อสม.ฉีดวัคซีนโควิด ครบ100 % กลางต.ค. ตกหล่น 3 แสนคน
ตกหล่น 3 แสนคน อสม.ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 100 % กลางต.ค. ใช้สูตรไขว้วัคซีนซิโนแวค+แอสตร้า ส่วนกลุ่มฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็มเตรียม ฉีดเข็ม3 กระตุ้น
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ก.ย.2564 ในการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์ เพื่อมอบนโยบาย “อสม. พร้อมบอกต่อเรื่อง ATK สำหรับประชาชน” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนโควิดสะสมแล้วกว่า 40 ล้านโดส ในส่วนของอสม.ที่มีอยู่กว่า 1 ล้านคน ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 70% อีก 3 แสนคนจะได้รับวัคซีนกลางเดือนต.ค.ก็จะครบ100%
ดังนั้น ภารกิจในการดูแลคน การสอนการใช้ชุดตรวจ ATK จะปลอดภัย อย่างไรก็ตาม 3 แสนคนที่ยังไม่ได้ฉีด เพราะคิวยาว เนื่องจากมีการฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวและหญิงตั้งครรภ์ด้วย โดย3 แสนคนจะได้รับซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งทให้ภูมิคุ้มกันขึ้นมใกล้เคียงแอสตร้าฯ2เข็มแต่ระยะเวลาน้อยกว่า ส่วนผู้ที่ได้รับซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม สามารถมาบูสเตอร์เข็ม 3 ด้วยแอสตร้าฯ ทุกคนจะมีความปลอดภัย
อสม.ที่ได้รับวัคซีนไปแล้วจะมี 3 ประเภท คือ 1. ฉีดซิโนแวค 2 เข็มแล้ว จะได้รับการกระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ ในเดือนหน้า 2. กลุ่มรับแอสตร้าฯ 2 เข็ม แต่หากใครรับแอสตร้าฯเข็มแรกแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นก็ต้องรอแอสตร้าฯเข็ม 2 และ 3.กลุ่มที่รับซิโนแวคและตามด้วยแอสตร้าฯ โดยหากฉีดวัคซีนให้ อสม.ครบ 1 ล้านคนก็จะสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเองได้ และจากนี้ไปทางกรมควบคุมโรคมีการติดตามว่า หากภูมิคุ้มกันตกลงเมื่อไหร่ ก็ต้องมีการเติมเรื่อยๆ ความยุ่งยากจะไม่มี ทุกวันนี้ยุ่งยาก เพราะเมื่อฉีดเข็มแรกไปแล้ว ต้องรอเข็ม 2 มีการจัดเตรียมความเสี่ยง เผื่อเข็ม 2 มาไม่ทัน ทำให้เกิดความวุ่นวายจัดคิว ต้องขออภัยด้วย เพราะเราต้องการมาตรฐานสูงสุด
สำหรับชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุด จัดหามาแล้วและจะกระจายให้กับประชาชน โดยมีพี่น้องอสม. คอยให้คำแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งนอกจากการสอนวิธีการตรวจแล้ว ในเรื่องการกำจัดชุด ATK ที่ใช้แล้วยังเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากทิ้งไม่ถูกสุขลักษณะย่อมทำให้เชื้อโรคกระจายได้ ไม่ใช่แค่โรคโควิด แต่อาจมีเชื้ออื่นๆ ทั้งหวัด วัณโรค เชื้อทางเดินหายใจ พี่น้อง อสม.ต้องระวัง ต้องทิ้งแยก เพราะถือเป็นขยะติดเชื้อ
“ไม่เคยลืมพระคุณ ของ อสม. กระทรวงสาธารณสุข อยู่รอดทุกวันนี้ เพราะเรามีอสม. แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทุกครั้ง ระบบสาธารณสุขไทยไม่ได้ล้มสลาย เรามีอสม. 1 ล้านคนค้ำยันอยู่ และยังมีแพทย์ มีองค์ความรู้มีประสบการณ์ทั้งหลายมาประกอบเป็นขา 4 ขา อสม.คือ ขาหนึ่ง องค์ความรู้ทางการแพทย์ แพทย์พยาบาล งบประมาณที่มีอยู่ประกอบเป็น 4 ขา ทำให้ระบบสาธารณสุขมีความแข็งแกร่ง รับรองไม่มีการล่มสลายได้ตามคำปรามาสของใครเป็นอันขาด และช่วงนี้จะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนเต็มที่ และมีการสั่งวัคซีนถึงปีหน้าแล้ว เป็นเข็มเติมภูมิต้านทาน เมื่อถึงระยะหนึ่งจะอยู่กับโควิด และเปิดประเทศได้ เพียงแต่ต้องป้องกันตัวเองให้มากขึ้น”นายอนุทินกล่าว
ด้านนพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ อสม. ที่ผ่านมาได้แนะนำกลุ่มประชาชนเป้าหมายให้ลงทะเบียนการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นจำนวน 4,800,059 คน โดยได้มีการติดตามกลุ่มเป้าหมาย 608 คือ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี โรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ที่ฉีดวัคซีนโควิด และแยกกักรักษาตัวผู้ป่วยที่บ้านและในชุมชน มีจำนวน 3,538,733 คน ได้รับวัคซีนแล้วจำนวน 1,165,750 คน หรือคิดเป็น 33% นอกจากนี้ อสม.ยังเฝ้าระวังแรงงานกลับบ้าน โดยเฝ้าระวังคัดกรองกลุ่มเสี่ยง 306,321 คน ติดตามกลุ่มเสี่ยงครบ 14 วัน 259,158 คน มีอาการสำคัญและส่งต่อเจ้าหน้าที่ 16,207 คน