จากสมุนไพรผู้สูงอายุ สู่ เด็ก-นักกีฬา
อินฟอร์มา มาร์เก็ต ผู้นำธุรกิจการจัดแสดงสินค้านานาชาติ ระบุ อุตสาหกรรมยาปี 62 มีมูลค่ากว่า 1.9 แสนล้านบาท แบ่งเป็น ยาแผนปัจจุบัน ยาชีววัตถุ 1.8 แสนล้าน และกลุ่มสมุนไพรและสารสกัด 1.8 หมื่นล้าน คาดโต 2 หมื่นล้าน ในปีุ 63 จากคนรุ่นใหม่นิยมสมุนไพรมากขึ้น
เมื่อสมุนไพรได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเทรนด์การบริโภคของคนรุ่นใหม่ที่นิยมใช้สมุนไพรเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพ ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการใช้สมุนไพรของรัฐ ได้มีการส่งเสริมให้โรงพยาบาล สถานพยาบาลใช้สมุนไพรทดแทนการนำเข้ายาแผนปัจจุบัน ส่งผลให้ฐานลูกค้าของยาสมุนไพรขยายกว้าง และอายุของผู้ใช้น้อยลง
บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ที่ผู้คว่ำหวอดด้านยาสมุนไพรมานานได้เจาะเจาะตลาดเด็กและกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ “ยาน้ำแก้ไอเด็ก” และ “ยาน้ำบรรเทาอาการหวัด” ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ภายใต้แบรนด์ “มิสเตอร์เฮิร์บ” โดยล่าสุด ยาน้ำแก้ไอเด็ก มิสเตอร์เฮิร์บ ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นระดับชาติ ประจำปี 2563
ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด อธิบายถึงจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสมุนไพรสำหรับเด็กว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นปู่ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกร้านขายยา แต่เดิมท่านได้มีการรักษาเด็กหลายโรค ไม่ว่าจะอาการชัก หรือ อาการไอ ก่อนจะเปิดเป็นโรงงานในปัจจุบัน ประกอบกับคนหันกลับมาหาสิ่งที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น จึงอยากผลิตยาสมุนไพรสำหรับเด็ก สนับสนุนให้เด็กใช้ยาสมุนไพร เพราะสมุนไพรเป็นของไทย ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีอาการแพ้ สามารถปรับรสชาติให้เข้ากับเด็กได้ สร้างความผูกพันให้กับเด็กและยาสมุนไพร เวลาเขาโตขึ้น เขาก็จะเชื่อมั่นในยาสมุนไพร
อย่างไรก็ตาม การออกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำให้ให้พ่อแม่เชื่อมั่นในตัวสมุนไพร การออกผลิตภัณฑ์ใหม่จึงต้องคิดเผื่อทุกคนว่าทำอย่างไรให้ลูกหลานเขาสามารถทานได้ จึงเลือกใช้สมุนไพรที่ดี สิ่งที่ท้าทายที่สุด คือ ทำอย่างไรให้ซื้อใช้ครั้งแรกประทับใจและใช้ต่อทำอย่างไรไม่ให้เด็กบ้วนยาทิ้ง ต้องพัฒนาสูตร สรรพคุณต้องได้ และรสชาติต้องดี เป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยาก ต้องการทดลองกับลูกหลานตนเองก่อน จนสุดท้ายออกเป็นผลิตภัณฑ์มิสเตอร์เฮิร์บ เรียกได้ว่าเป็นบริษัทแรกในประเทศไทย ที่ทำสมุนไพรเกี่ยวกับเด็ก โดยมีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย
"สิ่งแรกที่ต้องสร้างให้่เกิดขึ้นให้ได้คือความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ต้องมาก่อน หากเขาเชื่อใจให้เราดูแลสุขภาพของเขา จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าตั้งแต่วัยเด็ก เป็นการขยายฐานลูกค้า เพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ เข้าถึง และน่าเชื่อถือซึ่งที่ผ่านมาผลตอบรับค่อนข้างดี จากยอดขาย(เฉพาะยาแก้ไอเด็ก) ปี 2560 ราว 2 ล้านบาท ปี 2561 ราว5 ล้านบาท และ ปี 2562 อยู่ที่ราว 7 ล้านบาท"
กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด กล่าวต่อไปว่า แต่ก่อนสมุนไพรจะถูกมองว่าเชย กลุ่มที่ใช้สมุนไพรส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ที่แม้อายุมากก็ยังสุขภาพดี ดังนั้น นอกจากต้องพยายามหาสินค้าใหม่เพื่อดูแลให้เขาสุขภาพดี อ่อนกว่าวัยแล้ว ตลาดเด็ก ยังถือเป็นการขยายฐาน และเป็นการมัดใจเขาได้ตั้งแต่เด็กจนถึงโต
นอกจากการสร้างแบรนด์เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ลดอายุของผู้บริโภค โดยการเปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้เป็นที่จดจำ ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสร้างการเข้าใจครอบคลุมกลุ่มลูกค้า มีการพัฒนามาตรฐานโรงงานให้เทียบเท่ากับยาแผนปัจจุบัน ยังได้เจาะกลุ่มนักกีฬา เพื่อสนับสนุนให้นักกีฬาไทยใช้สมุนไพรไทยมากขึ้น โดยออกผลิตภัณฑ์ 2 ตัว ได้แก่ “Vo2” ช่วยทำให้ระบบเลือด ระบบกล้ามเนื้อฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
และเมื่อวันที่ 9 กย.ที่ผ่านมาได้เปิดตัว “Vo2 RC”สมุนไพรสำหรับนักกีฬา สูตรยาจีนสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพลังงานในการออกกำลังกายในช่วงที่หัวใจเต้นเร็ว (โซน 3.5 ขึ้นไป) เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มสำหรับนักกีฬาสำหรับแข่งโดยเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ ทดลองกับกลุ่มนักวิ่งที่รู้จัก กลายเป็นแรงบันดาลใจ เป็นการเพิ่มฐานลูกค้า ไม่อยากให้คนคิดว่าสมุนไพรเป็นอะไรที่เชย จึงพยายามหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้ทุกกลุ่ม
อย่างไรก็ตามในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา แม้สินค้าฟ้าทลายโจรจะได้รับความนิยม แต่ต้นทุนเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากราคาวัตถุดิบ และ ขนวนการผลิตรวมถึง สมุนไพรอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติเพิ่มภูมิคุ้มกันก็ราคาสูงขึ้นเช่นกัน แต่ยังคงควบคุมมาตรฐานในการผลิต และยังขายราคาเดิม และบริจาคยาให้กับชุมชน และหน่วยงานต่างๆ ทั้งนี้ ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นทำให้ต้นทุนวัตถุดิบกลับมาสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ การว่าการออกสินค้าแต่ละตัว ต้องมีวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ไม่น้อยกว่า 10 ปี เน้นความยั่งยืนเป็นหลัก ไม่เกาะกระแส แต่อยากจะให้เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้งานได้จริง และเป็นสินค้าที่ลูกค้าสามารถซื้อใช้ได้ตลอดไป