น้ำมะพร้าว บริสุทธิ์ไม่ว่า "ขุ่น"-"ใส"
บ้างว่า "น้ำมะพร้าว" มีคุณค่าเหนือเครื่องดื่มใดในโลกหล้า ไม่ได้มีแค่ชนิดใส แต่สีขาวขุ่นของน้ำนมมะพร้าวก็เข้าขั้นของวิเศษเช่นกัน
บ้างว่า "น้ำมะพร้าว" เปรียบดั่งน้ำบริสุทธิ์สะอาด มีคุณค่าเหนือเครื่องดื่มใดในโลกหล้า แต่น้ำมะพร้าวที่ว่า ไม่ได้มีแค่ชนิดใส แต่สีขาวขุ่นของน้ำนมมะพร้าวก็เข้าขั้นของวิเศษเช่นกัน
ด้วยเหตุผลที่ว่ามะพร้าวนั้นมีลำต้นสูง ต้องผ่านการกลั่นกรองตามชั้นต่างๆ ของลำต้นมะพร้าวกว่าจะถึงลูกมะพร้าวที่อยู่ข้างบน น้ำมะพร้าวที่ได้มาจึงมีความบริสุทธิ์สูง น้ำมะพร้าวเป็นอาหารที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะบริสุทธิ์และเต็มไปด้วยกลูโคสที่ร่างกายดูดซึมเข้าไปได้ง่าย รวมทั้งแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ ร่างกายก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว และยังเป็นประโยชน์ในการขับสารพิษและชำระล้างร่างกาย
น้ำมะพร้าวที่คนไทยคุ้นเคยกัน ได้แก่ น้ำมะพร้าวอ่อน อธิบายให้เห็นภาพได้ว่า เฉาะลูกมะพร้าวเปลือกเขียว แล้วเทดื่มได้ทันที แถมยังควานเนื้อนุ่มๆมาเคี้ยวให้กรุบกรับได้อีก นอกจากจะไม่มี Fat มากวนใจและให้ความชุ่มชื่นกับเซลล์ในร่างกายเป็นจุดขายแล้ว น้ำมะพร้าวอ่อนยังทำหน้าที่เป็นน้ำเกลือแร่จากธรรมชาติ (mineral water) ได้ด้วย
มะพร้าวที่มีอายุประมาณหนึ่งเดือน จะมีน้ำบรรจุอยู่ในผลประมาณ 90% ซึ่งมีปริมาณของน้ำต่อผลอยู่ในช่วง 400 - 465 ซีซี เมื่อดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนหนึ่งผลจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณของวิตามินบีและวิตามินซีที่พอเพียงกับความต้องการของร่างกายต่อวัน และยังมีเกลือแร่ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญเช่น โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย ควบคุมการทำงานของระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท บรรเทาความอ่อนเพลีย ส่งผลให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้นั่นเอง
นอกจากนี้ยังพบงานวิจัยชั้นเยี่ยมจาก ดร.นิซาอูดะห์ ระเด่นอาหมัด มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่า น้ำมะพร้าวอ่อนช่วยชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้เนื่องจากมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น และไม่มีแผลเป็นด้วย ซึ่งฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ว่าเมื่อบวกกับคอลลาเจน จึงเหมาะกับสาวๆทั้งหลายที่ต้องการจะเปลี่ยนความร่วงโรยแห่งวัย ให้กลายเป็นความสวยใสอ่อนเยาว์ ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยฟื้นฟูความแข็งแรง กระชับ ยืดหยุ่นของผิวพรรณกลับคืนมา
และในเวลาต่อมา น้ำมะพร้าวอ่อนถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรคหลายชนิดเชิงแพทย์พื้นบ้านและแพทย์ทางเลือก อย่างเช่น อหิวาตกโรค คนไข้ที่มีภาวะความเป็นกรดในเลือดสูง โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ และช่วยขับปัสสาวะ ในคนไข้โรคหัวใจ โรคตับและโรคไต ส่วนทางอายุรเวช น้ำมะพร้าวถือเป็นน้ำบริสุทธิ์ที่ช่วยรักษาและมีคุณสมบัติเป็นธาตุเย็น ช่วยล้างพิษ ขับของเสียออกจากร่างกาย และรักษาโรคกระเพาะอาหารได้อีก
ถึงแม้ว่าน้ำมะพร้าวอ่อนจะมีคุณค่ามากมายตามสาธยาย แต่ต้องระมัดระวังสารปรุงแต่งมหาภัย อย่าง น้ำตาล ด้วย เพราะหากรับประทานมากเกินไปจะกลายเป็นรังของโรคเสียมากกว่า ทางที่ดีควรซื้อน้ำมะพร้าวที่เทสดๆจากลูกหรือเลือกสรรผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่เขียนข้างกล่องหรือขวดแล้วว่า No Sugar จะถูกต้องกว่า
แต่ที่อยากแนะนำให้รู้จักเพิ่มเติมในครั้งนี้ ก็คือ น้ำนมมะพร้าว (Coconut Milk Drink) ฟังดูแล้วอาจรู้สึกแปลกๆไม่ค้นหูสักหน่อย หรือบางคนเผลอคิดไปว่ามันคือน้ำกะทิ อันที่จริงก็ใช่ แต่ไม่ใช่หัวกะทิคั้น (Coconut Milk, Kati) สำหรับทำขนมหรือเป็นราดแกงอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวจะเลี่ยน
น้ำนมมะพร้าว เป็นเครื่องดื่มที่ทำมาจากส่วนผสมของน้ำมะพร้าวกับเนื้อมะพร้าว กลายเป็นทางเลือกใหม่ของการดื่มนมที่ให้ความอร่อยและได้ประโยชน์ ทั้งยังเหมาะกับผู้ที่แพ้นมวัว แพ้แลคโตส และกลุ่มผู้รับประทานอาหารเจ
คุณประโยชน์เด่นของมัน คือ ไขมัน แต่อย่าเพิ่งตกใจกันไปนัก เพราะในน้ำนมมะพร้าวมีไขมันจากพืช ไม่มีคอเลสเตอรอล เหมือนอย่างน้ำนมวัว แต่เป็นไขมันประเภทกรดไขมันขนาดกลาง ( Medium chain Fatty acid) ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นพลังงานอย่างรวดเร็วเมื่อบริโภคเข้าสู่ร่างกาย น้ำมันจากมะพร้าวจะถูกดูดซึมและเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว เมื่อบริโภคเข้าไปจะผ่านจากกระเพาะอาหารไปยังลำไส้เข้าไปในกระแสเลือด แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานที่ตับอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งชั่วโมง จึงไม่เกิดเป็นไขมันสะสมในร่างกาย
อีกทั้งน้ำมันจากมะพร้าวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของต่อมไทรอยด์ จึงเร่งอัตราเมตาบอลิสซึมหรือการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน ทำให้มีอัตราเผาผลาญที่เร็วขึ้น และไขมันจากมะพร้าวยังช่วยเผาผลาญอาหารที่รับประทานเข้าไปพร้อมๆกันให้เปลี่ยนเป็นพลังงาน ทำให้ไม่ไปสะสมเป็นไขมันในส่วนต่างๆของร่างกาย นอกจากนั้นผลของการเกิดความร้อนที่สูงขึ้นประมาณ 1-2 องศาเซลเซียสจากกระบวนการเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงานนั้น ยังไปช่วยเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้แต่เดิมให้มีรูปร่างดีขึ้นได้
นอกจากนั้นยังมีกรดลอริก (lauric acid) อยู่สูงถึง 48-53% เมื่อบริโภคเข้าไปในร่างกาย จะเปลี่ยนเป็นโมโนกลีเซอไรด์ ชื่อ โมโนลอริน เป็นสารสร้างภูมิคุ้มกันชนิดเดียวกับน้ำนมแม่ ในช่วงให้นมลูก 6 เดือนแรก และยังมีฤทธิ์เป็นสารปฏิชีวนะที่ทำลายเชื้อโรคได้ดีกว่ายาปฏิชีวนะในปัจจุบัน แถมยังมีวิตามินอี สารฟีนอล สารไฟโตสเตอรอล ซึ่งเป็นสารต้านการเกิดอนุมูลอิสระที่อาจทำให้เกิดผลเสียแก่เซลล์และเนื้อเยื่อซึ่งทำให้เซลล์ผิดปกติ