วัยรุ่นรับบริการสุขภาพจิตไม่มีผู้ปกครองเพิ่ม1.5 เท่า ย้ำสิทธิทำได้
วัยรุ่นรับบริการปรึกษาสุขภาพจิตโดยไม่มีผู้ปกครองเพิ่มขึ้น 1.53 เท่า ในกลุ่มนี้มีความคิดทำร้ายตนเองเพิ่มขึ้นถึง 2.67 เท่า ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคซึมเศร้าถึง 70% ย้ำมีสิทธิเข้ารับบริการได้ฟรี ข้อมูลไม่รั่วไหล
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ผลการตรวจเยี่ยมบริการด้านสุขภาพจิตในภูมิภาค พบว่ามีการขยายบริการสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นอย่างก้าวกระโดด สามารถเพิ่มการเข้าถึงบริการได้ไม่ต่ำกว่า 30 % ซึ่งเป็นผลดีต่อการช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความเครียด และปัญหาทางจิตใจอื่นที่พบเพิ่มขึ้นในเด็กและวัยรุ่นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย การขยายบริการสุขภาพจิตนี้ เป็นผลจากที่การเพิ่มเติมบริการจากกระทรวงสาธารณสุข โดยในปี 2564 มีจิตแพทย์เด็กกระจายตัวอยู่ใน 55 จังหวัดทั่วประเทศ และจะเพิ่มเป็น 63 จังหวัดในปี 2568
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายชัดเจนในการสร้างความร่วมมือเป็นเครือข่ายกับหลายกระทรวงและหน่วยงานในการเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิตในเด็กและวัยรุ่น อาทิ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และที่สำคัญคือการร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในการดำเนินระบบสุขภาพจิตโรงเรียนวิถีใหม่หรือ School Health HERO เพื่อให้การปรึกษาแก่บุคลากรทางการศึกษาในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพจิต
ปัจจุบันสามารถดูแลครอบคลุม 3,444 โรงเรียน ใน 46.6 %ของอำเภอทั้งหมดในประเทศไทย นักเรียนได้รับการเฝ้าระวัง 230,891 ราย กลุ่มเสี่ยง 69.34% ได้รับการดูแลช่วยเหลือจนดีขึ้น ในการนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) อยู่ในระหว่างการขยายผลใช้งานให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น และจะนำมาสู่การเข้าถึงบริการที่เพิ่มขึ้นต่อไป
พญ.ดุษฎี จึงศิรกุลวิทย์ ผู้อำนวยการกองบริหารระบบริการสุขภาพจิต กล่าวว่า ปัจจุบันกรมสุขภาพจิต ได้พัฒนาช่องทางเพื่อช่วยเหลือเยาวชนในทุกมิติ ในระยะหลังมีวัยรุ่นที่ต้องการรับการปรึกษาด้านจิตใจแต่ไม่ประสงค์ให้พ่อแม่ผู้ปกครองหรือครูรับทราบ จากสถิติการให้บริการวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี ของสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ซึ่งเป็นหน่วยบริการเฉพาะทางด้านจิตเวชวัยรุ่น พบว่า ในปี 2565 มีเยาวชนขอเข้ารับบริการโดยไม่มีผู้ปกครองเพิ่มขึ้น 1.53 เท่า ในกลุ่มนี้มีความคิดอยากฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตนเองเพิ่มขึ้นถึง 2.67 เท่า และได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคซึมเศร้าถึง 70%
“สิทธิของเด็กนั้นสามารถเข้ารับบริการสุขภาพจิตแบบผู้ป่วยนอกโดยลำพังได้ หากมีความสามารถในการตัดสินใจ เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และพระราชบัญญัติสุขภาพจิตแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 กรมสุขภาพจิตได้ดำเนินการเร่งประชาสัมพันธ์ช่องทางการเข้าถึงบริการดังกล่าวนี้ โดยสามารถโทรศัพท์เพื่อนัดหมายหรือใช้กลไกการส่งต่อกับหน่วยงานสุขภาพในจังหวัด รวมถึงโทร 1323 หรือ Line @ 1323 for Thai”พญ.ดุษฎีกล่าว