'กฎหมายการพนันไทย' ใช้มา 86 ปี ล้าหลังแล้ว ต้องรื้ออย่างไร
"ปัญหาการพนัน"บ้านเรา ทำให้เกิดปัญหามากมาย ทั้งเรื่องอาชญากรรมและปัญหาสังคม รวมถึงการแพร่เชื้อไวรัสโควิด เนื่องจากกฎหมายล้าหลังที่มีช่องว่างมากมาย ยากที่จะจัดการกับผู้กระทำผิด
สิ่งที่น่ากลัวไม่น้อยไปกว่าสถานการณ์โควิด 19 ระบาดระลอกใหม่คือ“ปัญหาพนัน” ในสังคมไทย ทั้งการพนันปกติแบบออฟไลน์อย่าง บ่อน และหวยใต้ดิน และพนันออนไลน์จากเว็บไซต์เกมออนไลน์ และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเฟื่องฟูขึ้นทุกครั้งเมื่อมีการเวิร์คฟอร์มโฮมหรือต้องเรียนออนไลน์ที่บ้าน
ล่าสุดแม้แต่ในโรงพยาบาลสนาม สถานที่กักตัวผู้ติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด 19 ยังมีการรวมตัวตั้งวงไพ่โดยอ้างเล่นเพื่อหารายได้ช่วงตกงานแบบไม่สนมาตรการเว้นระยะห่างในสังคม หรือ Social Distancing
ขณะที่การเข้าทะลายบ่อน จับกุม หรือไล่ปิดเว็บไซต์และแอปพลิเคชันพนัน แต่ไม่สามารถจับกุมและลงโทษเจ้ามือ เจ้าของบ่อน เจ้าของสถานที่ แม้แต่เจ้าของเว็บไซต์พนันให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ส่วนหนึ่งเพราะกฎหมายปราบพนันของไทยยังล้าหลัง ไม่สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับการพนันอย่างเป็นทางการฉบับแรกคือพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2473 ต่อมามีการปรับปรุงเพียง 1 ครั้ง และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาโดยเรียกว่า “พระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478”
หลังจากนั้นแม้จะมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือกันหลายครั้งในหลายรัฐบาล แต่ก็ไม่เคยมีการปรับปรุงกฎหมายการพนันให้ทันสมัยอย่างเป็นกิจลักษณะอีกเลยจนถึงปัจจุบัน
นั่นหมายความว่า พ.ร.บ.การพนันฯ ของไทยถูกใช้มาแล้วถึง 86 ปี!หรือกว่า7 ทศวรรษ
กระทั่ง“คณะทำงานพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันและการพนันออนไลน์”ในคณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏรที่มี อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือเพื่อปรับปรุงกฎหมายการพนันของไทยให้มีประสิทธิภาพ
เรื่องนี้ พงศธร จันทรัศมี ผู้จัดการโครงการมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันและการพนันออนไลน์ฯ เผยผลความคืบหน้าการศึกษาหารือว่า เบื้องต้นทางคณะทำงานฯ ได้เสนอแนวทางในการยกเครื่อง “New LAWFor New Normal” ในการจัดการกำกับดูแล 8 สถานการณ์ปัญหาการพนัน กับ 6 แนวทางยกระดับกฏหมาย
สำหรับ 8 สถานการณ์ปัญหาการพนัน ที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ คือ
1.การพนันล้อมบ้านล้อมเมือง ทั้งใต้ดิน บนดิน ออนไลน์ชายแดน รวมถึงที่แฝงมากับโฆษณาเชิญชวนต่างๆ
2.กฏหมายและกลไกกำกับดูแลควบคุมล้าหลังไม่ทันสถานการณ์ ใช้มานานกว่า 86 ปี โดยไม่มีการปรับปรุงแก้ไข
3.บทลงโทษเจ้ามือ ผู้เชิญชวน ผู้เล่นการพนันที่ผิดกฏหมาย มีโทษน้อยปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท และส่วนมากถูกตัดสินเป็น คดีลหุโทษส่งผลให้ไม่เกิดความเกรงกลัว
4.ขาดแรงจูงใจเชิงรุกให้กับเจ้าพนักงานและประชาชนผู้แจ้งเบาะแส ทำให้การระบาดของการพนันผิดกฏหมายรุกหนัก
5.กลไกการกำกับดูแลบังคับใช้กฏหมายนั้นแยกกันทำ ไม่บูรณาการ และดำเนินการเชิงรับมากกว่า
6.ขาดระบบติดตามนโยบายแก้ไขปัญหาการพนันอย่างต่อเนื่อง ตรงจุด เฉพาะพื้นที่
7.ไม่มีกลไกป้องกัน กลไกสร้างความตระหนัก ระบบพัฒนาวิจัยปัญหาพนันระดับชาติรวมถึงการช่วยเหลือด้านสุขภาพของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพนันอย่างต่อเนื่อง
และ 8.ยังไม่มีระบบ มาตรการ กลไก ที่รองรับการจัดการการพนันชนิดใหม่ๆ ที่อาจจะไปสู่การพนันที่อนุญาตหรือไม่อนุญาตในอนาคต
ขณะที่ 6 แนวทางเพื่อยกเครื่องการจัดการปัญหาพนันในประเทศไทยทางคณะทำงานฯ เห็นควรว่า
1.ต้องมีกฏหมายพนันฉบับใหม่ โดยโครงสร้างของกฎหมายต้องกำหนดคำนิยาม และลักษณะการพนันให้รองรับการตีความประเภทการพนันที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงมีระบบการจัดการกำกับควบคุมการพนัน การช่วยเหลือเยียวยา และบทลงโทษที่ทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์
2.เพิ่มบทลงโทษให้หนักขึ้นอย่างครอบคลุม ทั่วถึง และสอดคล้องกับบริบทประเทศไทย เช่น พิจารณาบทลงโทษผู้เล่นตามลักษณะของขนาดการเล่นการพนัน ขณะที่เจ้ามือหรือผู้จัดให้มีการเล่นต้องรับโทษหนักขึ้น รวมถึงผู้เชิญชวนทางออนไลน์และมีค่าปรับเป็นวงเงินร้อยละ 10 ของการเล่นพนันวงนั้นๆ
3.มีกองทุนช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากการพนันและกองทุนพัฒนางานวิจัยที่เกี่ยวกับพนันในทุกมิติ อีกทั้งยังต้องเพิ่มการรณรงค์ ส่งเสริมมาตรการป้องกันและมาตรการปราบปรามการพนัน
4.มีมาตรการจูงใจและการทำงานเชิงรุกในการแจ้งเบาะแสจับกุมผู้กระทำความผิดการพนันที่ผิดกฏหมาย เช่นผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับรางวัลนำจับจำนวนกึ่งหนึ่งของค่าปรับผู้กระทำความผิดการพนันในครั้งนั้น ยกตัวอย่างเน็ตไอดอลโพสต์เชิญชวนเล่นพนันออนไลน์ ศาลมีคำสั่งปรับ100,000 บาท ผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การตัดสินโทษจะได้รับรางวัลนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ คือ 50,000 บาทเป็นต้น
5.มีกลไกการบูรณาการมาตรการการบังคับใช้กฏหมาย รวมถึงนโยบายพร้อมนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับปรุงแก้ไขปัญหาพนันในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง
และ6.มีกลไกในการกำกับดูแล อนุญาต และควบคุมการพนันที่ได้รับอนุญาต และที่ไม่ได้รับอนุญาต ทั้งในระดับประเทศและระดับจังหวัดโดยความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
พงศธร บอกว่า เชียร์ให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผลักดันให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายพนันฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จ ในส่วนของมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ หรือ มสช. เรามองว่าธุรกิจการพนันเป็นธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อสังคม ผู้เล่นการพนันมีโอกาสเป็นโรคติดพนัน ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวช และนำไปสู่ผลกระทบด้านสุขภาพจิตอื่นๆ
โดยเฉพาะเยาวชน หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เล่นการพนันโดยขาดการดูแล ควบคุม และเล่นการพนันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เด็ก ก็จะทำให้เขาขาดวุฒิภาวะ และเป็นช่องทางไปสู่การเป็นอาชญากรเพื่อใช้หนี้พนันในอนาคตได้
จึงจำเป็นต้องผลักดันให้มีกลไกทางกฏหมายในการกำกับและช่วยเหลือเยียวยาอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและจริงจัง รวมถึงต้องมีระบบช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพนัน เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้ประชาชนเป็นโรคติดพนันอย่างยั่งยืนสืบไป”