‘แคน นายิกา’ การกลับมาบนถนนของตัวเอง
เมี่อการหันหลังให้สิ่งหนึ่งไม่ได้หมายความถึงการสิ้นสุดลง แต่ในทางกลับกัน นั่นคือการเริ่มต้นสิ่งใหม่
เมี่อการหันหลังให้สิ่งหนึ่งไม่ได้หมายความถึงการสิ้นสุดลง แต่ในทางกลับกัน นั่นคือการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ที่ ‘แคน’ นายิกา ศรีเนียน อดีตสมาชิกวงไอดอลชื่อดัง BNK48 เลือกที่จะเป็น ‘แคน นายิกา’ ศิลปินเดี่ยวอิสระภายใต้ร่มเงาสังกัดเดิม
หลังจากเลิกใช้นามสกุล BNK48 ไม่นาน สาวน้อยคนนี้ก็มีผลงานใหม่ในฐานะศิลปินเดี่ยวให้แฟนๆ ได้ติดตามกันทันที ซึ่งเพลง ‘กลับมานะ’ ของแคนก็ได้กระแสตอบรับดีจนเจ้าตัวยังประหลาดใจ ทั้งยอดวิวในยูทูบและการขายบัตรมินิคอนเสิร์ตเปิดตัวเพลงกลับมานะที่เพิ่งแสดงไปเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 ก็ขายหมดภายใน 1 นาที 45 วินาที
สำหรับเพลงกลับมานะ ‘แคน นายิกา’ เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่าเกิดจากการเดินออกมาจากวงเดิมโดยที่ความฝันของเธอคือยังเป็นศิลปิน ประจวบเหมาะกับแคนเคยแต่งเพลงนี้เก็บไว้นานแล้ว ทั้งความหมายและปัจจัยต่างๆ ลงตัว จึงเกิดเป็นผลงานแรก
“เราเคยแต่งเพลงหนึ่งขึ้นมา ตอนนั้นยังไม่มีชื่อเพลง ทำเป็นเดโมไปก่อนแล้วใส่ชื่อภาษาอังกฤษว่า Please Come Back เพราะเนื้อเพลงประมาณอยากได้คนๆ หนึ่งกลับมา ณ ตอนที่แต่งเนื้อมันเกิดจากช่วงเวลาที่หนูเจอเรื่องไม่ค่อยดีนักในชีวิต และมีคนมาพูดกับหนูว่ารู้สึกผิดหวังที่เราเป็นคนแบบนี้ แล้วขอเลิกติดตามเราดีกว่า บวกกับนิสัยของเราที่ดึงมาจากตอนเด็กๆ เวลามีเพื่อนหรือมีใครจะเสียใจทุกครั้งที่เขาหายไปจากชีวิตเรา ก็เลยเอาทุกอย่างมารวมกันจนเกิดเป็นเพลงนี้ขึ้นมา พอออกจากวงก็เอาเพลงนี้มาเป็นผลงานต่อเลย”
บทเพลงที่ถูกแต่งขึ้นจากหัวใจหนึ่งดวงและกีต้าร์หนึ่งตัว เมื่อต้องเป็นผลงานจริงๆ แคนจึงเลือก ‘แป๊ก’ สมาชิกวง Electric.neon,lamp เป็นโปรดิวเซอร์ให้ จนองค์ประกอบดนตรีเข้าที่เข้าทางอย่างที่หลายคนได้ฟังแล้ว
ความน่าสนใจหนึ่งของเพลงนี้คือมีกลิ่นอายดนตรียุค 90s เข้ามาแม้แต่การร้อง เอื้อนคำ ก็สัมผัสได้ถึงความเรโทรนิดๆ
“มันมาตั้งแต่ตอนแต่งเมโลดี้กับคอร์ด หนูติดการร้องมาจากการฟังยุคที่ยังเด็กๆ การเอื้อนคำของหนูมันออกมาอัตโนมัติ พอส่งเดโมให้พี่ทีมงานฟังเขาก็บอกว่ามันต้องแบบนี้แหละ เพราะถ้าดัดแปลงก็จะเป็นเพลงอื่นไปเลย”
นอกจากเป็นศิลปินเดี่ยว ได้มีผลงานใหม่อย่างที่เป็นตัวเอง เส้นทางสายนี้มีความเปลี่ยนแปลงมากมายที่ต้องเจอ ที่เห็นได้ชัดเลยว่าคนกล้าเข้าถึงมากกว่าเดิม และได้ใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่
“ตอนเป็น BNK48 บางคนไม่กล้าแม้แต่มองหน้าเรา แต่พอเราออกมาเป็นแบบนี้ เริ่มรู้สึกว่าเราได้เป็นพี่เป็นน้องมากขึ้น และการทำงานด้วยตัวเองมากขึ้น การทำเพลงนี้หนูทำแทบทุกด้านเลย เมื่อก่อนไม่ต้องทำขนาดนี้
แต่เรื่องความรู้สึกมันคนละแบบค่ะ สมัยก่อนมีความแบบหนึ่ง สมัยนี้ก็มีอีกแบบหนึ่ง มีทั้งความสุขและความเหนื่อยทั้งคู่ ตอนนั้นมีความสุขตรงที่เราได้ก้าวแรกมาอยู่ในวงการ เราดีใจที่ได้มีเพื่อนเยอะขนาดนี้ มีคนรักเราขนาดนี้ ทำอะไรไปก็เหมือนทุกอย่างสำเร็จพร้อมมาแล้ว เราก็แค่ทำมันให้ดี ส่วนตอนนี้เรามีความสุขตรงที่ผลงานของเรามันคือตัวเรา 100 เปอร์เซ็นต์ พอทำแล้วคนชื่นชมจะรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เราผลิตมาแล้วเขาแฮปปี้ ก็มีความสุขคนละแบบกัน”
แน่นอนว่าแต่ละการเปลี่ยนแปลงย่อมมีเหตุและผล ถึงแคนจะมีความสุขกับบทบาททั้งสองอย่าง แต่อย่างไรก็ตามเสียงเรียกร้องในใจก็คือจุดตัดสินอยู่ดี แคนบอกว่าพอใจและพอดีกับการเป็นสมาชิกวงไอดอลแล้ว ถ้าไปมากกว่านี้อาจเกินความเป็นตัวเอง จึงเลือกทางที่ใช่ที่สุด จนหลายคนมองว่าเธอ ‘อินดี้’ ซึ่งแคนไม่ได้มองอย่างนั้น แต่บอกว่า “หนูก็ไม่ถึงกับอินดี้ (หัวเราะ) แต่เราชอบดนตรี เรารักดนตรี เราอยากผลิตมันเอง”
“หนูไม่เสียดายโอกาสที่ได้เป็น BNK48 นะ ต่อให้ไปได้ไกล แต่ยังมีบางอย่างในใจที่เราอยากทำแต่ไม่ได้ทำ มันก็จะไปแบบไม่สุด หนูรู้สึกว่าการอยู่ตรงนี้แล้วได้ทำสิ่งที่เราอยากทำ มันสุดสำหรับหนู ไม่ว่าจะดังหรือไม่ดัง สิ่งที่หนูใฝ่ฝันมาตลอดหนูว่ามันคือ ‘แคน นายิกา’ แบบนี้แหละ
ซึ่งหนูมองอนาคตว่าหนูอาจจะเติบโตในวงการมากขึ้น ก็ทำเพลงไปเรื่อยๆ แต่อยากมีบทบาทอื่น เช่น ออกรายการ หรือแสดงภาพยนตร์ เพราะที่ผ่านมาได้ถ่าย MV แล้วติดใจ”
“หนูเคยหลงทางไปทำอย่างที่หลายคนอยากให้ทำ แต่เราไม่ได้อยากทำ จุดที่ทำให้หนูกลับมาคิดได้ก็เพราะว่าเหนื่อย มันไม่ใช่เรา เราเกิดความหงุดหงิดด้วย อย่างเราอยากได้รูปตัวเองก็ต้องขอให้คนอื่นมาถ่ายให้ แล้วถ้าถ่ายไม่ถูกใจเราก็จะไปหงุดหงิดกับเขาอีก ก็โมโหว่าเราไม่มีรูปลงอีก หนูรู้สึกว่าไม่อยากเป็นแบบนั้น บางครั้งคนอื่นถ่ายให้ เอารูปลงแล้ว แต่หนูไม่ชอบหนูก็ลบ ลบบ่อยมาก นี่คือคำตอบให้หลายคนเลยว่าทำไมชอบลบรูปใน IG”
การเจอปัญหามาค่อนข้างเยอะ ต้องต่อสู้กับแรงกดดันและความคาดหวัง สิ่งหนึ่งที่แคนได้รับและพูดได้เต็มปากคือเธอโตขึ้น
“หนูรู้สึกว่าได้ประสบการณ์มากขึ้น แต่นิสัยหนูยังเด็กอยู่ แต่งหน้ายังเลอะเทอะอยู่ แต่ถ้าด้านประสบการณ์หนูมีมากขึ้น เรื่องแรงกดดันก็รับได้มากขึ้น เดี๋ยวนี้แค่นี้เอง ถ้าเป็นเมื่อก่อนแค่คำพูดบางคำเราเสียใจแล้ว อย่างเรื่องงี่เง่าหน่อยก็เช่นมีคนพูดว่า คนนี้ไม่เห็นสวยเลย หนูเสียใจมากนะตอนนั้น เพราะสมัยก่อนเดบิวต์มีคนบอกว่าเราสวยมากเลยนะ แล้วไม่เคยมีใครพูดว่าเราไม่สวย อยู่ดีๆ มีคนบอกเราไม่สวยเราก็ตกใจ แต่เดี๋ยวนี้ไม่คิดอย่างนั้นแล้ว (อมยิ้ม)”
อย่างที่รู้กันดีว่าการเป็นสมาชิก BNK48 มีกฎระเบียบมากมาย แล้วการเป็นศิลปินเดี่ยวแบบนี้ แคนยังรักษากฎบางข้อไว้ตามความเหมาะสม เช่น การถ่ายรูปคู่ต้องอยู่ในชุดการแสดงหรือชุดโปรโมทผลงานเท่านั้น โดยที่ห้ามถ่ายเซลฟี่ทุกกรณี ด้วยเหตุผลว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะมีคนแอบอ้าง และแน่นอนว่าการถูกเนื้อต้องตัวยังเป็นข้อห้ามเด็ดขาด ทั้งเรื่องสิทธิและแคนต้องการรักษาความรู้สึกของแฟนๆ ที่เคยต้องเสียสตางค์เพื่อมาเจอมาจับมือ
หลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ กับการเปลี่ยนแปลงมากมายในชีวิต มีหลายคนโบกมือลาสาวน้อยคนนี้ไป แต่วันนี้ที่ ‘แคน นายิกา’ กลับมาแล้ว สิ่งที่เธออยากบอกคงไม่แตกต่างจากความหมายในเพลง ‘กลับมานะ’
“มันก็เหมือนคนหลายคนในชีวิตเราที่เดินจากไปแล้ว แต่การที่อยากให้เขากลับมาเราไมได้อยากให้เขากลับมาอยู่ในชีวิตเรา 100 เปอร์เซ็นต์ แค่กลับมาไม่โกรธกัน เจอหน้ากันแล้วไม่ใช่คนแปลกหน้า แค่นั้นก็พอค่ะ”