ส.ค.ไทยผลิต'ยาฟาวิพิราเวียร์'ได้ในประเทศ
สธ.จัดระบบเข้มเฝ้าระวัง แรงงานกลับถิ่น สกัดโควิด-19 เตรียมพร้อมศักยภาพพยาบาลทุกแห่ง สถานที่-ยา-เวชภัณฑ์ บริหารจัดการรูแบบเครือข่าย ส.ค.นี้ไทยผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ได้เองในประเทศ อภ.กำลังผลิตเดือนละ 2 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ขอให้นพ.สสจ.บริหารจัดการสถานพยาบาลในจังหวัดทั้งการเตรียมสถานที่ ยา เวชภัณฑ์ในรูปแบบเครือข่าย เพื่อรองรับผู้ติดและมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 12 เขต บริหารจัดการทรัพยากร
สถานพยาบาลทุกแห่งในเขตสุขภาพ ซึ่งในต่างจังหวัดยังบริหารจัดการดูแลได้
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า แต่ละพื้นที่ต้องดูแลเฝ้าระวังคนที่เดินทางเข้าพื้นที่ให้ดี โดยเฉพาะแรงงานที่มีการเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา ให้มีการปฏิบัติมาตรการควบคุมป้องกันโรค ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนด เช่น การติดตามผู้ที่เดินทางเข้าในพื้นที่ การให้มีการกักตัวสำหรับกลุ่มเสี่ยงในLocal Quarantine เป็นต้น โดยเฉพาะคนต่างถิ่น หากกลไกนี้ทำได้ดี ก็จะเหมือนกับปี 2563 ที่เมื่อมีแรงงานกลับบ้าน ก็มีการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคโดยกลไกของจังหวัด อสม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมกันดูแลอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที ซึ่งการควบคุมป้องกันโรคนั้นสธ.ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เพื่อควบคุมไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่ม ส่วนในแง่ของการรักษาซึ่งเป็นหน้าที่หลักสธ.ดำเนินการเต็มที่ ” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การฉีดวัคซีนดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยภายในเดือนมิ.ย.จะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชากรได้ 10 ล้านโดสตามเป้าหมาย ขณะนี้ฉีดไปได้แล้วราว 9.1 ล้านโดส ที่เหลือนั้นมีวัคซีนรองรับอยู่แล้ว ส่วนเดือนก.ค.ก็จะมีวัคซีนเข้ามาอีก ตนได้มอบหมายให้ทุกพื้นที่เร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายคือผู้สูงอายุ และผู้ป้วย 7 กลุ่มโรค ให้หมดภายในส.ค. เชื่อว่าหากฉีดกลุ่มนี้ครบอัตราการเสียชีวิตน่าจะลดลง
ส.ค.ไทยผลิตยาฟาวิพิราเวียร์เอง
ผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมของยาและเวชภัณฑ์ในพื้นที่ต่างจังหวัด นายอนุทิน กล่าวว่า
ยาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอแน่นอน ได้มีการสั่งซื้อเข้ามาใช้อย่างเพียงพอ และล่าสุดได้รับรายงานจากองค์การเภสัชกรรม(อภ.)ว่า ภายในเดือนก.ค. นี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะมีการอนุญาตให้อภ. สามารถผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ได้ ซึ่งเมื่อได้รับการอนุญาตแล้วจะสามารถผลิตได้ภายในเดือน ส.ค.นี้ อัตรากำลังการผลิตในช่วงแรกอยู่ที่เดือนละ 2 ล้านเม็ด ก็จะเป็นส่วนที่นำมาเสริมกับที่สั่งนำเข้ามา เพราะหากใช้ที่ผลิตเองอย่างเดียวอาจจะยังไม่พอ
ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า แนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน (Home Isolation) จะใช้เฉพาะพื้นที่กทม.อยู่ภายใต้การการพิจารณาของบุคลากรการแพทย์ และอยู่ในระบบการตรวจสอบ ติดตามอาการ หากอาการเปลี่ยนแปลงมีระบบส่งต่อไปรักษาตัวยังรพ. หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากประชาชน