สธ.เตือนนักดื่มง่วงไม่ขับ ชี้เครื่องดื่มชูกำลัง ไม่ช่วยแก้อ่อนเพลีย
สธ.เตือนดื่มติดต่อกันอาจเกิดอาการเมาค้าง แนะเครื่องดื่มชูกำลังไม่ช่วยให้หายอ่อนเพลีย ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ก่อนออกเดินทางกลับ
เมื่อวันที่ 15 เม.ย.62 นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนฝูง อยู่ร่วมกัน มีการสังสรรค์ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากหรือดื่มติดต่อกันหลายวัน อาจเกิดอาการเมาค้าง เนื่องจากขณะดื่มมักไม่รับประทานอาหาร มีอาการอ่อนเพลียมาก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ไม่มีสมาธิ ไม่แนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง เนื่องจากเครื่องดื่มดังกล่าวมีสารประเภทคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ จะไปกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว ในขณะที่ร่างกายต้องการพักผ่อน จึงเป็นการฝืนร่างกายอย่างหนัก และควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท เนื่องจากอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการหลับในจากความอ่อนเพลีย และการตัดสินใจไม่ดีพอ จึงควรงดดื่มหากต้องขับรถกลับในวันรุ่งขึ้น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานผัก ผลไม้ให้มากขึ้น ดื่มน้ำหวาน น้ำผลไม้ เพื่อช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น ระหว่างเดินทาง ง่วงไม่ขับ ควรเปลี่ยนคนอื่นขับ หรือจอดนอนพัก ในจุดที่ปลอดภัย ในที่โล่ง ดับเครื่องยนต์ ลดกระจกประมาณ 2-3 เซนติเมตร เพื่อระบายอากาศและรับลมจากภายนอก ห้ามเปิดแอร์และปิดกระจกโดยเด็ดขาด เพราะก๊าซพิษในไอเสียจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์คือ คาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น จะไหลเวียนเข้ามาภายในตัวรถทางระบบปรับอากาศ ทำให้เสียชีวิตได้
นายแพทย์ไพศาล กล่าวต่อว่า วิธีฟื้นร่างกายเตรียมความพร้อมก่อนทำงาน คือ ควรหยุดดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มน้ำเปล่ามากๆ ดื่มน้ำผลไม้ หรือดื่มน้ำสมุนไพร อาทิ น้ำขิงอุ่น ที่มีรสชาติเผ็ดร้อนช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ดีและฟื้นจากอาการปวดหัวได้ รับประทานอาหาร ผักผลไม้ที่มีกากใยมาก จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น