“อนุทิน” ยันป้องสุขภาพคนไทย สั่งคุมเข้ม“บุหรี่ไฟฟ้า”
“อนุทิน” ยันป้องสุขภาพคนไทย สั่ง คร.คุมเข้ม“บุหรี่ไฟฟ้า” หวั่นกระแสนิยมกลุ่มวัยรุ่น ขณะที่บอร์ด สสส.- เครือข่ายการสร้างเสริมสุขภาพ ชื่นชมแสดงจุดยืนควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เห็นความสำคัญสุขภาพ เชื่อได้ใจประชาชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(บอร์ดสสส.) กล่าวภายในการประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ครั้งที่ 4/2565 ว่า ขอบคุณ สสส.ที่สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในหลายประเด็น โดยเฉพาะการควบคุมยาสูบ ปัจจุบันบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ หรือ บุหรี่ไฟฟ้า กำลังแพร่หลายในหมู่เยาวชน และพบว่ามีความพยายามผลักดันให้ถูกกฎหมาย ตนยืนยันว่า สธ. ไม่ให้การสนับสนุนต่อการกระทำใดที่จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นเรื่องถูกกฎหมายแน่นอน เพราะนิโคตินไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ และนำมาสู่โรคมากมาย
และที่ผ่านมาได้สั่งการให้กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค(คร.) ทบทวนว่า ต้องมีการออกกฎหมาย หรือแก้ไขกฎระเบียบในประเด็นใดหรือไม่ เพื่อให้การควบคุมดูแลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ได้รับการยืนยันว่า กฎหมายที่มีอยู่ยังสามารถสกัดกั้นบุหรี่ไฟฟ้าได้ ดังนั้นขอให้ สสส. และภาคีเครือข่าย สบายใจได้ว่า สธ. จะไม่เห็นชอบกับข้อเสนอที่ผู้ประกอบการยาสูบเสนอมาแน่นอน
ประเทศไทยมีความก้าวหน้าในเรื่องการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบอย่างมากจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ความสำเร็จเหล่านี้มาจากการผลักดันของ สสส. รวมถึง ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ซึ่งผมต้องขอแสดงความยินดีกับ ศ.นพ.ประกิต ที่ล่าสุดได้รับรางวัล Dr LEE Jong-wook Memorial Prize for Public Health จากองค์การอนามัยโลก ท่านถือเป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และเชื่อว่าทุกคนในประเทศรับทราบถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ และความมั่นคงในการรณรงค์การลดละเลิกสูบบุหรี่ของท่าน ในส่วน สธ. ก็ได้ท่านมาช่วยงานในหลายด้าน ทำให้ภารกิจเรื่องการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบดำเนินการได้อย่างคล่องตัว และได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างมาก
“ ได้มอบหมายให้ คร. ทำงานประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีอำนาจกำกับดูแลโดยตรงให้มากขึ้น ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหา ไม่เช่นนั้นบุหรี่ไฟฟ้าจะกลายเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเพราะเข้าใจผิดว่าสามารถทดแทนบุหรี่แบบปกติ ไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้นขอให้ สสส. ขับเคลื่อนรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น”นายอนุทินกล่าว
ด้านนพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานบอร์ดสสส. คนที่ 2 กล่าวว่า ในนามคณะกรรมการกองทุน สสส. และเครือข่ายการสร้างเสริมสุขภาพ ขอขอบคุณนายอนุทิน ที่ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งได้แสดงจุดยืนให้กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค ดำเนินการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ในการประชุมคณะกรรมการกองทุน สสส. ครั้งที่ผ่านมา กรรมการหลายท่าน แสดงความเป็นห่วง ในสถานการณ์ที่บริษัทผู้ประกอบการพยายามรุกคืบให้มีการนำเข้า และพยายามผลักดันให้ถูกกฎหมายในประเทศ ทั้งที่บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งเสพติดที่ไม่เกิดประโยชน์ เพราะมีสารประกอบจากสารเคมีที่ไม่ควรนำเข้าสู่ร่างกาย แต่ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.สาธารณสุขก็ยืนหยัด ในการไม่สนับสนุน และเดินหน้าให้กรมควบคุมโรค มีการควบคุมเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“บุหรี่ไฟฟ้า นับวันจะเข้ามาสร้างผลกระทบ ให้กับประเทศไทยในวงกว้าง และปัจจุบันพบว่าเริ่มมีการใช้เทคโนโลยีในการสังเคราะห์นิโคติน ที่ไม่ได้ใช้ใบยาสูบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าไม่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ เพราะเมื่อไม่ใช้วัตถุดิบที่มาจากใบยาสูบเป็นส่วนประกอบ ยิ่งทำให้ชาวไร่ยาสูบขาดรายได้ สรุปคือบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีผลดี ไม่ว่าจะเป็นในด้านใด ๆ ทั้งสุขภาพ หรือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในกลุ่มเกษตรกร ดังนั้นต้องควบคุมอย่างจริงจัง เพื่อยับยั้งการเข้ามาของบุหรี่ไฟฟ้าในทุกช่องทาง” นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว
นายศรีสุวรรณ ควรขจร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาชุมชน สสส. กล่าวว่า ขอขอบคุณ นายอนุทิน ที่เห็นความสำคัญปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในฐานะกรรมการแผนควบคุมยาสูบ สสส. เป็นห่วงแนวโน้มธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นของผิดกฎหมาย แต่กลับซื้อขายบนออนไลน์อย่างกว้างขวาง ทำให้ควบคุมยาก จึงควรมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ลุกลามไปถึงการซื้อขายออนไลน์ของสิ่งเสพติดประเภทอื่น
“การที่ท่านรองนายกฯ สั่งให้กรมควบคุมโรค ดูแลบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นไปตามกฎหมาย ถือเป็นของขวัญให้ประชาชน เพราะข้อมูลวิชาการชัดเจนว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ผมเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ พร้อมสนับสนุนสิ่งที่ท่านอนุทินและกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ” นายศรีสุวรรณ กล่าว