อาชีวะยกกำลังสอง พัฒนาเข้มข้นทุกมิติ
อาชีวะยกกำลังสอง คุณภาพนำปริมาณ เดินหน้าสร้างความเข้าใจเพิ่มความเข้มข้นทุกมิติ ผู้เรียน ครู ห้องเรียน สื่อการเรียนรู้ และสถานศึกษา สู่การพัฒนาสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศและเชี่ยวชาญเฉพาะทาง excellent Center ใน 7 สายงานหลัก
ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.)กล่าวในการประชุม สัมมนาผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อขับเคลื่อนอาชีวศึกษาประจำปีงบประมาณ พ. ศ. 2564 ณ โรงแรม เจ.พีเอ็มเมอรัลด์ จังหวัดยโสธร ว่าการขับเคลื่อนอาชีวะยกกำลังสอง สร้างคุณภาพ นำปริมาณ เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม จากการถอดรหัสนโยบาย การศึกษากำลังสอง ของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยอาชีวศึกษาจะเพิ่มความเข้มข้นในทุกมิติ คือ ผู้เรียน ครู ห้องเรียน สื่อการเรียนรู้ และสถานศึกษา
สู่การพัฒนาสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศและเชี่ยวชาญเฉพาะทาง excellent Center ใน 7 สายงานหลัก ได้แก่ปิโตรเคมี (Petrochemical), เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล (Digital Business Technology), หุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม(Robotics), เกษตรสมัยใหม่ (Smart Farming), อุตสาหกรรมการบิน (Aviation Industry), อุตสาหกรรมระบบราง(Railway Industry) และยานยนต์สมัยใหม่ (Next Generation Automotive), และ ธุรกิจโรงแรมและการบริการ(Hospitality Industry) ในการก้าวไปเป็นศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center: HCEC) ของอาชีวศึกษา เพื่อผลิตและพัฒนาทุนมนุษย์ จำนวน 100 แห่ง ในกรอบการขับเคลื่อนปี 2564
เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อไปว่า ขอให้สถานศึกษาทำในสิ่งที่ถนัด สร้างในสาขาที่เชี่ยวชาญ สู่ความเป็นเลิศ และทบทวนถึงที่มาของหลักการและเจตนารมย์การจัดตั้งสถานศึกษาแต่ละประเภท ในสังกัดเช่น วิทยาลัยสารพัดช่าง(วช.) เพื่อการจัดการศึกษา การฝึกอบรมวิชาชีพสำหรับประชาชน ทั้งในด้าน Re-skills Up-skills New-skills ระยะสั้น ประเภท วิทยาลัยการอาชีพ(วก.) หลักการ เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาในพื้นที่ภูมิภาครองรับการศึกษาสายวิชาชีพ พื้นฐานวิชาชีพที่สอดคล้องกับบริบทสามารถจัดการเรียนการสอนได้ทุกสาขาวิชาตอบโจทย์ในพื้นที่นั้นๆ
วิทยาลัยเกษตร และเทคโนโลยี(วษท.) จัดการเรียนการสอนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนทางด้านการเกษตรและสาขาที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร
โดยในส่วนของสอศ.จะดำเนินการบริหารจัดการในรูปแบบใหม่ที่จะช่วยสนับสนุน แก้ปัญหา เช่นการคิด การจัดสรรงบประมาณ การลงทุน บริหารและการจัดการ ให้สถานศึกษาให้สามารถดำเนินการไปสู่ HCEC เช่น วิทยาลัยสารพัดช่าง หากไม่เปิดสอน ระดับปวช.และปวส.จะต้องดำเนินการการบริหารจัดการอย่างไรที่ไม่ใช้จ่ายแบบงบประมาณรายหัวผู้เรียน นำแนวคิดการใช้วิทยากรหรือครูผู้สอนระดับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอาชีพเข้ามาเป็นครูผู้สอน และ เกลี่ยอัตราผู้สอนครูประจำที่มีอยู่ไปในส่วนของวิทยาลัยเทคนิค หรือวิทยาลัยการอาชีพ หรือวิทยาลัยที่ขาดแคลนครู ทดแทนในส่วนครูจ้างสอน โดยเฉพาะในวิทยาลัยขนาดใหญ่
ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนได้นำแนวคิดการปลดล็อคเพื่อสร้าง Win Win ให้กับสถานศึกษา และสถานประกอบการ ทั้งด้านกรอบงบประมาณการจัดสรร และการลงทุนของสถานประกอบการ เช่นภาษีในเรื่องของการจัดการศึกษา การนำอุปกรณ์การจัดการศึกษาหรือการลงทุนในการสร้างโรงงานในโรงเรียน ด้านการปรับเปลี่ยน พัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่องจัดการอาชีวศึกษารูปแบบทวิภาคีอย่างเข้มข้น ใช้หลักการ 4 on ทั้ง1.online 2.on air 3.on demand และ4.on site ทางด้านสมรรถนะของวิชาชีพ ผู้เรียนต้องเพิ่มเติมและมีความพร้อมทางด้านภาษา ในภาษาที่สอง และสาม เช่นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ญี่ปุ่น ฯลฯ รวมถึงทักษะด้าน Digital และเทคโนโลยีต่างๆ และ ด้านการเปิดกว้าง ในการตั้งห้องเรียนอาชีพในมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย
โดยจัดทำเป็นกลุ่มอาชีพพื้นฐานและสามารถเก็บเป็นเครดิตเมื่อเข้าสู่การเรียนในระดับอาชีวศึกษา กำหนดเป้าหมายเป็นหนึ่งวิทยาลัย หนึ่งเอกชนหรือสถานประกอบการ และหนึ่งโรงเรียนมัธยม แชร์ทรัพยากรร่วมกันในการจัดการศึกษา ในส่วนของอาชีวศึกษาเอกชนก็จะดำเนินการควบคู่กันไปอาชีวศึกษาภาครัฐ ส่วนในประเด็นของนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการแสดงออกทางความคิดเห็นต่าง ๆ ก็เปิดกว้างผ่านช่องทางการสื่อสาร ซึ่งเรียกว่าองค์การวิชาชีพของนักเรียนนักศึกษาซึ่งมีอยู่ในสถานศึกษาทุกแห่งของอาชีวะ พร้อมกันนี้ ขอให้สถานศึกษาทุกแห่ง ยังคงตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สถานศึกษาทุกแห่งการ์ดอย่าตก