ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT ละมุนละไมเหมือนวิสกี้ชั้นดี
'อะตอม ชนกันต์' เจ้าของเพลงฮิต 'อ้าว', 'พลีส', 'ทางของฝุ่น' เปิดประเดิมคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบในยุคโควิด-19 ได้อย่างงดงาม ทั้งในเรื่องของโชว์ที่น่าประทับใจ และการจัดงานแบบ New Normal ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคอนเสิร์ตในยุคไวรัสระบาดนี้
ถือเป็นการกลับมาจัดคอนเสิร์ตเต็มรูปในยุคเฝ้าระวังโควิด-19 ได้อย่างน่าประทับใจ สำหรับ ‘ไทยประกันชีวิต Presents ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT’ (ไทยประกันชีวิต พรีเซนต์ อะตอม เฮาส์ ออฟ ฮาร์ท คอนเสิร์ต) ที่จัดขึ้น 2 รอบ ณ ยูเนี่ยนฮอลล์ ชั้น 6 ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา
เพราะนอกจากศิลปินเจ้าของงาน ‘อะตอม’ จะไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังกับโชว์คุณภาพของเขาแล้ว ทางผู้จัด ‘iDea Fact’ (ไอเดียแฟค) หน่วยงานโชว์บิสภายใต้ ‘GMM Grammy’ (จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) ก็ควบคุมดูแลให้การจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบ New Normal ครั้งนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่น ให้ความรู้สึกมั่นใจว่ามีความปลอดภัยตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างแท้จริง
ไม่ว่าจะเป็นการเผื่อเวลาให้ผู้ชมทยอยเข้างานกันล่วงหน้าเป็นชั่วโมง มีการกั้นทางเดินเข้าฮอลล์เอาไว้ 3 แถวแยกกัน พร้อมติดสติกเกอร์เตือนให้รักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing) เอาไว้ที่พื้นทางเดินอย่างชัดเจน ขณะที่เก้าอี้นั่งชมคอนเสิร์ตก็ตั้งห่างกันกว่าที่เคย แถมยังตั้งชิดกันเพียง 2 ตัว แล้วเว้นระยะห่าง ก่อนจะไปวางชิดกันอีก 2 ตัว พอคอนเสิร์ตเลิกก็จะทยอยเรียกให้ออกเป็นโซน ๆ ไปเพื่อไม่ให้เกิดการเบียดเสียดยัดเยียด
ในส่วนของคอนเสิร์ตก็สัมผัสได้ถึงความตั้งใจ และคิดมาเป็นอย่างดีของ อะตอม ชนกันต์ นักร้องนักแต่งเพลงคุณภาพอีกคนหนึ่งของบ้านเรา โดยเจ้าตัวบอกว่าสาเหตุที่คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของเขา ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT มีคอนเซปท์เป็นบ้านก็เพราะว่าบ้านที่มีห้องต่าง ๆ ก็เปรียบเสมือนบทเพลงของเขาที่มีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึก ทั้งสุข เศร้า โกรธ รัก
อะตอมเลือกเปิดคอนเสิร์ตด้วย 3 เพลงฮิตจังหวะสนุกๆ ได้แก่ ช่วงนี้, แผลเป็น, รถคันเก่า พร้อมโชว์สเต็ปกับเหล่าแดนซ์เซอร์สาวสุดเซ็กซี่เพื่อเรียกความคึกคัก ก่อนจะพาเราเข้าสู่ Chapter One : Child ที่เขาเปรียบเอาไว้ว่าเป็น ‘ห้องรับแขก’ ที่เรามักจะเอารูปครอบครัว รูปตอนเด็ก ๆ มาตั้งโชว์ไว้
ในพาร์ทนี้จะเป็นเพลงรักทั้งหมด ซึ่งอะตอมบอกว่าเขาแต่งมันขึ้นมาด้วยมุมมองความรักความอ่อนไหวแบบเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น Please เพลงฮิตสุดๆ ของเขา ตามมาด้วย Happy Anniversary ที่เจ้าตัวแอบหวาน บอกว่าเพลงนี้เขียนมาตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมให้คน ๆ หนึ่งที่ตอนนี้อยู่ด้านหลังเวที (กรี๊ด) ต่อด้วยเพลง ‘อยู่นี่ไง’
อะตอมบอกว่าชีวิตของเขาจะมีดนตรีอยู่เสมอ เขาเล่นดนตรีกลางคืนมาตั้งแต่อายุ 18-19 ทั้งที่ครอบครัวห้าม แต่ก็ยังเล่นตลอดจนเรียนจบมหาวิทยาลัย ก่อนจะพูดถึงการทำเดโมไปส่งค่ายเพลง แล้วร้องเพลง ‘พระเอก’ ให้คนๆ หนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตของเขา นั่นก็คือ แอมมี่ บอททอมบลูส์ ก่อนจะปิดพาร์ทนี้ด้วยเพลง 12345 I Love You
Chapter Two : Storm เป็นห้องที่อะตอมบอกว่ามืดที่สุดในบ้าน แทนความสับสนว้าวุ่นใจ วัยรุ่นอกหัก ซึ่งหลายเพลงของเขาอยู่ในช่วงชีวิตนี้ ไม่ว่าจะเป็น Werewolf, พอ, ไม่ใช่ฉัน, อย่าบอก, แสนสุข, ทางของฝุ่น
สำหรับพาร์ทนี้ชอบฉากเวทีที่มีการเล่นกับแสงและเงา โดยเฉพาะพระจันทร์ดวงโตในเพลง Werewolf และในเพลงอย่าบอกที่โทนของเวทีกลายเป็นดำมืด สะท้อนความรู้สึกในบทเพลงออกมาได้ครบทั้งภาพและเสียง
Chapter Three : The Devil เปิดช่วงด้วยแขกรับเชิญพี่ชายคนสนิท ‘บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์’ ที่มาสร้างสีสันด้วยเพลง Superstar ก่อนที่อะตอมจะขึ้นมาแจมในเพลงฮิตของพี่ชายอย่าง ‘หยุด’ และเพลง ‘ขอโทษ’ ที่บุรินทร์บอกว่าอะตอมแต่งให้เป็นเพลงแรก และก็เพิ่งได้มีโอกาสได้ร้องด้วยกันเป็นครั้งแรกในคอนเสิร์ตนี้นี่เอง
ช่วงต่อไปถือว่ามีเสน่ห์มากที่สุดช่วงหนึ่งในคอนเสิร์ต โดยฉากบนเวทีจะเป็นห้องบาร์ที่อะตอมบอกว่าเป็นที่ ๆ เกิดเรื่องชั่วร้ายขึ้น เพราะคนเรามันก็ต้องมีช่วงเวลาที่เถลไถลในชีวิตกันบ้าง ซึ่งเพลง ‘หนึ่งคืน’ เป็นตัวแทนความรู้สึกในช่วงชีวิตนี้ที่ดีมาก
แต่ที่เด็ดที่สุดคือการนำเพลงฮิตอย่าง ‘ช่วงนี้’ มาทำดนตรีใหม่เป็นเวอร์ชั่นแจ๊ส แถมอะตอมยังโชว์ทักษะการเต้นแท็ปที่พอจบเพลง เจ้าตัวถึงกับหอบจนลืมสคริปต์กันเลยทีเดียว (ฮา)
อะตอมกับลีลาการเต้นแท็ป
ช่วงที่มีสีสันอีกช่วงคือช่วงเพลงลูกทุ่งที่อะตอมบอกว่าทำให้พ่อกับแม่ที่ชอบร้องเพลงลูกทุ่ง และคอยดูแลมาตลอดตอนที่เขาไปประกวดร้องเพลงลูกทุ่งตอนเป็นเด็ก โดยอะตอมเลือกบทเพลงลูกทุ่งสุดคลาสสิค ‘คิดถึงพี่ไหม’ มาร้อง ก่อนส่งต่อเวทีให้แขกรับเชิญคนพิเศษ ‘เปาวลี พรพิมล’ ที่มาโชว์แก้วเสียงอันไพเราะในเพลง นักร้องบ้านนอก ตามมาด้วยเมดเลย์เพลงลูกทุ่ง ผู้ชายในฝัน, กระแซะเข้ามาซิ, รักคุณยิ่งกว่าใคร ที่อะตอมมาร่วมแจมด้วย
Chapter Four : Light พาร์ทนี้อะตอมบอกว่าเป็นห้องที่สว่างสดใส เป็นศูนย์บำบัดจิตใจ โดยอะตอมเลือกนำเพลง ‘เสมอ’ ของปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ มาร้องเพื่อบอกกับคนฟังว่าเขาจะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตามด้วยเพลงความหมายดี ๆ อย่าง Good Morning Teacher, กว่าจักรวาล
ปิดท้ายด้วยเพลง ‘อ้าว’ ที่อะตอมเซอร์ไพร์สด้วยการไปโผล่ตรงกลางที่นั่งคนดูด้านหลังฮอลล์ แล้วค่อย ๆ เดินทักทายแฟน ๆ มาจนถึงด้านหน้าเวที
สิ่งที่ขอชมใน ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT คือ องค์รวมของคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็นแสงสีเสียง ฉากเวทีที่ less is more เรียบ แต่โก้ คอสตูมของทั้งอะตอม นักดนตรี และสาว ๆ คอรัส รวมไปถึงวงดนตรีแบ็คอัพที่มีทั้งวงเครื่องเป่า เครื่องสายมาแจมด้วยนั้น ช่างเข้ากันได้ดีกับ “ความเป็นอะตอม” ซึ่งเป็นศิลปินที่ถ่ายทอดบทเพลงด้วยอารมณ์ความรู้สึก จึงทำให้คอนเสิร์ตครั้งนี้มีความละมุนละไม กลมกล่อม ช่วยเยียวยาจิตใจให้ชุ่มชื่นขึ้นมาได้ในยุคแห่งความโกลาหลวุ่นวายนี้
