ติดเชื้อในบ้านพุ่ง!!ย้ำใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง

ติดเชื้อในบ้านพุ่ง!!ย้ำใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง

สธ.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่โควิด-19 เพิ่ม 28 ราย รวมยอดสะสม1,288 ราย ใน 68 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ระบุ 3 แหล่งติดเชื้อของผู้ป่วยโควิด-19 เผยติดเชื้อในบ้านพุ่ง ย้ำประชาชนใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างทางบุคคลในบ้าน

พบผู้ป่วยรายใหม่ 28 ราย กลับบ้านได้รวม1,288 ราย

วันนี้ (15 เมษายน 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 30 ราย รวมยอดสะสม 2,643 ราย ใน  68 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่มอีกราย  2 รวม 43   ราย  โดยรายที่ 42 เป็นผู้ป่วยหญิงไทยอายุ  65 ปี อาชีพขายอาหารที่ถนนคนเดิน มีโรคประจำตัว เบาหวาน ไตเรื้อรัง และรายที่  43 เป็น ผู้ป่วยชายไทยอายุ 60 ปี มีประวัติการไปร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย

รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,103 ราย หายกลับบ้าน 1,497  ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุระหว่าง 30-39 ปี จำนวน  627  ราย อายุมากที่สุด 97 ปี และน้อยที่สุด 1 เดือน อายุเฉลี่ย 40  ปี แบ่งตามภูมิภาค กรุงเทพฯ นนทบุรี 1,482 ราย ภาคเหนือ 95  ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 107 ราย ภาคกลาง 344 ราย และภาคใต้ 542 ราย

158693254345

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ วันที่ 15 เมษายน จำนวน  30 ราย แบ่งเป็น กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ ฯ 29 ราย   1.1 เป็นผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 19 ราย (66%ของทั้งหมด) 1.2 ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้า 3  ราย ได้แก่ คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ (ฝรั่งเศส) 1 ราย ไปสถานที่ชุมนุม เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว  2 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค7  ราย  กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarnatine  (กทม.1 ราย USA ต่อเครื่องญี่ปุ่น)จำนวน  1 ราย  

158693254345

10 จังหวัดผู้ป่วยโควิด-19 สูงสุด

โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า  แผนที่แสดงจังหวัดที่รับรักษาผู้ป่วยยืนยันสะสมโรคโควิด-19  จำนวน 2,643 ราย ใน 68 จังหวัด พบว่า 10 อันดับ ที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ กรุงเทพฯ 1,328 ราย ภูเก็ต 190 ราย นนทบุรี 149 ราย สมุทรปราการ 108 ราย ยะลา 93 ราย ปัตตานี 85 ราย ชลบุรี 81 ราย สงขลา 56 ราย  เชียงใหม่ 40 ราย ปทุมธานี 33 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน 71 ราย และ 9 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง

ทั้งนี้ อัตราป่วยโรคโควิด-19 ต่อประชากรแสนคน แยกตามจังหวัดที่รับรักษา ใน 10 อันดับของจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต  45.96 กรุงเทพฯ 23.42 ยะลา 17.41 นนทบุรี 11.86 ปัตตานี 11.78 สมุทรปราการ 8.09 สตูล(จากอินโดนีเซีย) 5.58 ชลบุรี 5.24 สงขลา 3.90 และนราธิวาส 3.60

158693266158

3 แหล่งติดเชื้อของผู้ป่วยโควิด-19

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่าจากการวิเคราะห์ผู้ป่วยตามแหล่งติดเชื้อ กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ เดือนมีนาคมถึงเมษายน พบว่ามีความแตกต่างกัน โดยในเดือนมีนาคม ซึ่งมีผู้ป่วยยืนยัน 1,054 ราย มาจากต่างประเทศ 15% ติดเชื้อนอกบ้าน 77% และติดเชื้อในบ้าน 8% แต่พอเดือนเมษายน มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 460 ราย เป็นจากต่างประเทศ 17% ติดเชื้อนอกบ้าน 60% และติดเชื้อในบ้าน 23%

แสดงให้เห็นว่าตอนนี้การแหล่งติดเชื้อจะเป็นมาจากต่างประเทศ และติดเชื้อในบ้านสูงขึ้น อาจเป็นไปได้ว่ามาตรการเคอร์ฟิวในช่วงเวลาดังกล่าวส่งผลให้การติดเชื้อนอกบ้านลดลง เพราะคนไม่ได้ออกมานอกบ้าน ดังนั้น อยากฝากประชาชนทุกคน อยู่ในบ้านก็ขอให้ปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากาก และรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล

158693379571

ทั้งนี้ ได้มีการถอดบทเรียนจ.ชลบุรี ในเดือนมีนาคม-เมษายน พบระยะการติดเชื้อของผู้ป่วย โดยเริ่มจากผู้ป่วยนำเข้า มาจากสนามมวยและผู้สัมผัส ต่อมามีการแพร่โรคในจังหวัดเฉพาะกลุ่มและสถานที่เสี่ยง และเมื่อมีการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยมาก เช่นพัทยา นิคมอุตสาหกรรม เป็นระยะแพร่โรคในครอบครัวและชุมชน

บทเรียนดังกล่าว เพื่อสอนคนในประเทศว่าพฤติกรรมของคนเชื่อมโยงกับโรค  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีจำนวนผู้รักษาหายต่อวันและผู้รักษาหายสะสม ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ถึง 15 เมษายน มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตอนนี้มีหายแล้ว 1,497 ราย ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่เอง ทั้งในกทม.และต่างจังหวัดมีแนวโน้มลดน้อยลง แต่ประชาชนทุกคนต้องปฎิบัติตามมาตรการ การ์ดอย่าตก