 บาท มาขายที่ “Sansiri Backyard” ในกิโลกรัมละ 5 บาท รายได้จากการขาย “แสนสิริ” สมทบทุนให้อีก 4 เท่า เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือซื้อผลผลิตของเกษตรกรที่เผชิญปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ

ปีที่ผ่านมาแสนสิริ ยังอุดหนุนแตงโมกว่า 14 ตัน จากเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ และลำไย 12 ตัน จากจังหวัดลำพูน เพื่อแจกจ่ายให้ลูกบ้านแสนสิริกว่า 1,000 ครัวเรือน และชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด รวมถึง “มะม่วง” จากเกษตรกรกว่า 6 ตัน ส่งไปช่วยเลี้ยงช้างที่จังหวัดเชียงใหม่ 

แสนสิริ ประกาศความมุ่งมั่นเดินหน้าช่วยเหลือสังคมทุกระดับอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการ “No One Left Behind” จะเห็นว่า ทุกโครงการ “เศรษฐา” มักสะท้อนความคิดเชิงแก้ปัญหาสังคมในเชิงโครงสร้าง ที่ “คนตัวใหญ่ ต้องช่วยคนตัวเล็ก” ที่เจ้าตัวบอกเสมอว่า “เป็นความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม เท่าที่จะทำได้ เพื่อเป็นต้นแบบ เพราะเชื่อว่า ทุกคนสามารถช่วยกันทำให้เศรษฐกิจสังคมไทยดีขึ้น”

ต้องยอมรับว่า...กิจกรรมเชิงสังคมช่วง 2-3 ปีที่ผ่านของ แสนสิริ และเศรษฐา  ตอบโจทย์สถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมได้อย่างโดดเด่น มีเอกลักษณะเฉพาะตัว ไม่นับรวมวิธีการสื่อสารกับประเด็นทางสังคมผ่าน “ทวิตเตอร์” อยู่เนืองๆ 

ล่าสุด กับเครื่องยนต์ภาคการท่องเที่ยวไทยกับการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ “เศรษฐา” แนะนำว่า รัฐควรเปิดฟรีวีซ่าให้กับคนจีน เพราะเชื่อว่า สุดท้ายแล้ว จีนต้องเปิดประเทศ! ไม่ว่าจะเป็นเดือนหน้าหรือต้นปีหน้า ซึ่ง “ไทย” เป็นเดสติเนชั่น สำคัญที่สุดของนักท่องเที่ยวชาวจีน และอีกสิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้คือเรื่องปากท้องประชาชน! ที่ต้องเร่งแก้ไข

จึงไม่น่าแปลกใจกับชื่อของ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ด้วยบุคคลิก “นักธุรกิจที่กล้าพูด กล้าตัดสินใจ” ไม่ต่างจาก “ทักษิณ ชินวัตร” หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนักการเมือง...นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 23 ซึ่งชัดเจนในการแสดงออกแนวคิดทางการเมืองในทิศทางเดียวกันโดยชูเรื่อง การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ “นำการเมือง”  ที่เป็น “จุดขาย” ของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอดรวมทั้งครั้งนี้ภายใต้เป้าหมายต้องการชนะเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์” เพื่อเป็นหลักประกันจัดตั้งรัฐบาล

ที่ผ่านมา “เศรษฐา” ได้ให้มุมมองการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 ว่า จะสามารถเปลี่ยนประเทศไทยได้! การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมาก ทุกคนต้องออกมาใช้สิทธิ์ หากชอบรัฐบาลเก่า นโยบายถูกใจ โดนใจ ก็ออกไปใช้สิทธิ์ ถ้าไม่ชอบอยากจะเปลี่ยน อยากเลือกคนอื่นก็ศึกษาให้ดีในการเลือกตั้งครั้งถัดไปนี้