สวช.ชงรบ.เสนอเวทีผู้นำอาเซียน อนุมัติ 'ร่างปฏิญญาว่าด้วยความมั่นคงด้านวัคซีน'
"สวช." เตรียมชงรัฐบาลเสนอ "ร่างปฏิญญาว่าด้วยความมั่นคงด้านวัคซีน" ให้เวที "ผู้นำอาเซียน" ไฟเขียว
เมื่อวันที่ 24 ก.ค.62 นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (สวช.) เปิดเผยว่า วันที่ 11 – 12 ก.ค. ที่ผ่านมา 10 ชาติสมาชิกอาเซียนได้มีการประชุมกลุ่มประเด็นสุขภาพที่ 3 ด้านเสริมสร้างความเข้มแข็งและยกระดับการเข้าถึงระบบสุขภาพที่มีคุณภาพ (ASEAN Health Cluster 3: Strengthening Health System and Access to Care) ครั้งที่ 4 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยตนในฐานะผู้แทนประเทศไทยประเด็นสุขภาพที่ 3 ได้เข้าร่วมประชุมและนำเสนอผลการดำเนินงานตามแผนงานของกลุ่มสุขภาพที่ 3 (ASEAN Health Cluster 3 Work Plan for 2016-2020) นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานของกลุ่มสุขภาพที่ 3 ในระยะ 5 ปีถัดไป (ค.ศ. 2021-2025) อีกด้วย
“ผลการประชุมในครั้งนี้ถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก โดยสมาชิกอาเซียนมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการสร้างความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในภูมิภาคอาเซียน ตามที่ประเทศไทยนำเสนอ และสนับสนุนให้ประเทศไทยนำร่างปฏิญญาอาเซียนดังกล่าวนี้ เสนอต่อ ที่ประชุมระดับสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) โดยผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสด้านสุขภาพอาเซียน (SOMHD) ที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอาเซียน (ASEAN Health Minister Meeting: AHMM) และคณะรัฐมนตรีของประเทศสมาชิกตามลำดับต่อไป” นพ.นคร ระบุ
ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมอบให้ประเทศไทยจัดเตรียมแผนการดำเนินงานด้านความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในระยะ 5 ปีถัดไป ให้สอดคล้องกับร่างปฏิญญาอาเซียนฉบับนี้ และบรรจุเป็นกิจกรรมภายใต้แผนงานของกลุ่มสุขภาพที่ 3 ค.ศ.2021-2025 พร้อมกันนี้ให้ประเทศไทยโดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ดำเนินการพัฒนาร่างยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้านความมั่นคง และการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนให้มีความสอดคล้องกับแผนงานของกลุ่มสุขภาพที่ 3 และร่างปฏิญญาอาเซียน
เพื่อเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
นพ.นคร กล่าวว่า การสร้างความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Leaders’ Declaration on ASEAN Vaccine Security and Self-Reliance) มีเป้าหมายเพื่อสร้างความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้าวัคซีน การส่งต่อเทคโนโลยี รวมทั้งยกระดับความร่วมมือด้านการจัดซื้อ จัดหา และสำรองวัคซีนสำหรับรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน อาทิ เมื่อเกิดภาวะที่มีการระบาดใหญ่ของโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในภูมิภาคอาเซียน ก็จะสามารถควบคุมการระบาด และบรรเทาสถานการณ์ลงได้อย่างทันเวลา เป็นการสร้างความเข้มแข็งร่วมกัน และเพิ่มการเข้าถึงระบบสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพของประชาคมอาเซียน
ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุมกลุ่มประเด็นสุขภาพที่ 3 ครั้งที่ 4 นี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 50 คน ประเทศสิงคโปร์และประเทศไทย ในฐานะประธานและรองประธานกลุ่มสุขภาพที่ 3 ได้ร่วมจัดการประชุมโดยการสนับสนุนจากสำนักงานเลขาธิการอาเซียน โดยได้เชิญผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข ชาติสมาชิกอาเซียน ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านการสาธารณสุข จากทั้ง 10 ประเทศ คือ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม รวมทั้งผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สำนักงานเลขาธิการอาเซียน องค์การอนามัยโลก และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เป็นต้น