รุก 4 โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคพื้นที่ กทม.
“กรุงเทพมหานคร” เป็นพื้นที่พิเศษของประเทศ ด้วยความเป็น “เมืองหลวง” ที่เป็นศูนย์กลางด้านต่างๆ ส่งผลให้จำนวนประชากรต่อพื้นที่มีความหนาแน่นอย่างมาก แม้ว่าตามข้อมูลทะเบียนราษฎรได้ระบุจำนวนประชากรใน กทม.มีจำนวนราว 5 ล้านคน
แต่ยังมีประชากรแฝงอีกจำนวนมาก ทั้งที่เดินทางเข้ามาทำงานและอาศัยอยู่ ทำให้คาดการณ์ว่า กทม.น่าจะมีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 10 ล้านคน การดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ จึงต้องดำเนินการเชิงรุก รวมถึงการดูแลสุขภาพ
“กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” นอกจากการรักษาพยาบาลแล้ว การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคนับเป็นภารกิจที่สำคัญของกองทุนฯ และได้ดำเนินการควบคู่มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ลดความเสี่ยงจากภาวะเจ็บป่วย และยังส่งผลต่อการลดค่ารักษาพยาบาลในภาพรวมด้วย โดยในส่วนพื้นที่ กทม. ในปี 2562 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กทม. (สปสช.เขต 13 กทม.) ได้จับมือกับกรุงเทพมหานคร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัด 4 โครงการเชิงรุกเพื่อเร่งส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับชาว กทม. ดังนี้
โครงการคลินิกผู้สูงอายุครบวงจรในโรงพยาบาล หนึ่งในหลายโครงการเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ เน้นคัดกรองสุขภาพป้องกันโรคเพื่อดูแลประชาชนคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่พักอาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มีสุขภาพที่ดี เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้สูงอายุมักมีภาวะเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการนี้จะเน้นประเมินสุขภาพแบบองค์รวมโดยทีมสหวิชาชีพของโรงพยาบาล ผู้สูงอายุที่พักอาศัยใน กทม.ทุกสิทธิ ไม่ว่าจะเป็น สิทธิข้าราชการ หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) สามารถเข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กิจกรรมคัดกรองสุขภาพ อาทิ การประเมินความเสี่ยงสุขภาพ ประกอบด้วยการตรวจวัดสายตา ภาวะกระดูกพรุน สมรรถภาพทางสมอง ภาวะโภชนาการ ไขมันในเลือด และการทำงานของไต เป็นต้น เพื่อให้ทราบสภาวะร่างกาย นำสู่การปรับพฤติกรรม อาหาร เพื่อช่วยลดความเสี่ยง โดยกรณีที่ตรวจพบภาวะผิดปกติจะแนะนำให้เข้าสู่การรักษาต่อไป เพื่อให้ได้รับการดูแลตั้งแต่แรกเริ่ม
โครงการคัดกรองสุขภาพแรงงานนอกระบบในผู้ขับขี่รถสาธารณะ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ เพราะแต่ละวันต้องใช้ชีวิตบนท้องถนนภายใต้สภาวะแวดล้อมฝุ่นและควันรถ ทั้งมีความเสี่ยงต่อการรับและเป็นผู้แพร่กระจายโรค เพราะแต่ละวันต้องพบปะคนจำนวนมากที่ใช้บริการ ดังนั้นการคัดกรองสุขภาพสำหรับคนกลุ่มนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนี้กลุ่มแรงงานนอกระบบยังเป็นผู้มีสิทธิบัตรทองเพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเหมาะสม
ที่ผ่านมา สปสช.ได้สนับสนุนโครงการการส่งเสริมป้องกันสุขภาพของกลุ่มแรงงานนอกระบบเพื่อตรวจสุขภาพและให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงจากการทำงาน รวมถึงเฝ้าระวังสุขภาพของแรงงานนอกระบบ ครอบคลุมพื้นที่ 50 เขตกรุงเทพฯ
ผลดำเนินงานคัดกรองสุขภาพในกลุ่มผู้ขับขี่พาหนะแท็กซี่ รถตู้ มอเตอร์ไซค์รับจ้างปีที่ที่ผ่านมา พบความผิดปกติของสุขภาพที่ตรวจพบ 3 อันดับแรก คือ ความผิดปกติของการมองเห็น สูงถึงร้อยละ 78 ความผิดปกติจากการทำงานของปอด ร้อยละ 44 และความผิดปกติการได้ยิน ร้อยละ 31 โดยได้แนะนำให้เข้ารับบริการยังหน่วยบริการตามสิทธิต่อไป และในปี 2562 นี้ ยังคงมีการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง
โครงการร้านยาชุมชนอบอุ่น เป็นที่ทราบกันดีว่า โรคในกลุ่มเมตาบอลิก ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง และโรคอ้วน เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ เกิดจากการพฤติกรรมบริโภคอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป เน้นหวาน มัน เค็ม การคัดกรองความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่พื้นที่ กทม.มีประชากรมาก ทั้งหน่วยบริการยังมีจำกัด จึงเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการคัดกรองสุขภาพของคน กทม. ซึ่งร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ขย.1) เป็นหน่วยบริการด้านยากระจายอยู่ตามชุมชน มีความสะดวกต่อประชาชนในการเข้ารับบริการได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชนในการเข้าถึงบริการคัดกรองโรคได้ ที่ผ่านมา สปสช.ได้ร่วมกับสมาคมเภสัชกรรมชุมชนดำเนินโครงการ “ร้านยาชุมชนอบอุ่น” ใน 11 เขตพื้นที่ กทม. เริ่มดำเนินแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน ล่าสุดมีร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ขย.1) เข้าร่วมดำเนินงานแล้ว 26 แห่ง
ส่วนกิจกรรมในร้านยาชุมชนอบอุ่น อาทิ ตรวจคัดกรองความเสี่ยงเบื้องต้นโดยใช้แบบคัดกรองความเสี่ยง ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจร่างกาย ประเมินภาวะอ้วนลงพุง การตรวจเลือดโดย DTX เพื่อหาภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน บันทึกผลการตรวจคัดกรองในสมุดบันทึกสุขภาพ และแจกให้กับผู้รับบริการทุกราย และให้คำแนะนำ โดยในกรณีที่พบความผิดปกติจะมีการส่งต่อเพื่อรักษาต่อเนื่องยังหน่วยบริการตามสิทธิ
โครงการหน่วยบริการร่วมให้บริการทันตกรรมส่งเสริมป้องกัน สปสช.ได้ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข กรุงเทพมหานครและคลินิกทันตกรรมเอกชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ได้เข้าร่วมโครงการจำนวน 62 แห่ง มุ่งให้เกิดการเข้าถึงบริการทันตกรรมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมป้องกัน เนื่องจากปัญหาฟันและสุขภาพช่องปากจะนำมาสู่ปัญหาสุขภาพร่างกายในด้านอื่นๆ ตามมาและรุนแรงได้
ทั้งนี้บริการทันตกรรมส่งเสริมป้องกันครอบคลุมประชาชนในเขตกรุงเทพฯ ทุกสิทธิ บริการตั้งแต่การตรวจสุขภาพช่องปากและให้คำแนะนำทุกกลุ่มวัย เคลือบฟลูออไรด์เจลหรือทาฟลูออไรด์วาร์นิชในกลุ่มเสี่ยงสำหรับเด็ก เคลือบฟลูออไรด์เจลหรือทาฟลูออไรด์วาร์นิชด้วยฟลูออไรด์ความเข้มข้นสูงเฉพาะที่สำหรับเด็กอายุ 6-20 ปี เคลือบหลุมร่องฟันหลังถาวร ซี่ที่ 4, 5 และ 6, 7 โดยวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันสำหรับเด็กอายุ 6-20 ปี ทาฟลูออไรด์วานิชสำหรับผู้สูงอายุ และขูดหินปูน ทำความสะอาดฟันทั้งปากในหญิงตั้งครรภ์
การบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคทั้ง 4 โครงการที่ สปสช.เขต 13 กทม. ดำเนินการในปีนี้ได้ครอบคลุมประชาชนคนไทยที่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ทุกสิทธิ โดยสามารถใช้สิทธิเข้ารับการคัดกรองสุขภาพได้ฟรีปีละ 1 ครั้ง นับเป็นอีกก้าวของการทำงานด้านสุขภาพเชิงรุก ภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. โทร. 1330