ใต้ตอนล่าง ปรุงอาหารกัญชา เมนูสุขภาพ “ยำตะไคร้สุขใจ” “ชากัญข้าวสังข์หยด”
เขตสุขภาพที่ 12 ขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ สู่การเป็นพืชเศรษฐกิจช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพของแต่ละจังหวัด เพิ่มมูลค่าอาหารท้องถิ่นด้วยกัญชา ชูเมนูสุขภาพ “ยำตะไคร้สุขใจ” “ชากัญข้าวสังข์หยด”
วันที่ 29 เม.ย.2565 ที่ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง จ.พัทลุง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 12 พร้อมปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “กัญชา กัญชงไทย ความมั่นคงทางสุขภาพและเศรษฐกิจของชาติ” โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานภาครัฐ เอกชน อสม.และประชาชนเข้าร่วมงาน
นายอนุทินกล่าวว่า หลังการปลดล็อคกัญชาจากการเป็นยาเสพติด ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน ที่จะให้ประชาชนสามารถปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพเบื้องต้น ต่อยอดเศรษฐกิจในครัวเรือน ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ทำให้เกิดการสร้างงาน อาชีพและรายได้ในระดับครัวเรือนและประเทศ ซึ่งจากการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ในหลายเขตสุขภาพที่ผ่านมา พบว่ามีการพัฒนาในทิศทางที่ดี ทั้งด้านกัญชาทางการแพทย์และการต่อยอดเป็นพืชเศรษฐกิจ มีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหาร เครื่องดื่ม ที่หลากหลาย และประชาชนให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์กัญชาเพิ่มมากขึ้น
สำหรับเขตสุขภาพที่ 12 มีการปลูกกัญชาเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พื้นที่ปลูกกัญชา 21 แห่ง 2,636.50 ตารางเมตร ปลูกกัญชง 17 แห่ง 22,102 ตารางเมตร มีการนำกัญชามาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพของแต่ละจังหวัด อาทิ สบู่กัญชาช่วยลดผดผื่นคัน ยาหม่องกัญชาช่วยผ่อนคลาย เจลกัญชาช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม น้ำมันไพลกัญ แก้ปวด คลายกล้ามเนื้อ และนำผลิตภัณฑ์ไปประยุกต์ใช้ในการบริการนวดแผนไทย รวมถึงใช้เป็นส่วนผสมในอาหารท้องถิ่น เป็นการต่อยอดสร้างรายได้ให้กับประชาชน
ผู้ประกอบการ และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ โดยเมนูสุขภาพที่นำเสนอคือ ยำตะไคร้สุขใจ ซึ่งมีวิตามินซีจากมะนาว และตะไคร้ช่วยลดความดันโลหิต มีแร่ธาตุสังกะสีและซีลีเนียม ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ส่วนเครื่องดื่มชากัญข้าวสังข์หยด มีวิตามิน แร่ธาตุ และคุณค่าทางโภชนาการสูง เมื่อผสมใบกัญชาในอาหารและเครื่องดื่มจะช่วยเพิ่มรสชาติและทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 12 ประกอบด้วย พัทลุง ตรัง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทุกจังหวัดมีโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการผลิตยาจากกัญชาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ได้แก่ รพ.ห้วยยอด จ.ตรัง, รพ.ป่าบอน จ.พัทลุง, รพ.สิงหนคร จ.สงขลา, รพ.ละงู จ.สตูล, รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี จ.ปัตตานี, รพ.สมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยะลา และ รพ.จะแนะ จ.นราธิวาส สามารถเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาลภาครัฐและคลินิกกัญชาทางการแพทย์ภาคเอกชน รวม 97 แห่ง ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงยากัญชาทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบัน โดยในปี 2564 มีผู้เข้ารับบริการในคลินิกกัญชาทางการแพทย์กว่า 7,000 คน และรับยากัญชากว่า 6,500 คน