'หมอพร้อม' คนไทยพร้อมหรือยัง? 'ฉีดวัคซีนโควิด-19'

'หมอพร้อม' คนไทยพร้อมหรือยัง? 'ฉีดวัคซีนโควิด-19'

"หมอพร้อม" เปิดให้ลงทะเบียนมีผู้Add line เพียง 1.3 ล้านคน ยืนยันวัคซีนเพียงพอ ส่วนสาเหตุที่คนไทยลงทะเบียนจอง 6 แสนกว่าคน อาจจะลงจองช่องทางอื่น หรือ กังวลเรื่อง "คุณภาพของวัคซีน"

ผ่านไป 3 วันของการเปิดลงทะเบียน "จองฉีดวัคซีนโควิด -19" ผ่านแอพพลิเคชั่น “หมอพร้อม” พบว่า ยอดผู้ลงทะเบียน วันที่ 3 พ.ค.2564 เวลา 14.00 น. มีจำนวนการจองคิวเข้ารับบริการฉีด "วัคซีน"จำนวนรวม 6389,251ราย แบ่งเป็น Line Official Account 466,221 ราย แอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” 173,030 ราย เท่านั้น

ขณะที่การ Add friend ผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” เวอร์ชั่น 2 พบว่า มีผู้ Add friend เพียง 1.3 ล้านคน โดยจากเดิมหมอพร้อมเวอร์ชั่นแรก มีเพื่อนทั้งหมด 2.5 ล้านคน เมื่อเปิดระบบเวอร์ชั่น2 มีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.8 ล้านคนเท่านั้น ทั้งที่ประชาชนใน 2 กลุ่มนี้มีทั้งหมด 16 ล้านคน แถมผู้ที่ Addfriend 1.3 ล้านคน ก็ใช่ว่าทุกคนจะ "จองฉีดวัคซีนโควิด- 19"

ทั้งที่ การลงทะเบียน"หมอพร้อม"รอบนี้ จะเปิดโอกาสให้ 2 กลุ่ม ซึ่งมีประชากรประมาณ 16 ล้านคน คือ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 11.7 ล้าน และผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 โรค ประกอบด้วย โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง เบาหวาน และโรคอ้วน อีก 4.3 ล้านคน ได้จองคิวฉีดวัคซีนโควิด- 19 ซึ่งจะเริ่มฉีดในเดือนมิ.ย. 2564 เป็นต้นไป 

  • Addline “หมอพร้อม”เวอร์ชั่น 2 เพียง 1.3 ล้านคน

เมื่อตัวเลขของผู้มีสิทธิ "จองฉีดวัคซีนโควิด -19" กับจำนวนผู้จองวัคซีน ในระยะเวลา 3 วัน สวนทางกัน ย่อมทำให้เกิดคำถามว่าเหตุใด? จึงไม่มีผู้ลงทะเบียนมากกว่านี้ หรือทุกคนไปใช้อีก 2 ช่องทาง ติดต่อนัดหมาย ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านที่มีประวัติการรักษา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หรือแจ้งที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่ได้ หรือจริงๆ แล้ว ประชาชนยังไม่เชื่อมั่นในคุณภาพของวัคซีน AstraZeneca เนื่องด้วยผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น!!!!

              

  • "หมอพร้อม" ฉีดวัคซีน คนไทยมีคุณภาพ

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า "วัคซีนโควิด-19"ของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่ได้อนุมัติขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตในรูปแบบ Viral Vector จากบริษัท แอสตราเซเนกา ได้นำส่งตัวอย่าง"วัคซีนโควิด-19" ที่ได้ดำเนินการทดลองผลิตเสมือนจริง เพื่อทดสอบความสม่ำเสมอในการผลิต จำนวน 5 รุ่นการผลิต ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

ทั้งนี้ สถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำการตรวจสอบคุณภาพ พบว่า "วัคซีน"ทั้ง 5 รุ่น ให้ผลผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่บริษัท แอสตราเซเนกา (ประเทศไทย) ได้รับอนุญาตขึ้นทะเบียนไว้ทุกรายการทดสอบ (full tests) ทั้งการทดสอบความเป็นเอกลักษณ์ ความแรง ความปลอดภัย และการตรวจทางเคมี-ฟิสิกส์

162005246148

นอกจากนั้น ตามที่โรงงานของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้รับการอนุมัติเพิ่มสถานที่ผลิต"วัคซีนโควิด-19" ของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้าในประเทศไทย จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในวันที่ 23 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการที่บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด จะสามารถผลิตและส่งมอบ"วัคซีนโควิด-19" AstraZeneca ในประเทศไทย ได้ภายในเดือนมิ.ย.2564

สามารถขอการรับรองรุ่นการผลิตกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้โดยตรง ในนาม"วัคซีนโควิด-19" ของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ที่มีมาตรฐานสากล เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงวัคซีน ได้อย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมป้องกันโรคในประเทศ และยังสามารถส่งออกวัคซีนให้กับประเทศในภูมิภาคต่อไป ได้ด้วย ทำให้เพิ่มโอกาสในการเข้าถึง "วัคซีนโควิด-19" ของประชากรโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ลงทะเบียน 'หมอพร้อม' จองคิวรับวัคซีนโควิดรอบแรก ต้องรู้อะไรบ้าง?

                     เปิดวิธี 'จองสิทธิวัคซีนโควิด' ผ่านไลน์ 'หมอพร้อม' และข้อควรรู้!

                    เช็กชื่อสถานที่ 14 แห่งในกทม.ฉีดวัคซีน

  • "ฉีดวัคซีนโควิด-19"ป้องกันมากกว่าเกิดผลข้างเคียง

ขณะที่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ. หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าความกังวลจากการใช้ "วัคซีนโควิด-19" AstraZeneca ที่เกิดอาการร่วมด้วยในผู้ป่วยบางราย ทำให้ผู้ที่ได้รับ "วัคซีน"มีอาการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำ โดยอาการดังกล่าวทำให้ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงความเกี่ยวข้องกับ "วัคซีน" ซึ่งอาการแข็งตัวของเลือด ไม่ได้รับการยืนยันว่าเกิดจากวัคซีน

องค์การอนามัยโลก (WHO) และสถาบันของยุโรป ได้ออกมายืนยันแล้วว่าอาการดังกล่าวไม่ได้เป็นอาการข้างเคียงที่เกิดจาก"วัคซีนโควิด-19" ในคนปกติก็พบได้เช่นกัน ทั้งนี้ วัคซีน AstraZeneca มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ในการป้องกันมากกว่าผลข้างเคียงในเชิงลบ ทำให้องค์การอนามัยโลก (WHO) อนุมัติให้มีการฉีดต่อได้ ดังนั้น ผู้รับวัคซีนทุกชนิด ควรศึกษาข้อมูลประสิทธิภาพของ"วัคซีน"และผลข้างเคียงของ"วัคซีน"อย่างละเอียดเพื่อให้ตนเองสามารถสังเกตอาการผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น โดยเมื่อมีอาการควรรีบไปพบแพทย์และทำการรักษาอย่างรวดเร็ว

ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก และอาจารย์สาขาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ให้รายละเอียดว่า ผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ 2 อย่าง คือผลข้างเคียงจาก"วัคซีน" ที่จะทำให้มีไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และปฏิกิริยาของผู้รับวัคซีน ที่ทำให้เกิดอาการทางระบบประสาท หรือระบบหัวใจ โดยจะมีอาการคล้ายจะเป็นลม หรือหน้ามืด

ดังนั้น การเตรียมตัวก่อนการได้รับ "วัคซีนโควิด-19" จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ประกอบด้วย การพักผ่อนให้เต็มที่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และเตรียมสภาพจิตใจให้ผ่อนคลาย สำหรับผู้ที่มีอาการมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วขณะได้รับการฉีด"วัคซีน" และมักจะหายได้เองภายในระยะเวลา 24-48 ชั่วโมง และได้รับการสืบสวนโรค หรือตรวจด้วยเครื่องมือต่างๆ ก็จะไม่พบความผิดปกติใดๆ

  • ฉีด-ไม่ฉีด รัฐต้องสื่อสารใหม่

สำหรับการจัดหา "วัคซีนโควิด-19" ซึ่งเป็นไปตามแผน โดยในเดือนพ.ค.2564 ไทยจะได้รับวัคซีน Sinovac เพิ่มเข้ามา ขณะที่ AstraZeneca จะทยอยส่งมอบได้ตั้งแต่เดือนมิ.ย.2564 จำนวน 6 ล้านโดส และต่อเนื่องอีกเดือนละ 10 ล้านโดสจนถึงปลายปีนี้

ขณะนี้มีประชาชนที่ฉีด "วัคซีนโควิด-19" ไปแล้ว 1,484,565 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 1,097,862 ราย เข็มที่2 จำนวน 386,703 ราย และผู้ที่ฉีด"วัคซีน"แล้วมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นน้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้ที่ฉีด "วัคซีนโควิด-19" อีกทั้ง จนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ยังไม่พบผู้ที่ฉีด "วัคซีนโควิด-19" แล้วเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศไทยมีจำนวนผู้ลงทะเบียน หมอพร้อม มากหรือน้อย อาจจะยังสรุปได้ไม่ชัดเจน ว่า"วัคซีน"มีไม่พอ หรือ"วัคซีน"ไม่มีคุณภาพจนคนไทยไม่เชื่อมั่น คงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน แต่ละครอบครัวว่าพร้อม หรือไม่พร้อมในการฉีด"วัคซีน" และต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการสื่อสารไปยังประชาชน สร้างความรู้ความเข้าใจ ให้ข้อเท็จจริง ข้อมูลที่ถูกต้องประกอบการตัดสินใจว่าควรจะเลือกฉีด หรือไม่ฉีด "วัคซีนโควิด-19"