'โควิด-19' วิกฤติ ทั่วโลกตื่น! รับมือ

ประมวลสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดยตัวเลขวันนี้ (26 ก.พ.) พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นจำนวนกว่า 80,000 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2,700 ราย

โดย องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงวานนี้ (25 ก.พ.) เตือนให้ทั่วโลกเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดขนาดใหญ่ของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19  พร้อมทั้งสั่งให้รัฐบาลทุกประเทศเตรียมพร้อมมากกว่านี้

"ทุกประเทศทั่วโลกควรจะเตรียมพร้อมมากกว่านี้ เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดขนาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 แม้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า จะเกิดการระบาดแผ่กว้างไปทั่ว หรือที่เรียกว่า แพนเดมิค (pandemic) แต่หลายประเทศก็ควรจะอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมตัวให้พร้อมในการรับมือ"

นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ดับบลิวเอชโอ กล่าวว่า ทุกประเทศจะต้องเตรียมพร้อมมากขึ้นเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ แต่เชื่อว่ายังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ได้ ซึ่งมีหลายประเทศที่ทำได้ดี 

• อิตาลี อิหร่าน เกาหลีใต้ "น่าห่วง" สุด

ขณะที่ สถานการณ์ใน 3 ประเทศยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ "อิตาลี"  ที่มีผู้เสียชีวิต 11 ราย จากการติดเชื้อสะสม 323 ราย (ข้อมูลเมื่อ 07.00 น. วันที่ 26 ก.พ.63) ถือว่า มากที่สุดในยุโรป หลังพบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน หรือ "คลัสเตอร์" 2 กลุ่ม ในแคว้นลอมบาร์ดี จำนวน 177   ราย กับเวเนโต จำนวน 33   ราย และต่อมาพบเพิ่มในแคว้นเพื่อนบ้านอย่างเอมเลีย-โรมัญญา และปีเยมอนเต

อย่างไรก็ตาม ทางการอิตาลีได้สั่งปิดโรงเรียน ร้านอาหาร และแหล่งชุมชนใน 10 เมืองของแคว้นลอมบาร์เดีย ซึ่งมีเมืองเอกคือเมืองมิลาน และอีกเมืองหนึ่งในแว้นเวเนโต ซึ่งมีเมืองเอกคือเมืองเวนิสเป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 16 คนแล้ว

นอกจากนี้ ทางการยังสั่งให้ประชาชนราว 50,000 คน ในพื้นที่เสี่ยงอาศัยอยู่แต่ในบ้าน พร้อมสั่งยกเลิกกิจกรรมที่จะมีคนมาชุมนุมจำนวนมาก เช่นขบวนพาเหรด การแข่งกีฬา และกิจกรรมทางศาสนาทุกประเภท

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข "อิหร่าน" ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิต 16  ราย ติดเชื้อสะสม 95 ราย (ข้อมูลเมื่อ 07.00 น. วันที่ 26 ก.พ.63) แต่ตัวเลขจากส่วนกลางสวนทางกับที่สมาชิกรัฐสภาอิหร่านจากเมืองกอม ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึง 50  รายในเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปในทางใต้ประมาณ 120 กิโลเมตร และมี 250  รายถูกแยกตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ

หลังเกิดการแพร่ระบาด เกือบทุกประเทศที่มีพรมแดนติดกับอิหร่าน พากันประกาศปิดชายแดน หรือจำกัดการเดินทาง โดยเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) มีหลายประเทศที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรก โดยเฉพาะในแถบตะวันออกกลาง อย่าง เช่น คูเวต โอมาน บาห์เรน กับอัฟกานิสถาน และทั้งหมดเกี่ยวข้องกับคนที่ไปอิหร่านกลับมาทั้งสิ้น

ส่วนที่ "เกาหลีใต้" มียอดผู้เสียชีวิต 12 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อสะสมที่ประกาศหลังสุดเมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ (26 ก.พ.63) อยู่ที่ 1,146 ราย จำนวนนี้มีทหารรวมอยู่ด้วย ล่าสุดกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้สั่งให้กักตัวทหาร 7,500 นายเพื่อดูอาการ

• 7 ชาติห้ามชาวญี่ปุ่นเข้าประเทศ 

ทั้งนี้ จากการพบผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่องใน "ญี่ปุ่น" ก็ได้เป็นเหตุให้หลายประเทศออกมาตรการสกัดกั้นโรคอย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยวานนี้ (25 ก.พ.) นายโตชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยรายชื่อ 7 ประเทศ ซึ่งได้แก่ อิสราเอล ซามัว ไมโคนีเซีย คิริบาตี คอโมรอส ตูวาลู และหมู่เกาะโซโลมอน ออกมาตรการห้ามชาวญี่ปุ่น รวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากญี่ปุ่นเข้าประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นอกจากนี้ นายโมเตกิ ยังเรียกร้องให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ก่อนวางแผนเดินทางไปต่างประเทศ

• ยอดตาย-ติดเชื้อในจีนเริ่มทรงตัว

อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งประเทศจีน ดูเหมือนสถานการณ์จะเริ่มทรงตัวมากขึ้น โดยนับถึงเช้าวันนี้ (26 ก.พ.) มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19ในจีน เพิ่มเป็น 2,715 ราย สูงขึ้นจากวานนี้ 52 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 78,064 ราย เพิ่มขึ้น 406 รายจากวันก่อนหน้า

ขณะที่ รัฐบาลจีน เลื่อนการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติ เนื่องมาจากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ โดยคณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนแห่งชาติ ( เอ็นพีซี )ตัดสินใจเลื่อนการประชุมใหญ่เอ็นพีซี ซึ่งตามกำหนดจะเกิดขึ้นในวันที่ 5 มี.ค. นี้ และใช้เวลานานเกือบ 2 สัปดาห์ออกไปก่อน โดยจะมีการประกาศกำหนดการประชุมใหม่ให้ทราบอีกครั้ง

นอกจากนี้ การประชุมประจำปีของสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน (ซีพีพีซีซี) ซึ่งตามกำหนดจะเริ่มในวันที่ 3 มี.ค. นี้ จะเลื่อนออกไปก่อนเช่นกัน ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ที่จีนเลื่อนการจัดประชุมเอ็นพีซี นอกเหนือจากการเปลี่ยนช่วงเวลาจัดการประชุมจากเดือน ก.ย. ของทุกปี มาเป็นเดือนมี.ค. ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา

• ไทยเตรียมใช้ฟ้าทะลายโจรรักษา

สำหรับประเทศไทย ตัวเลขล่าสุด มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 37 ราย รักษาหายแล้วรวม 22 ราย โดยวานนี้ นอกจากกระทรวงสาธารณสุขได้แถลง พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 2 รายเป็นคนไทยทั้งคู่แล้วนั้น อีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจมาก คือ การเริ่มต้นศึกษาความเป็นไปได้ในการนำฟ้าทะลายโจรมาทดลอง

โดย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรมได้ลงนามความร่วมมือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการนำ “ฟ้าทะลายโจร” ซึ่งเป็นยาสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ต้านการอักเสบ และต้านไวรัส โดยเฉพาะไวรัสในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ มาทดลองว่าจะสามารถต้านไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้หรือไม่

การทดลองดังกล่าว จะใช้กับ กลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนไทยสุขภาพดี 10 คน รับประทานยาฟ้าทะลายโจร อยู่ในโรงพยาบาล 5 วัน จากนั้นจะเอาซีรัม หรือตัวอย่างเลือด ไปใส่เชื้อไวรัสโคโรน่าเพื่อดูว่าจะสามารถทำให้เชื้อตายได้หรือไม่ ซึ่งการทดลองจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ถ้าผลการวิจัยออกมาจะสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องคนไทย และมีการนำยาตัวนี้มาใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ ในแผนปัจจุบัน เชื่อมั่นว่าจะให้การรักษาโควิด-19 ได้ผลดี แต่หากผลการวิจัยไม่สามารถยับยั้งเชื้อโควิด 19 ได้กรมการแพทย์แผนไทย และ แพทย์ทางเลือก จะใช้ในการส่งเสริมสุขภาพและศึกษาวิจัยสมุนไพรตัวอื่นเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป