บางจังหวัดพื้นที่เขียว-ฟ้า พิจารณาปรับการใส่หน้ากากอนามัยก่อน
โควิด-19 ระบาดกลุ่มก้อนร.ร.ประจำ แยกโซนดูแล ไม่ต้องปิดเรียน อาจพิจารณาบางจังหวัดในพื้นที่เขียว-ฟ้าถอดหน้ากากก่อน ย้ำวัคซีนเข็มกระตุ้นสำคัญมาก ป้องกันป่วยหนัก-เสียชีวิตสูง ฉีด 3 เข็ม ป้องกันได้ 93% ใกล้เคียงกันทุกสูตร
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2565 นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง ขณะนี้ต่ำกว่าเส้นคาดการณ์สีเขียว แสดงว่าเราดำเนินการได้อย่างดี ประชาชนร่วมกันปฏิบัติตัวป้องกันตนเอง ดีใจที่คนยังสวมหน้ากากเพราะช่วยลดการแพร่เชื้อได้ ส่วนหลังเปิดเทอมขณะนี้เริ่มพบการระบาดเป็นหย่อมเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียน แต่ไม่มาก เป็นในบางโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนประจำ
ซึ่งสามารถแยกโซนโดยไม่ต้องปิดโรงเรียน จึงขอให้เน้นการสวมหน้ากากและเว้นระยะห่าง ส่วนสถานการณ์ป่วยปอดอักเสบลดลงต่อเนื่องและเริ่มคงตัว ต้องดูว่าสัปดาห์หน้าจะลงต่อหรือไม่ ซึ่งปอดอักเสบเริ่มทรงตัว แสดงว่าการติดเชื้ออยู่ในเกณฑ์คงตัว ทั้งนี้ หลายจังหวัดมีการผ่อนคลายมากขึ้น จึงต้องเตรียมความพร้อมหากพบติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน ทั้งที่ รพ. และสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อสอบสวนโรค
ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจดูเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในช่วงขาลงอยู่ ยังปลอดภัยในหลายจังหวัด โดยการครองเตียงสีเหลืองและแดงต่ำกว่า 20% ถือว่าเรามีเตียงพอหากระบาดขึ้นและพบป่วยหนักจำนวนมาก ส่วนผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง ช่วงขาลงหลายคนสบายใจผ่อนคลายมากขึ้น แม้จะผ่อนคลายแต่ต้องสร้างภูมิคุ้มกันกลุ่มเสี่ยงไว้ ไปรับวัคซีน รวมถึงเด็กเล็กอายุ 5-11 ปี ควรไปฉีดด้วย เพราะเปิดเรียนแล้วอาจติดเชื้อไปได้" นพ.จักรรัฐกล่าว
“การคาดการณ์ลดลงต่อเนื่องต่ำกว่าเส้นสีเขียวที่เคยคาดการณ์ไว้ แสดงถึงทำงานกันได้อย่างดี ประชาชนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตัวการป้องกัน และน่าดีใจที่ทุกคนยังสวมหน้ากากอนามัยอยู่ ช่วงนี้ที่พบระบาดส่วนใหญ่เป็นหย่อมเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียนหลังเปิดเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนประจำ แต่จำนวนไม่มาก สามารถแยกโซนรักษาโดยไม่ต้องปิดโรงเรียน เน้นย้ำให้นักเรียนสวมหน้ากากอนามัยเวลาเรียนและขณะอยู่ใกล้กัน ทั้งนี้แม้จะมีมาตรการผ่อนคลายมากขึ้น แต่กลุ่มวัยเรียน 5-11 ปี และกลุ่ม 608 ยังต้องให้ความสำคัญรณรงค์ให้ฉีดวัในการป้องกันการติดเชื้อเปิดประเทศต้องเร่งฉีดเข็มกระตุ้น”นพ.จักรรัฐกล่าว
ด้านนพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้ศึกษาประสิทธิผลวัคซีนโควิด- 19 จากการใช้จริงช่วงการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค.2565 จากผู้ฉีดวัคซีนกว่า 5 แสนราย พบว่า ฉีด 2เข็ม ป้องกันติดเชื้อน้อยมาก ป้องกันป่วยหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตได้ 75% ฉีด 3 เข็ม ป้องกันติดเชื้อได้ 15 % ป้องกันป่วยหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตได้ 93% ฉีด 4 เข็มป้องกันติดเชื้อได้ 76% ป้องกันป่วยอักเสบใส่ท่อหายใจได้ 99 % โดยไม่พบการเสียชีวิตในการศึกษานี้
" ยืนยันทุกสูตรที่ใข้มีประสิทธิผลสูงป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต หากอยากเปิดประเทศกลับไปใช้ชีวิตปกติ จำเป็นต้องฉีด 3 เข็มขึ้นไปให้ได้ 60 % ขึ้นไป ขณะนี้ผู้สูงอายุฉีดเข็ม 3 ได้เพียง 43% ยังเหลืออีก 6 ล้านคนที่ยังไม่ฉีด เพราะกลัวผลข้างเคียง ยืนยันวัคซีนปลอดภัย ส่วนคนทั่วไปฉีดไปได้ 40 %"นพ.ทวีทรัพย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการพิจารณาให้ถอดหน้ากากบางพื้นที่ นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวว่า หน้ากากเป็นมาตรการป้องกันส่วนบุคคลที่ป้องกันการติดเชื้อ โดยเฉพาะพื้นที่ปิด อับ และที่มีการสัมผัสใกล้ชิด เป็นมาตรการสำคัญป้องกันการระบาดและเพื่อกลับไปใช้ชีวิตปกติ เงื่อนไขการถอดจะพิจารณาในพื้นที่ที่มีความพร้อมทั้งเรื่องการฉีดวัคซีนให้ได้ 60 % ขึ้นไป อาจจะเริ่มในพื้นที่สีเขียว สีฟ้าที่พร้อม โดยพิจารณาเป็นรายพื้นที่ไม่ใช่ทุกจังหวัด และผ่อนคลายในพื้นที่โล่งแจ้งก่อน โดยกระทรวงสาธารณสุขจะพิจารณาออกเป็นคำแนะนำและแจ้งศบค.ทราบ