ไฟป่าปะทุ ไหม้ลามท้ายหมู่บ้าน “ป่าแหว่ง” กว่า 10 ชม. ก่อนจนท.จะควบคุมได้
สถานการณ์ฝุ่นควันภาคเหนือยังทรงตัว ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ยังเกินวิกฤติ 5 พื้นที่
ไฟไหม้ป่าเต็งรังในพื้นที่ขอใช้ประโยชน์ของทหาร บริเวณติดกับดอยสุเทพ เหนือห้วยตึงเฒ่า จังหวัดเชียงใหม่ โดยลุกลามต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ก่อนจะลามไปยังท้ายหมู่บ้าน บ้านพักข้าราชการตุลาการจังหวัดเชียงใหม่ หรือหมู่บ้าน “ป่าแหว่ง” ที่ถูกต่อต้านจากภาคประชาสังคมในช่วงสองปีก่อนหน้านี้
โดยนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาบัญชาการที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมกับสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เสือไฟ เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง กว่า 200 นาย เข้าดับไฟ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมน้ำ บินเข้าช่วยดับกว่า 30 เที่ยว
นอกจากนี้ ยังมีการระดมรถบรรทุกน้ำดับเพลิงจากเทศบาลหลายเทศบาลในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งจาก อ.แม่ริม และเทศบาลนครเชียงใหม่ นำน้ำเข้าไปฉีดสกัดไฟไม่ให้ลุกลาม จนกระทั่งช่วงกลางดึก ทางเจ้าหน้าจึงสามารถควบคุมได้แล้วทั้งหมด
ทั้งนี้พบว่า หนึ่งในอุปสรรคของการดับไฟ คือลักษณะพื้นที่ซึ่งเป็นภูเขาสูง ยากต่อการเข้าถึงและพื้นที่มีเชื้อเพลิงจำนวนมาก ทำให้ลุกลามเป็นแนวยาว
ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้นั้นคาดว่า ชาวบ้านจะลักลอบเข้าไปหาของป่าแล้วจุดไฟทิ้งไว้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ที่ยังไม่สามารถดับเพลิงได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีเชื้อเพลิงสะสมไว้เป็นจำนวนมากและเป็นป่าเต็งรัง ทำให้ติดไฟและลุกลามได้ง่าย ซึ่งหลังเกิดเหตุบริเวณรอบๆจุดที่เกิดเหตุมีกลุ่มควันไฟเป็นจำนวนมาก
ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกิดไฟป่าปะทุในพื้นที่เป็นระยะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุใช้เวลาร่วม 5 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบมาแล้ว
เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ได้เสนอให้ภาครัฐดำเนินการเร่งคืนพื้นที่บ้านพักตุลาการ เพื่อง่ายต่อการดำเนินการดูแลรักษาให้กลับคืนเป็นฝืนป่าโดยเร็ว หลังจากเกิดไฟป่าโดยรอบพื้นที่
ส่วนสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ กรมควบคุมมลพิษรายงานว่า พบพื้นที่มีค่าฝุ่นฯ เกินมาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม. 14 พื้นที่ โดย มีถึง 5 พื้นที่ที่ยังคงมีค่าฝุ่นฯ เกินค่าวิกฤต 100 มคก./ลบ.ม
ค่าฝุ่น PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 37 – 189 มคก./ลบ.ม. โดยค่าสูงสุดยังอยู่ที่จังหวัดเชียงราย
ภาพ/ ไฟไหม้ท้ายหมู่บ้านป่าแหว่งวานนี้/ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ