แนะประชาชนใช้หลักการ 'SEX รอบคอบ ตอบ OK' ป้องกันเอดส์
กรมควบคุมโรค แนะประชาชนใช้หลักการ “SEX รอบคอบ ตอบ OK” ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ โดยเฉพาะในช่วงเดือนแห่งความรักปีนี้
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนในช่วงเดือนแห่งความรักปีนี้ ขอให้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ ตามแนวคิด “SEX รอบคอบ ตอบ OK” หลังแนวโน้มของผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคหนองใน ที่สำคัญยังพบว่าผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ง่ายกว่าคนทั่วไป 5-9 เท่า พร้อมเตือนวัยรุ่นควรปฏิเสธเมื่อไม่พร้อม และหลีกเลี่ยงการอยู่สองต่อสอง
วานนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2562) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี กำหนดให้เป็นวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก ประชาชนหลายคนจะเลือกซื้อสิ่งของแทนใจ เพื่อแสดงความรักและมอบสิ่งดีๆให้แก่กัน นอกจากนี้ วัยรุ่นส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจเป็นพิเศษและอาจตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์ได้ กรมควบคุมโรค จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านให้ป้องกันทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์
สำหรับสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคหนองในและโรคซิฟิลิสมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทำให้ติดเชื้อเอชไอวีได้ง่าย ซึ่งมีข้อมูลรายงานว่าผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ง่ายกว่าคนทั่วไป 5-9 เท่า ในช่วงปีงบประมาณ 2556-2560 พบว่าอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นจาก 18.9 เป็น 28.8 ต่อประชากรแสนคน โดยโรคหนองในเป็นโรคที่มีอัตราป่วยสูงสุดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 10.5 เป็น 15.8 ต่อประชากรแสนคน และโรคซิฟิลิสมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 3.5 เป็น 7.6 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งกลุ่มประชากรที่มีรายงานผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในปี 2560 พบมากที่สุดในช่วงอายุ 15-24 ปี (99.6 ต่อประชากรแสนคน) กลุ่มผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยเรียน วัยเจริญพันธุ์ ซึ่งเป็นตัวสะท้อนที่แสดงให้เห็นถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
ข้อมูลจากการสำรวจการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี กลุ่มนักเรียน ปี 2560 พบว่าวัยรุ่นมีแนวโน้มการมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้นอายุเฉลี่ย 13-15 ปี และไม่ใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกประมาณร้อยละ 30 ส่วนข้อมูลพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัย ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้งชายและหญิง ร้อยละ 76.9 และ 66.7 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 ทั้งชายและหญิง ร้อยละ 74.1 และ 76.9 ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 2 ทั้งชายและหญิง ร้อยละ 69.5 และ 74.6 จากข้อมูลทำให้เห็นว่าวัยรุ่นยังไม่ตระหนักถึงผลกระทบจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน ซึ่งจะทำให้วัยรุ่นติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เอชไอวี และการท้องไม่พร้อม
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดนโยบายที่จะยุติการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตามยุทธศาสตร์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. 2560-2564 โดยมุ่งยุติการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สำคัญ ได้แก่ โรคหนองใน และโรคซิฟิลิส โดยได้กำหนดให้มีการรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้ประชาชนได้รู้ เข้าใจ และตระหนักถึงการป้องกันตนเองและคู่ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งให้เป็นเรื่องปกติ และรับผิดชอบต่อคู่และสังคม
ในโอกาสวันวาเลนไทน์หรือเทศกาลวันแห่งความรักในปีนี้ กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชนทุกคนป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ ตามแนวคิด “SEX รอบคอบตอบ OK” โดยมุ่งเน้น 4 ข้อสำคัญ ดังนี้ 1.ไม่พร้อมให้ Say No เมื่อคุณ OK ให้ Say Yes 2.ป้องกันคุณ ป้องกันคู่ จะเป็นผู้ไม่ประมาท 3.ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และ 4.ใช้ถุงยางอนามัยถือว่ารับผิดชอบตนเองและคู่ นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำสำหรับกลุ่มวัยรุ่นในการปฏิบัติตัวให้ความรักช่วงวันวาเลนไทน์ให้เป็นรักที่ปลอดภัย 4 ข้อ ดังนี้ 1.หลีกเลี่ยงไม่อยู่สองต่อสอง หรือไม่อยู่ในสถานการณ์ที่จะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย 2.กล้าปฏิเสธ เมื่อไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์ หรือเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย 3.พกถุงยางอนามัยติดตัวเสมอ และใช้อย่างถูกวิธี และ 4.ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะการใช้ถุงยางอนามัยเป็นการดูแลสุขภาวะทางเพศให้ปลอดภัยไปพร้อมกัน และขอเชิญชวนประชาชนทุกท่าน ร่วมตรวจสุขภาพทางเพศให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422