รู้จัก ‘MORHELLO’ แพลตฟอร์มการแพทย์ เชื่อมหมอ ผู้ป่วยเข้าถึงบริการ

รู้จัก ‘MORHELLO’ แพลตฟอร์มการแพทย์ เชื่อมหมอ ผู้ป่วยเข้าถึงบริการ

ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 เราได้เห็น 'แพลตฟอร์มการแพทย์' เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อแพทย์และผู้ป่วยเพื่อลดการไป รพ. เช่นเดียวกับ ‘MORHELLO’ ที่มีเป้าหมายในการรวมบริการด้านการแพทย์ และปรับมาช่วยผู้ป่วยสีเขียว เหลือง ช่วงโควิด

ในสถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งให้เกิดการพัฒนานานวัตกรรม และ แพลตฟอร์มทางการแพทย์รวดเร็วมากขึ้น ปัจจุบัน เราจึงเห็นการพัฒนาช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วยรวมถึงข้อมูลความรู้ ระบบการจัดการใหม่ๆ ทั้งในภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการบริการ

‘MORHELLO’ หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ทาง บริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) พัฒนาคิดค้นขึ้น โดยร่วมกับ โรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 ซึ่งเป็น รพ.ที่เน้นการรักษาแบบองค์รวม และได้มีการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้าช่วยดูแลรักษา สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ผู้ป่วย เปิดตัวเป็นเว็บไซต์ https://morhello.com/home เพื่อช่วยดูแลสุขภาพของผู้ป่วย

  • ปรับแพลตฟอร์ม ใช้ช่วงโควิด

โดยตามแผนเดิม แพลตฟอร์มดังกล่าวจะเปิดตัวจริงๆ ในเดือน ต.ค.นี้ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ขณะนี้เรียกว่ารุนแรงมาก มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีปัญหามากมายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะวิกฤตเตียงเต็ม ประชาชนไม่สามารถตรวจโควิด 19 ได้ และมีผู้ป่วยจำนวนมากที่อยากรักษา อยากเข้าถึงหมอแต่ต้องนอนรออยู่ที่บ้าน จนทำให้อาการหนักและเสียชีวิต

162930381195

ทำให้ที่ผ่านมา MORHELLO ถูกนำมาใช้ในสถานการณ์โควิด-19 ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถหาแพทย์ได้โดยตรง ซักประวัติ เช็กอาการ และสามารถจ่ายยาต่างๆ เพื่อช่วยผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปรพ. หรือระหว่างรอเตียง เหมาะอย่างมากกับผู้ป่วยโควิด 19 ในกลุ่มสีเขียว สีเหลือง หรือกลุ่มเสี่ยงที่กังวลไม่แน่ชัดว่าตนเองติดโควิด 19 หรือไม่ จะได้รักษากับแพทย์ รวมถึงจะมีการติดต่อประสานเตียงกับทางรพ.โดยตรง และการให้บริการตรวจโควิด 19

และล่าสุดกับการเดินหน้าตามนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมกัญชาทางการแพทย์ ใช้พื้นที่แพลตฟอร์มในการแนะนำแพทย์ที่ต้องการศึกษาด้านกัญชาทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญ เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ป่วยมากขึ้น

  • แพลตฟอร์มการแพทย์ขั้นสูง

“ศิริญา เทพเจริญ” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม MORHELLO เปิดภายในงาน Morhello แพลตฟอร์มดูแลสุขภาพแห่งอนาคต แบบครบวงจร ผ่านระบบ Zoom ว่า จากวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสุขภาพและการแพทย์ ภายใต้แบรนด์  MORHELLO” ซึ่งตั้งเป้าที่จะเป็นแพลตฟอร์มทางการแพทย์ขั้นสูงแห่งแรก สำหรับแพทย์ที่ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย รักษาด้วยการใช้กัญชาทางการแพทย์แบบครบวงจรหนึ่งเดียวของไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

MORHELLO ได้มองเห็นถึงโอกาสในการเรียนรู้ของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ของไทยเพื่อศึกษาในเรื่องของกัญชากับการรักษาในเชิงลึกเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์การศึกษาวิจัยและการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพและเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและต่อยอดวงการสาธารณสุขของไทย ด้วยความตั้งใจที่จะช่วยให้แพทย์และผู้ป่วยได้เรียนรู้และเข้าใจโลกของการใช้กัญชาในการรักษาทางการแพทย์

162930381179

“แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้แพทย์และผู้เชี่ยวชาญทุกคนได้เรียนรู้ในเรื่องกัญชาทางการแพทย์ ผ่านการจัดอบรมขั้นสูง เพื่อเป็นโอกาสในการเรียนรู้ของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ของไทย เพื่อให้แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะด้านที่สนใจได้เรียนรู้เชิงลึก เพื่อเพิ่มองค์ความรู้และเพื่อเป็นประโยชน์ทางการรักษา มุ่งส่งเสริมมาตรฐานและความรู้ขั้นสูงจากอาจารย์แพทย์อันทรงคุณวุฒิทั่วโลก”

ส่งเสริมการพัฒนา ค้นคว้า วิจัยด้านวิทยาศาตร์กัญชาทางการแพทย์แบบยั่งยืนเพิ่มโอกาสใหม่ในวิทยาศาสตร์การแพทย์ขั้นสูง และเพิ่มโอกาสทางอาชีพในการเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพและการรักษาโรคเฉพาะด้านทั้งยังช่วยสร้างชุมชนผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย

“ส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านการดูแลสุขภาพด้วยกัญชาสำหรับแพทย์มืออาชีพและผู้ป่วยในอนาคต โดยจะมีการจัดอบรมหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อให้เป็นประโยชน์ในการต่อยอดของวงการสาธารณสุขของประเทศไทยขึ้นในเดือนตุลาคมนี้” ศิริญา กล่าว

  • สารสกัดจากพืช เปลี่ยนแนวโน้มการใช้ยา

ด้าน นพ.ดร.วรโชติ กรัณยโสภณ แพทย์ประจำ รพ.พานาซีประเทศจีน และประธานบริหารวิจัยและพัฒนา บริษัทควอลิตี้ พลัส เอสเทติค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  กล่าวว่า แนวโน้มที่สำคัญของการดูแลสุขภาพในอนาคต การสกัดจากพืชสามารถเปลี่ยนแนวโน้มของการใช้ยาทั่วโลก โดยในบรรดาสารแคนนาบินอยด์ทั้งหมด cannabidiol ได้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาโรคทางจิตเวช เนื่องจากไม่มีผลข้างเคียงด้านจิตใจ

นอกจากนี้ ในทางการแพทย์เชิงประยุกต์ได้มีการนำน้ำมัน cannabidiol ในการคลายความวิตกกังวลและลดอาการที่เกิดจากภาวะซึมเศร้า การบรรเทาความเครียด การป้องกันโรคเบาหวาน บรรเทาอาการปวด รักษาอาการเจ็บป่วยจากโรคมะเร็ง บรรเทาการอักเสบ

162930381016

  • ตลาด cannabidiol โตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากการที่มีการใช้สาร CBD ในผลิตภัณฑ์รักษาโรคเพิ่มขึ้น ตลาด cannabidiol ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตในอัตราเร่งตลอดระยะเวลาคาดการณ์ จากรายงานการศึกษาของ Prohibition Partners ได้มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าของยา Sativex และ Epidolex ที่ใช้ในการรักษาโรคปวดเรื้อรังและโรคลมชักซึ่งมีสาร cannabidiol ประกอบ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 227 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 273 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ จาก 940 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 และปี 2567 ตามลำดับ

ซึ่งถือเป็นโอกาสมหาศาลของเกษตรกร ชุมชน และการแพทย์และการสาธารณสุขไทยในอนาคตที่จะได้เรียนรู้โอกาสในการใช้สารสกัดจากกัญชามาใช้ในการรักษา และต่อยอดสู่งานวิจัยแบบเชิงลึก” นพ.ดร.วรโชติ กล่าว

สำหรับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ที่สนใจอบรม เรียนรู้แบบเชิงลึกกัญชากับประโยชน์ทางการแพทย์ สามารถลงทะเบียนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล์ [email protected] 

  • 'กัญชาทางการแพทย์' - ส่งออก โอกาสเกษตรกร

“รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์” ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ตลาดกัญชาในยุโรปมีการใช้ 21% จากประชากร 743 ล้านคน โดยคาดว่าปี 2028 ตลาดกัญชาจะมีมูลค่ารวมกว่า 123 ล้านยูโร และมูลค่าด้านกัญชาการแพทย์เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น กัญชง กัญชา สามารถเติบโตได้

ในส่วนของสหรัฐ เจาะในเรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพ มีการใช้ CBD ในเครื่องดื่ม โดย CBD มีลักษณะคล้ายคาเฟอีนในอดีต ซึ่งแต่เดิมเป็นสารเสพติด แต่ปัจจุบัน เห็นในเครื่องดื่มแทบทุกอย่างในร้านสะดวกซื้อ

ดังนั้น CBD ในอีกหนึ่งปีจะเห็นในแทบทุกผลิตภัณฑ์รวมถึงอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมความงามที่นิยมมากขึ้น รวมถึงในประเทศไทย ขยับเข้ามาในกลุ่มปศุสัตว์ ท้ายที่สุดจะครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกเรื่องในชีวิต ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ 

กฎหมายไทย ห้ามนำเข้าทุกกรณี ดังนั้นเราต้องทำเอง ถือเป็นข้อดี ขณะที่จีน เนื่องจากพลเมืองเยอะกลัวว่าหากสาร THC หลุดออกไปจะทำให้พลเมืองเสพติดสารนี้ จึงมีกฎหมายเข้มงวด โดยอนุญาตให้ใช้ CBD เฉพาะเครื่องสำอาง และส่งออกได้ 

"ขณะที่ตลาดใหญ่ที่น่าจับตามอง คือ ญี่ปุ่น ซึ่งถูกมองว่าเป็นตลาด CBD ใหญ่ที่สุดในโลก ญี่ปุ่นกลัวประชาชนปลูกเพราะมีผลในเรื่องการเสพติด จึงอนุญาตให้นำเข้า CBD ได้ไม่จำกัด จะต้องไม่มี THC เลย ขณะที่ไทย ห้ามนำเข้า และส่งออกได้  คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดที่ญี่ปุ่นราว 2,057.7 ล้านดอลลาร์ ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้น จะเห็นว่า จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกฐาน โดยเฉพาะเกษตรกร ที่จะเข้ามาในห่วงโซ่อาหาร" รศ.ดร.วีรชัย กล่าว