ก.ย.นี้ 'น้ำมันกัญชาสูตรอ.เดชา' ล็อตแรกเสร็จแสนขวด
กรมแพทย์แผนไทยฯ ดึง "อ.เดชา" ร่วมผลิตน้ำมันกัญชาจากของกลาง 1 ตัน ได้ 1 ล้านขวด คาด ก.ย.นี้ได้ล็อตแรก 1 แสนขวด แบ่ง อ.เดชา 2.5 หมื่นขวดดูแลผู้ป่วยในพื้นที ที่เหลือกระจาย 20 รพ.ทั่วประเทศ เชื่อเพียงพอดูแลผู้ป่วย อ.เดชา 4 หมื่นคน ย้ำต้องรีบปลูกเพื่อผลิต
เมื่อวันที่ 9 ส.ค.62 นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ประชุมหารือร่วมกับ นายเดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้าน และประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต น.ส.รสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย ภก.ยงศักดิ์ ตันติปิฎก กรรมการมูลนิธิหมอชาวบ้าน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่าๆ เข้าร่วม เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยใช้เวลาในการหารือมากกว่า 2 ชั่วโมง
นายเดชา กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับสิทธิการเป็นหมอพื้นบ้านกลับคืนมาแล้ว หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องของสูตรน้ำมันเดชาก็รอการพิจารณาจากคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ที่จะมีการประชุมวันที่ 13 ส.ค.นี้ หากผ่านก็จะเป็นตำรับที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตนก็สามารถปรุงและแจกจ่ายยาให้แก่ผู้ป่วยได้ อย่างไรก็ตาม แม้จะแจกจ่ายได้ก็ยังติดปัญหาเรื่องของวัตถุดิบที่จะนำมาผลิตจะต้องถูกกฎหมายด้วย เพราะตอนนี้ยังไม่เปิดช่องให้หมอพื้นบ้านสามารถปลูกกัญชาได้ จึงต้องไปขอของกลางจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แต่ก็ต้องใช้เวลา ดังนั้น ระหว่างที่ตนยังทำไม่ได้ทุกขั้นตอนก็จะให้ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดูแลคนไข้ของตนประมาณ 4 หมื่นคนก่อน โดยวันนี้ได้นำรายชื่อ 2.9 หมื่นคนมาให้ ซึ่งจะระบุว่าเป็นใคร โรคอะไร อยู่ที่ไหน และใน 2 สัปดาห์จะส่งรายชื่อทั้งหมดให้ เพื่อวางแผนในการดูแลต่อไป
นายเดชา กล่าวว่า ส่วนทางออกในการผลิตน้ำมันเดชา ที่ประชุมมีข้อสรุปว่า กรมการแพทย์แผนไทยฯ จะนำกัญชาของกลางจาก ป.ป.ส.จำนวน 1 ตันมาผลิต เพราะมีความพร้อมทั้งโรงงาน คน งบประมาณ และวัตถุดิบ จะทำให้ได้เดือนละแสนขวดขึ้นไป เริ่มต้นที่เดือน ก.ย. ซึ่งน่าจะเพียงพอกับคนไข้ 4 หมื่นคนของตน ซึ่งแต่ละเดือนคนไข้จะใช้ประมาณ 2 ขวด ขวดละ 5 มิลลิลิตร ซึ่งทางกรมฯ ก็ขอให้ตนมาช่วยผลิต ตนก็จะจะส่งทีมงานมาช่วย ทั้งนี้ หลังจากผลิตได้จะมีการกระจายน้ำมันเดชาโดยแบ่งมายังตนใช้รักษาคนไข้ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี 25% หรือประมาณ 2.5 หมื่นขวด เพราะคาดประมาณว่าคนไข้จำนวนมากอาจจะยังเดินทางมาหาตน และที่เหลือกระจายไปยังโรงพยาบาลประมาณ 20 โรงทั่วทุกภูมิภาค รวมกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่มีสิทธิจะแจก เพราะมีแพทย์แผนไทย และผ่านการอบรมการใช้กัญชา เพื่อรองรับผู้ป่วยที่จะได้ไม่ต้องเดินทางไกล
นายเดชา กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นตรงกันว่า การจ่ายน้ำมันเดชาให้ผู้ป่วยของตนนั้น จะให้กับทุกโรคที่เคยรักษา ไม่ใช่แค่ 4 โรคตามที่แพทย์แผนปัจจุบันกำหนด เพราะเป็นการจ่ายในเชิงของการเก็บข้อมูลวิจัย ซึ่งแบบนี้สามารถทำได้ทุกโรค และดำเนินการโดยทางแพทย์แผนไทย แบบเอสเอเอส ซึ่งทำแบบนี้จะได้ข้อมูลมากกว่าฝรั่งที่ทำมาหลายสิบปีภายใน 1-2 ปีเท่านั้น จึงอยากให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สนับสนุนในการหางบประมาณมาช่วยในการวิจัย อย่างไรก็ตาม ที่ห่วงคือระยะยาวอาจจะไม่พอ เพราะอาจจะต้องรองรับคนไข้อื่นด้วย ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องรับผิดชอบดูแล ถ้าเขาต้องการก็ต้องให้เหมือนคนไข้ตน และอาจจะต้องเดินหน้าปลูกกัญชาเพื่อเป็นวัตถุในการผลิตต่อไปให้เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยที่ต้องการ ซึ่งหากเริ่มปลูกในเร็วๆ นี้ก็น่าจะเก็บเกี่ยวได้ในช่วง ธ.ค.ก็จะผลิตได้อีกมาหศาล เพราะของกลาง 1 ตันผลิตได้ประมาณ 1 ล้านขวด ยังมีของกลางอีกประมาณ 18 ตันก็ผลิตได้อีก 18 ล้านขวด