“องค์กรแพทย์รพ.ขอนแก่น –ภาคประชาชน” เตรียมบุกสธ.ต.ค.นี้
“องค์กรแพทย์รพ.ขอนแก่น –ภาคประชาชน” เตรียมบุกสธ.ขอพบปลัดสธ.คนใหม่ ต.ค.นี้ ติดตามผลสอบ “หมอชาญชัย” ปมถูกกล่าวหารับเงินบริษัทยา 5% หวั่นยื้อเวลา ด้านประธานคกก.สอบสวนวินัยฯ ชี้ช้าเหตุติดขัดเอกสารการเงินการคลังไม่ครบ เร่งประสานขอข้อมูลเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 พญ.กนกวรรณ ศรีรักษา ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า องค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น และภาคประชาชน ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวผลการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีนพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผ็อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ถูกกล่าวหารับเงินจากบริษัทยา 5% เข้ากองทุนรพ.ขอนแก่น จนถูกย้ายมาเป็นผอ.ศูนย์บริหารทรัพยากรโควิด-19 อยู่ตลอด แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เพราะที่ผ่านมาแม้จะพยายามนำหลักฐานต่างๆไปยื่นกับทุกที่ ที่จะสามารถทำได้ เช่น สำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ผลสุดท้ายเรื่องก็จะถูกส่งมายังกระทรวงสาธารณสุขอยู่ดี อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนมองว่าความยุติธรรมที่ล่าช้า ก็คือความไม่ยุติธรรมอยู่ดี เพราะเรื่องนี้มันไม่ยุติธรรมตั้งแต่ต้น เพราะการโดนแขวนก็เท่ากับเสียเวลาในการบริหารงานในโรงพยาบาล
ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวอีกว่า ทางองค์กรแพทย์ฯ ยังกังวลว่าจะเป็นการยื้อเวลายิ่งประธานสอบ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งจะมีผลในเดือนต.ค.นี้ ก็กังวลว่าจะมีการเปลี่ยนประธานสอบอีกหรือไม่ ดังนั้นภายในเดือนต.ค.นี้ องค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นและภาคประชาชน จะมีการขอเข้าพบนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ซึ่งจะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ด้วย เพราะเห็นการแสดงวิสัยทัศของท่านก็เน้นเรื่องการมีธรรมาภิบาล นอกจากนี้ยังอยากให้ทางคณะกรรมการมีการติดตามความคืบหน้ากรณีที่เอกสารลับหลุดออกมาด้วยว่าเอกสารดังกล่าวหลุดมาได้อย่างไร
ด้านพญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 5 ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง กล่าวถึง ว่า ขณะนี้การสอบสวนมีความคืบหน้าหลายส่วน เช่น มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล รวมถึงการคณะกรรมการสอบสวนฯ มีการลงพื้นที่โรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งจากการลงพื้นที่ ทำให้พบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหลายคน แต่ผลการสอบจากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะให้แล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.นี้ ก็ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากยังขาดข้อมูลและเอกสารด้านการเงิน การคลัง จึงยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะที่ผ่านมาส่วใหญ่หลักฐานจะเป็นในเรื่องของคำให้การมากกว่า ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอ
“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางคณะกรรมการฯ ได้มีการส่งหนังสือเพื่อขอเอกสารเพิ่มเติม เช่น ขอข้อมูลการเงิน การคลัง นั้นล่าสุดได้รับมาแล้ว แต่ยังไม่ครบ ซึ่งทางคระกรรมการฯ ก็ดำเนินการตรวจสอบเอกสารที่ได้มาเบื้องต้นไปบ้างบางส่วนแล้ว ทั้งนี้ในเรื่องนี้ท่านผู้บังคับบัญชาได้กำชับและติดตามตลอดว่าให้ทำงานอย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทางคณะกรรมการฯก็เร่งทำงานอย่างเต็มที่ แต่ยังติดขัดเรื่องเอกสารบางส่วน ที่ถือเป็นหลักฐานที่สำคัญ ที่จะนำมาใช้ในการประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ขอย้ำว่าไม่ได้มีการถ่วงเวลาแน่นอน เพราะคณะกรรมการฯเพิ่งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องเอกสารลับหลุดนั้น ก็ไม่อยากให้กังวล เพราะไม่มีผลกับกระบวนการสืบสวนขอคณะกรรมการฯ ทุกอย่างยึดตามความถูกต้อง”พญ.อัมพร กล่าว