อย.อนุมัติ วัคซีน “โมเดอร์นา”ใช้ในเด็ก 6 ปีขึ้นไป
อย.อนุมัติขึ้นทะเบียน “โมเดอร์นา” ใช้ในเด็ก 6 ปีขึ้นไป “โคโวแวกซ์” ใช้ในกลุ่ม 102 ปีขึ้นไปได้ เผยพร้อมปลดล็อกยาโมลนูพิราเวียร์ให้เอกชนซื้อเอง หากผู้ผลิตเลิกขึ้นทะเบียนฉุกเฉิน จ่อผ่อนคลายเปิดสถานบันเทิง ผับบาร์
เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติการขึ้นทะเบียนขยายความครอบคลุมอายุการใช้วัคซีนโคโวแวกซ์ จากเดิมที่อนุมัติให้ใช้ในกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นให้ใช้ได้ในกลุ่ม 12 ปีขึ้นไป เช่นเดียวกับวัคซีนโมเดอร์นาในชื่อสไปก์แวกซ์ ที่เดิมขึ้นทะเบียนใช้ได้ในกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป ขอขยายเป็นใช้ได้ในกลุ่มอายุ 6 ปีขึ้นไป
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับยาโมลนูพิราเวียร์ องค์การเภสัชกรรม(อภ.)สามารถผลิตได้เอง และสามารถนำเข้าได้ในราคาต้นทุนที่ถูกลงในราคาเม็ดละ 13 บาท จากเดิมที่ต้องใช้ราคา 8,000 บาทต่อคอร์สต่อคน ปัจจุบันเหลือ 600 บาทต่อคอร์สต่อคน ส่วนเรมเดซิเวียร์ จากเดิมราคา 1,200 บาทต่อเข็ม ปัจจุบันเหลือ 200 บาทต่อเข็ม แปลว่าการผลิตมากกว่าผู้ติดเชื้อแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีจะปลดล็อกให้สถานพยาบาลเอกชน สามารถนำเข้า และจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ได้เอง นายอนุทิน กล่าวว่า อย.พร้อมดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ปัจจุบันผู้ผลิตยังยื่นขึ้นทะเบียนยาเป็นการใช้ในภาวะฉุกเฉิน ทำให้ต้องสั่งซื้อโดยรัฐเท่านั้น แต่ถ้าผู้ผลิตมีการขึ้นทะเบียนเป็นแบบการใช้ทั่วไป อย.ก็พร้อมพิจารณา ซึ่งเป็นการดีที่จะเป็นแนวโน้มหนึ่งที่ทำให้เห็นอีกขั้นตอนของการที่โควิด-19 จะเป็นโรคประจำถิ่น ส่วนการจัดซื้อโดยรัฐบาล ยืนยันว่าจะต้องได้สิ่งที่ดี มีประสิทธิภาพดีและราคาดี
ถามถึงการเปิดสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคเร่งหามาตรการเพื่อให้สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะสามารถเปิดดำเนินการได้ แต่จะต้องให้ประชาชนตระหนักรู้ในการป้องกัน ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ไม่เหมือนทุกครั้ง สมัยก่อนยังมีความเห็นต่าง บางคนยอมแต่บางคนไม่ยอมให้เปิด แต่ครั้งนี้จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้ดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวโน้มประเทศไทย โควิดจะเข้าสู่โรคประจำถิ่นได้เร็วกว่าเดือนก.ค.ตามเป้าหมายเบื้องต้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปเน้น เพราะหากเทียบสงกรานต์ปีนี้กับปีที่แล้ว พบว่าปีนี้ทุกคนเดินทางได้ มีความสุขมากขึ้น ร้านค้าได้ขายของ แต่ที่สำคัญคือ คนไทยยังสวมหน้ากากอนามัยอยู่เป็นเรื่องที่ต้องปลื้มใจ อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยมากขึ้น แต่หย่อนมาตรการหน้ากากอนามัยก็ต้องเตือน หรือประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแล ซึ่งตรงนี้อาจต้องมีมาตรการดูแล แต่หากมองในแง่ของเรื่องเศรษฐกิจก็เป็นการกลับมาของนักท่องเที่ยวที่ทำให้ประเทศไทยมีชีวิตชีวามากขึ้น ตอนนี้ไม่ใช่การควบคุมโรค เป็นการควบคุมพฤติกรรม สังเกตคนรอบข้างให้สวมหน้ากากอนามัย
“โควิด-19 จะต้องกลายเป็นโรคประจำถิ่นแน่นอน จะเป็นอีกโรคหนึ่ง ที่คนติดเชื้ออาการไม่มากก็รักษาตัวเอง เดินไปร้านขายยาซื้อได้เอง ส่วนผู้ป่วยอาการรุนแรงก็จะมียาอีกขนานในการดูแล แนวโน้มค่ายา เวชภัณฑ์ วัคซีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ต้นทุนการรักษาโควิด-19 ก็ดีขึ้น รวมถึง มีการพัฒนายาใหม่ๆ ออกมา ในส่วนของ สธ.ก็มีการเตรียมความพร้อม 3 พออยู่แล้ว หมอพอ ยาพอ และเตียงพอ”นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. กล่าวว่า อย.มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญเพื่อขยายขอบเขตอายุผู้รับวัคซีน มติอนุมัติ
1.วัคซีนโคโวแวกซ์ (เหมือนวัคซีนโนวาแวกซ์) ขยายใช้ในอายุ 12-17 ปี จากเดิมที่เคยให้ในผู้ที่อายุเกิน 18 ปี โดยให้ขนาด 5 ไมโครกรัม (0.5 มิลลิกรัม) 2 โดส ห่างกัน 3 สัปดาห์ เหมือนกับในผู้ใหญ่
2.วัคซีนสไปก์แวกซ์ (Spikevax) (โมเดอร์นา) ขยายอายุ 6-11 ปี จากเดิมที่เคยให้ไว้ 12 ปีขึ้นไป ให้ขนาด 50 ไมโครกรัม (0.25 มิลลิกรัม) เป็นขนาดครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่(ใช้วัคซีนแบบเดียวกับของผู้ใหญ่) โดยให้ 2โดส ห่างกัน 4 สัปดาห์
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์