บทเรียนสำคัญของ “เคนดัล-ไคลี่ เจนเนอร์” (หรือเปล่า)

เหมือนถูกกระชากไปตบกลางสี่แยก

หากจะใช้วลีนี้บรรยายความรู้สึกของพี่น้องสองสาว เคนดัล-ไคลี่ เจนเนอร์ ก็คงจะไม่ผิดจากความเป็นจริงเท่าไรนัก

 

ก็ในเมื่อพวกเธอถูกรุมสับเสียเละเรื่องที่คิดจะทำเสื้อยืดโดยเอาหน้าหรือโลโก้ของตัวเองไปแปะทับอยู่บนหน้าศิลปินฮิพฮ็อพ และร็อกเกอร์รุ่นใหญ่อย่าง Notorious B.I.G., Tupac Shakur, The Doors, Ozzy Osbourne, KISS แล้วเตรียมวางขายถึงตัวละ 125 ดอลลาร์ (ตก 4 พันกว่าบาท) โดยอ้างว่าเป็นเสื้อ made-to-orders ที่จะมีเพียงแค่ตัวเดียวในโลก

 

 

การกระทำของทั้งคู่ทำให้ได้รับคำตำหนิติเตียนมากมาย ทั้งจากคนในวงการ และคนนอกวงการ เพราะนอกจากจะเป็นการดูหมิ่นดูแคลน และไม่ให้เกียรติศิลปินที่ถูกนำภาพมาใช้แล้ว (แถมแต่ละคนยังเป็นระดับตำนานของวงการกันทั้งนั้น) เคนดัลกับไคลี่ยังไม่มีการขอลิขสิทธิ์จากใครเลยด้วย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าคนที่ทำธุรกิจแบบพวกเธอจะไม่คำนึงถึงเรื่องนี้ไปได้

 

 

 

แม้จะรีบออกมาขอโทษว่า “คิดน้อยเกินไป” แล้วจะนำความผิดพลาดเรื่องนี้ไปบทเรียน แล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าความโกรธาจะยังไม่หมดไปง่าย ๆ สาเหตุส่วนหนึ่ง ถ้าให้พูดตรง ๆ ก็ต้องบอกว่าเพราะทั้งคู่เป็นที่หมั่นไส้อยู่แล้วด้วยความที่เข้าวงการมาได้ด้วยเส้นสายของสาวไฮโซตระกูลคาร์ดาเชียนที่โด่งดังมาจากซีรีส์เรื่อง Keeping Up with the Kardashians

ทว่าคนที่เขม่นพวกเธอก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเคนดัลกับไคลี่นั่นโด่งดัง และมีอิทธิพลในหมู่คนหนุ่มสาวจริง ทั้งคู่มีคนติดตามไอจีมหาศาลติดลำดับต้น ๆ ของโลก (เคนดัล 82 ล้านคน, ไคลี่ 95 ล้านคน) ไม่ว่าจะใส่อะไร ใช้อะไร หรือออกอะไรมาขาย คนก็แห่ไปซื้อตามจนขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาที ทีนี้ พอทั้งคู่ถึงคราวพลาดชนิดไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ มาหักล้างได้ก็เลยโดนรุมกระหน่ำหนักหน่อยเป็นเรื่องธรรมดา

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะอับอายขายหน้า และเสียรังวัดจากเรื่องนี้ไปไม่น้อย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์แบรนด์สินค้าของเซเลบริตี้อย่าง ฟิล พอลเลน กลับมองว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบกับพวกเธอแค่แป๊ปเดียวเท่านั้นแหละ แบบเดียวกับตอนที่เคนดัลมีปัญหาเรื่องโฆษณาเป๊ปซี่จนถูกถอดมาแล้ว แต่พอซักพักคนก็ลืมแล้วหันมาชื่นชมเธอต่อ ในขณะที่ทางธุรกิจก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหาย เพราะการตกเป็นข่าวในแง่ลบ กลับถูกมองว่าเป็นการพีอาร์สินค้าที่ดีซะอีก

 

“พวกเธอจะยังทำพลาดต่อไป กลายเป็นข่าว ขอโทษ ได้รับความสนใจเป็นรางวัล แล้วก็ทำอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า” ฟิลกล่าว

 

ฟังแล้วก็เข้าใจ แต่ก็อดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะจริง ๆ แล้วฉันเองก็ชอบ และเฝ้าติดตามการแต่งตัวของสาวเคนดัล เจนเนอร์ อยู่เช่นกัน ด้วยความที่เธอสวยเก๋ หุ่นดี หยิบจับอะไรมาใส่ก็ดูสวยไปซะหมด

 

ทว่า สิ่งที่รู้สึกได้จากการติดตามก็คือสองพี่น้องเจนเนอร์นี่มาสายแฟชั่น ใช้ชีวิตแบบไฮโซอย่างเดียวชนิดไม่มีอย่างอื่นมาปนเลย ซึ่งน่าเสียดายตรงที่พวกเธอเป็น role model ของสาว ๆ หลายล้านคนบนโลกแท้ ๆ น่าจะใช้ความมีอิทธิพลตรงนี้สร้างอะไรดี ๆ เพื่อสังคม นอกเหนือไปจากการขายของบ้าง

 

เพราะเคนดัลกับไคลี่มีคนติดตามทวิตเตอร์รวมกัน 44.6 ล้านคน มีคนติดตามอินสตราแกรมรวมกัน 177.7 ล้านคน ทำให้อิทธิพลของพวกเธอนั้นมีมากมายมหาศาล สาว ๆ จะมองพวกเธอเป็นผู้นำแฟชั่นที่ต้องทำตาม แต่น่าเสียดายที่ทั้งคู่กลับปล่อยให้ตัวเลขผู้ติดตามเหล่านี้ถูกตีค่าไปในเรื่องของการขายของมากกว่า ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะเคนดัลเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็น role model ของผู้ที่ติดตาม เธอก็เลยไม่ได้คิดจะทำตัวเป็นแบบอย่างของใคร

ซึ่งเรื่องนี้ถูกผู้เชี่ยวชาญอย่าง “พอลเลน” ตำหนิว่าเป็นการขาดวุฒิภาวะแล้วก็ขาด self awareness อย่างแรง เพราะมันแสดงให้เห็นว่าพวกเธอไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของตัวเองมีผลกระทบต่อสังคมมากน้อยแค่ไหน

นอกจากนี้ ถึงจะไม่อยาก role model ให้ใคร แต่ถ้าเคนดัลกับไคลี่คิดจะทำธุรกิจ ยังไงก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และระมัดระวังการกระทำไม่ให้ส่งผลกระทบต่อแบรนด์ตัวเอง ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเจอปัญหาแบบเดียวกับเรื่องเสื้อยืดศิลปินรุ่นใหญ่ซ้ำอีกจนทำให้แบรนด์ รวมถึงตัวของพวกเธอเองเสื่อมเสียก็เป็นได้