จดแจ้งปลูกกัญชาต้องยอมรับ 3 ข้อ ก่อนถูกขึ้น "แบล็คลิสต์"

  หลังจากเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2565 เป็นการปลดล็อกัญชา กัญชงทุกส่วนจากยาเสพติด เว้นแต่สารสกัดที่มีสารTHCเกิน 0.2 %ที่ยังเป็นยาเสพติด ทำให้ในการปลูกไม่จำเป็นต้องขออนุญาต แต่เพียงจดแจ้งผ่านระบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ”ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)

        เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2565  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังปลดล็อกกัญชา กัญชง มา 2 วันว่า ได้รับทราบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เกี่ยวกับการรับจดแจ้งปลูกกัญชา กัญชง ณ เวลา 09.00 น. วันที่ 10 มิ.ย.2565 ผ่านแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ “ปลูกกัญ” มีการลงทะเบียนกว่า 2 แสนคน ออกใบรับจดแจ้งปลูกกัญชาเกือบ 3 แสนใบ และมีคนไทยทั่วประเทศ เข้าใช้งานระบบ 22,892,790 ครั้ง เป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าทุกท่านมีความสนใจ เห็นความสำคัญของพืชกัญชา กัญชง ที่ถูกกฎหมายเป็นครั้งแรกของประเทศไทย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับใบรับจดแจ้งปลูกกัญชาใบแรกนั้น รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามให้กับผู้ที่จดแจ้งชื่อว่า “อนุทิน ชาญวีรกูล”

ขั้นตอนอจดแจ้งปลูกกัญชา
        ระบบออนไลน์สามารถจดแจ้งได้ทาง แอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” และเว็บไซต์ http://plookganja.fda.moph.go.th โดยแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android เพื่อออกใบรับจดแจ้งในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 

      จดแจ้งเพียง 3 ขั้นตอนง่าย ๆ  คือ 1. ลงทะเบียน 2. จดแจ้งตามวัตถุประสงค์ 3. รับเอกสารจดแจ้งอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะทำให้ทราบจำนวนและแหล่งที่ปลูกกัญชา และกัญชงทั่วประเทศ อีกทั้ง ยังเป็นแหล่งข้อมูลให้ผู้ประกอบการแสวงหาวัตถุดิบเพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานออกสู่ตลาด เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย

    นอกจากนี้ อย. ได้อบรมเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด กรุงเทพมหานคร และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในการจดแจ้งปลูกกัญชา กัญชง ผู้สนใจสามารถรับชมวิดีโอวิธีการจดแจ้งผ่านแอปพลิเคชันหรือจดแจ้งผ่านเว็บไซต์ของ  อย. หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ call center โทร 1556 กด 3 รองเลขาธิการฯ กล่าวในที่สุด
3 ข้อต้องรับทราบก่อนจดแจ้งปลูกกัญชา  

      อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลจากภาคส่วนต่างๆในสังคม ถึงการนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ผิดวิธีหรือปริมาณมากเกินไป จนเกินกว่าขอบเขตของนิยามการนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และดูแลสุขภาพ  

      ในการจดแจ้งจึงมีการให้ผู้ที่จดแจ้งรับทราบและยอมรับว่า 1.ห้ามจำหน่ายให้ใช้ในสตรีมีครรภ์ 2.สตรีให้นมบุตร และ3.ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

        นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ อธิบายว่า การห้ามจำหน่ายให้กับหญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นข้อกำหนดไว้ในร่างพรบ.กัญชา กัญชง พ.ศ.... แต่เมื่อกฎหมายยังไม่ออก จึงมีการระบุให้ทราบไว้ในแอปพลิเคชั่นปลูกกัญ และเวบไซต์ เท่ากับผู้ที่จดแจ้งการปลูกจะรับทราบข้อความนี้ หากมีการตรวจสอบพบว่ามีการดำเนินการนอกเหนือจากที่มีการระบุไว้ ก็จะโดนบันทึกขึ้นแบล็คลิสต์ไว้ หากเมื่อพรบ.กัญชา กัญชง พ.ศ....มีผลบังคับใช้ในอนาคตอาจส่งผลต่อการปลูกของบุคคลนั้นได้