‘ธรรมศาสตร์’ ลดภาระแพทย์ จัดตรวจคัดกรอง 'โควิด-19' 3,000 ราย

มหาวิทยาลัย "ธรรมศาสตร์" (มธ.) ร่วมกับสํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี เดินหน้าคัดกรองเชื้อ "โควิด-19" เชิงรุก ให้แก่ ประชาชนในพื้นที่ ชุมชนรอบมหาวิทยาลัย ศูนย์รังสิต รวมถึงนักศึกษา คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 4-5 พ.ค.ที่ผ่านมา ณ อาคารเรียนรวม 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ จ.ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร (กทม.) ถูกยกระดับให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด "พื้นที่สีแดงเข้ม" ทำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่มีความกังวล และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ทาง มธ. จึงได้ร่วมกับสํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี ดำเนินการ "ตรวจคัดกรองเชิงรุก"ให้แก่ประชาชนที่อยู่ใน จ.ปทุมธานี และชุมชนที่อยู่ในละแวกมหาวิทยาลัย รวมถึงผู้ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยด้วย

• "ธรรมศาสตร์" ตรวจ "โควิด-19" 3,000 กว่าราย

รศ.เกศินี กล่าวว่า "ธรรมศาสตร์"ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาคม "ธรรมศาสตร์" และผู้ที่พักอาศัยในชุมชนโดยรอบ จึงไม่ได้ดูแลเฉพาะชาว"ธรรมศาสตร์"เท่านั้น แต่ยังสนับสนุนผู้ที่ประกอบอาชีพต่างๆ ในมหาวิทยาลัย เช่น พ่อค้า แม่ค้า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แม่บ้าน แรงงานข้ามชาติ รวมไปถึงประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เข้าถึงการตรวจคัดกรองโรค และทำให้มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย

สำหรับการ"ตรวจคัดกรองเชิงรุก" ในครั้งนี้ มีผู้ขอเข้ารับการตรวจเป็นจำนวนมากถึง 3,093 ราย โดยใช้วิธีการตรวจแบบ RT-PCR (Real Time Polymerase Chain Reaction) ที่มีความแม่นยำสูง โดยสํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี ได้นำรถพระราชทาน รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย (Biosafety Mobile Unit) จำนวน 2 คัน

• ช่วยลดภาระแพทย์ ช่วยดูแลประชาชน "พื้นที่สีแดงเข้ม"

รวมถึงรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ (Express Analysis Mobile Unit) เพื่อใช้ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ออกตรวจวิเคราะห์ผล "โควิด-19" นอกโรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการขนส่งตัวอย่างและระยะเวลาในการรอผลวิเคราะห์

รศ.เกศินี กล่าวว่า "ธรรมศาสตร์"ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลประชาชนคนไทยและคนต่างชาติ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลและการป้องกันและควบคุมโรค "โควิด-19" ภายใต้ทรัพยากรที่ตัวเองมีอยู่ ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนในพื้นที่แล้ว ยังเป็นการช่วยประเทศสู้วิกฤต และลดภาระบุคลากรทางการแพทย์อีกทางหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินการด้วยความภาคภูมิใจในฐานะมหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน