สภาเภสัชกรรมค้าน 3 ร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข
สภาเภสัชกรรมค้านร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข “ยันโรงพยาบาลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลส่งเสริมฟื้นฟูผู้สูงอายุ ต้องมีแผนกเภสัชกรรมและเภสัชกร”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊กเพจของสภาเภสัชกรรม ได้เขียนข้อความระบุว่า ขณะนี้สำนักงานกฤษฎีกากำลังพิจารณา ร่าง กฎกระทรวงออกตามพระราชบัญญัติสถาพยาบาล พ.ศ. 2541 จำนวน 4 ฉบับ ดังนั้น เพื่อให้กฎกระทรวงทั้ง 4 ฉบับนี้ มีข้อกำหนดที่เหมาะสมในการให้บริการของโรงพยาบาลทั้ง 2 ประเภท ดังกล่าว ที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ป่วยสูงอายุ สภาเภสัชกรรมขอยืนยันความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ดังนี้
“กฎกระทรวง ต้องยึดหลักการของการกำหนดให้ โรงพยาบาลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลส่งเสริมฟื้นฟูผู้สูงอายุ ต้องมีแผนกเภสัชกรรมและมีเภสัชกรเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ โดยไม่มีข้อยกเว้นตามขนาดโรงพยาบาล”
เหตุผล:
1. ผู้ป่วยสูงอายุที่เข้ารับการรักษาหรือฟื้นฟู เป็นผู้ป่วยที่มีสภาพร่างกายและอวัยวะต่างๆ เสื่อมโทรมไปตามวัยเป็นพื้นฐาน ประกอบกับมีการใช้ยาร่วมกันหลายขนาน มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาจากการใช้ยา ไม่ว่าจะเป็น ปฎิกริยาระหว่างยาด้วยกัน ยากับอาหาร การแพ้ยา ผลข้างเคียงจากยา เป็นต้น จึงจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์สภาพร่างกายของผู้ป่วยเพื่อปรับขนาดการใช้ของยาแต่ละตัว ปรับวิธีการบริหารยา และอื่นๆ ตามมาตรฐานวิชาชีพ
2. มาตรฐานของโรงพยาบาลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลส่งเสริมฟื้นฟูผู้สูงอายุ ที่มีการใช้ยาร่วมด้วยในการรักษาหรือฟื้นฟูสุขภาพจำเป็นต้องมีผู้ประกอบวิชาชีพทางเภสัชกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงาน ร่างกฎกระทรวง 4 ฉบับ ประกอบด้วย 1.ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถานพยาบาลและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล พ.ศ..... 2.ร่างกฎกระทรวงกฃหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ ยาและเวชภัณฑ์ ฟรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล พ.ศ....3.ร่างกฎกระทรวงกำหนดชื่อสถานพยาบาลและการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่น และสิทธิของผู้ป่วย พ.ศ.....และ4.ร่างกฎกระทรวงกำหนดวิชาชีพและจำนวนผู้ประกอยวิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ.....ทั้งนี้ สภาเภสัชกรรมเห็นชอบในหลักการเพียงร่างฉบับที่ 3 เท่านั้น โดยรศ.ภญ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม ได้ส่งหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว