ลงทะเบียนจดแจ้งปลูกกัญชา กัญชงแล้วกว่า 1 แสนราย กำชับห้ามจำหน่ายให้ 3 กลุ่ม
อย.เผยลงทะเบียนจดแจ้งปลูกกัญชา กัญชงแล้วกว่า 1 แสนราย กำชับห้ามจำหน่าย “กัญชา” ให้คน 3 กลุ่มระบุไว้ในแอปฯปลูกกัญจดแจ้งการปลูก ฝ่าฝืนโดน ”แบล็คลิสต์” อาจส่งผลต่อการปลูก สธ.ตั้งคกก.ติดตามเฝ้าระวังการนำไปใช้ทางที่ไม่เหมาะสม ถกสคบ.14มิ.ย.นี้ คุมโฆษณาชวนปาร์ตี้
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีการปลดล็อกกัญชากัญชง #ใช้กัญชาอย่างเข้าใจ นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ ประธานที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข ในฐานประธานคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ กล่าวว่า ตามที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 9 มิ.ย. 2565 ทำให้ทุกส่วนของกัญชากัญชงไม่เป็นยาเสพติด ยกเว้นสารสกัดที่มีสาร THC เกิน 0.2% โดยน้ำหนักที่ยังคงเป็นยาเสพติด
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำถึงนโยบายที่รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขผลักดันมาตลอด คือการนำกัญชากัญชง มาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ การดูแลสุขภาพ การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ให้แก่ประชาชน โดยไม่มีการสนับสนุนให้ใช้กัญชากัญชงในทางที่ไม่เหมาะสม สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีส่วนประกอบของกัญชากัญชงและสารสกัด CBD
เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและตำรับยาไทย มากถึง 1,181 รายการ โดยผลการวิจัยของธนาคารกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี 2564 คาดว่าในปี 2569 ตลาดกัญชงจะเจริญเติบโตและมีมูลค่ามากถึง 15,000 ล้านบาท และอาจจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่านี้ เนื่องด้วยมีการประเมินมูลค่าตลาดกัญชาที่ถูกกฎหมายทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 500,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตมากกว่า17% โดยกัญชาในอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพสร้างรายได้ถึง 70% ของมูลค่าทั้งหมด ทั้งนี้ สธ.ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ เพื่อร่วมกันสื่อสารทำความเข้าใจการใช้กัญชา กัญชงที่ถูกต้องกับประชาชน และคณะกรรมการติดตาม เฝ้าระวังการใช้กัญชา
นพ. เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเองได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับในเรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนในการนำกัญชากัญชงไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การออกประกาศกำหนดให้กลิ่นควันกัญชากัญชงเป็นเหตุรำคาญ ตามพรบ.การสาธารณสุข ซึ่งตนจะลงนามในวันที่ 8 มิ.ย.2565 โดยจะมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ รวมถึง ห้ามจำหน่ายให้ใช้ในสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จะเห็นได้ว่า ไม่ครอบคลุมการนำไปใช้ในเชิงบันเทิงหรือสันททนาการ ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ของสธ.
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า สธ.ได้มีการตั้งคณะกรรมการในการติดตามการใช้กัญชาเมื่อมีการปลดล็อกแล้ว เพราะอาจมีการใช้กัญชามากกว่าที่คิดและในรูปแบบต่างๆ และมีการใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ปริมาณมากเกินไป หรือใช้ในแบบเกิดการเร่งปฎิกิริยา หรือสารสกัดผสมส่วนอื่นๆ อาจจะมทีภาวะที่เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ ซึ่งจะมีการติดตามเข้ามาในระบบติดตามรายงานการเจ็บป่วย มีผลต่อจิตใจ ต่อสุขภาพจิต มีการตั้งกลุ่มงานจิตเวชศาสตร์และยาเสพติดในทุกจังหวัดอยู่แล้วและ มีเตียงรองรับอยู่แล้ว รวมถึง การใช้ในทางที่ไม่เป็นประโยชน์เกิดภาวะมึนเมา จนเกิดอุบัติเหตุ ก็จะมีการติดตามว่าเกิดมากขึ้นหรือไม่ เพื่อหาวิธีการแก้ไขต่อไป เป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ และป้องปรามไม่ให้ใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมต่อไป
ด้านนพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ต้องการปลูกกัญชากัญชง สามารถปลูกได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่จะต้องมีการจดแจ้งผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซค์ ปลูกกัญ ของอย. ที่จัดทำขึ้นและสามารถถอนการจดแจ้งได้เมื่พบการกระทำความผิดที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกระทรวสาธารณสุข ทั้งนี้ การจดแจ้งแอปพลิเคชันปลูกกัญนั้นเป็นไปเพื่อรักษาสิทธิของผู้ปลูกก่อนที่ พ.ร.บ.กัญชากัญชงจะประกาศบังคับใช้ โดยแจ้งตามวัตถุประสงค์การปลูก ซึ่งการปลดล็อกนี้จะทำให้ประชาชนสามารถปลูกเพื่อดูแลสุขภาพของตนเองและใช้ในครัวเรือน เพื่อนำไปใช้ในการปรุงยาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายของกรณีที่เป็นแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้าน และเพื่อใช้ในเชิงพาณิซย์หรือในทางอุตสาหกรรมได้ ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเพื่อขอจดแจ้งแล้วเกือบแสนราย
สำหรับการผลิตแปรรูปส่วนอื่น ๆ ของพืชกัญชากัญชง เช่น ใบ ช่อดอก ก้าน ราก ไม่ต้องขออนุญาตยาเสพติด ส่วนสารสกัดถ้ามี THC เกิน 0.2% ถือเป็นยาเสพติด ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีพืชกัญชากัญชง หรือสารสกัดกัญชากัญชง เป็นส่วนประกอบ เช่น ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหาร เครื่องสำอางให้ขออนุญาตตามกฎหมายผลิตภัณฑ์นั้น เช่น ยาน้ำมันกัญชา ยาแผนไทยที่มีใบ ช่อดอก ราก ฯลฯ เป็นส่วนผสมต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร กรณีเป็นแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้าน หากจะใช้กัญชากัญชง ไปปรุงยาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย ได้รับการยกเว้นตาม พ.ร.บ. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ให้ทำได้ตามการประกอบวิซาชีพโดยไม่ต้องขอใบอนุญาตผลิต หากมีข้อสงสัยเรื่องการปลูก การสกัด หรือการขออนุญาตผลิตผลิตภัณฑ์ให้สอบถามเพิ่มเติมโทร 1556 กด 3 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้น ๆ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ กล่าวว่า ต้องการสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจทั้งประโยชน์และข้อควรระวังมากขึ้น และทำความเข้าใจที่ถูกต้องในสังคมรวมถึงการประเมินติดตาสถนการณ์ให้ประชาชนใช้กัญชาอย่างถูกต้องอย่างเข้าใจ โดยการปรุงอาหารที่ใช้ส่วนต่างๆของกัญชาจะต้องมีความระมัดระวังไม่ให้เกิดผลเสียและหากใส่กัญชามาเกินพอดี อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์และเสียลูกค่าในร้านอาการได้ ขณะที่ผู้ปลูกเพื่อจำหน่ายควรมีการศึกษาให้ชัดเจนในเรื่องสายพันธุ์ วิธีการปลูก และคุณภาพให้เป็นไปตามผลิตภัณฑ์ของผู้ซื้อเพื่อป้องกันความเสียหายในทางธูรกิจของผู้ปลูกกัญชากัญชงเอง และควรระวังว่ากัญชาไม่สามารถนำติดตัวไปยังต่างประเทศได้ หากยังไม่มีใบรับรองทางการแพทย์หรือประเทศเหล่านั้นกำหนดให้กัญชายังเป็นยาเสพติดหรือห้ามนำเข้าจากประเทศอื่น
ผู้สื่อข่าวถามถึงการห้ามจำหน่ายในคน 3 กลุ่มมีการกำหนดไว้ในกฎหมายส่วนไหน นายปานเทพ กล่าวว่า การห้ามจำหน่ายให้กับหญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นข้อกำหนดไว้ในร่างพรบ.กัญชา กัญชง พ.ศ.... แต่เมื่อกฎหมายยังไม่ออก จึงมีการระบุให้ทราบไว้ในแอปพลิเคชั่นปลูกกัญ และเวบไซต์ เท่ากับผู้ที่จดแจ้งการปลูกจะรับทราบข้อความนี้ หากมีการตรวจสอบพบว่ามีการดำเนินการนอกเหนือจากที่มีการระบุไว้ ก็จะโดนบันทึกขึ้นแบล็คลิสต์ไว้ หากเมื่อพรบ.กัญชา กัญชง พ.ศ....มีผลบังคับใช้ในอนาคตอาจส่งผลต่อการปลูกของบุคคลนั้นได้
ถามถึงการป้องกันนักเสพหน้าใหม่ นายปานเทพ กล่าวว่า นักเสพหน้าใหม่ ตนคิดว่าในประเทศไทยมีนักเสพติดทุกชนิด ไม่ได้แปลว่าประกาศนี้เกิดขึ้นแล้วจะเกิดนักเสพหน้าใหม่ เราต้องสื่อสารเรื่องโทษ กฎกติกาที่มีอยู่ขณะนี้นำมาใช้ ทั้งเหตุรำคาญ การโฆษณา การเสพเมาแล้วก่อความวุ่นวาย ต้องมีมาตรการ แต่สิ่งที่คนพูดน้อยอยู่คือการให้ความรู้ประชาชน เพื่อให้เกิดการระวัง ตนมองว่าควรอยู่ในระดับโรงเรียนด้วยซ้ำ ให้ทราบข้อควรระวังกับเยาวชนว่าหากใช้เพื่อสันทนาการต่อเนื่องจะส่งข้างเคียงอะไร เช่น ลดฮอร์โมนเพศชาย เชื่อว่าถ้าประชาชนทราบก็คงไม่ใช้อย่างไม่ถูกต้องได้
กรณีการโฆษณากิจกรรมเกี่ยวกับกัญชาในเชิงสันทนาการ นพ.ธงชัย กีรติหัถยากร รองปลัดสธ.กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จะมีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ จึงต้องฝากสังคมทำความเข้าใจว่าไม่สามารถทำได้ เพราะการปลดล็อกมาเพื่อดูแลสุขภาพ ไม่ใช่ทำลายสุขภาพ เพราะกัญชามีโลหะหนักอยู่