"เอ็กโก กรุ๊ป" เดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตั้งเป้า "Net Zero" ในปี 2050
"เอ็กโก กรุ๊ป" ประกาศเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ด้วย กลยุทธ์ “4I” สู่การเติบโตที่ยั่งยืน
การหยุดยั้งวิกฤตโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 (COP 26) ณ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 12พฤศจิกายนนี้ ถือเป็นความพยายามครั้งสำคัญของนานาชาติในการแก้ไขปัญหา ด้วยการบรรลุข้อตกลงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เหลือศูนย์
ในโอกาสที่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ครบรอบ 30 ปี ในปี 2022ได้ประกาศเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำไปพร้อมกับประชาคมโลกเช่นกัน โดย "เทพรัตน์ เทพพิทักษ์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า ธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานมีส่วนสำคัญในการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของ ภาวะโลกร้อน และ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทางในการทำธุรกิจจึงจำเป็น
ไม่ว่าจะเป็นการกระจายเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้สมดุลเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงาน การเพิ่มการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่องทุกปี และการก่อตั้งมูลนิธิไทยรักษ์ป่าเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำสำคัญของประเทศมานานกว่า 20 ปี จึงเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด
การออกแบบโรงไฟฟ้าให้มีอุปกรณ์กำจัดฝุ่น หรือ Electrostatic precipitator ที่สามารถกำจัดฝุ่นที่ออกจากปากปล่องโรงไฟฟ้าได้มากถึง 99.99% ต่อมาเมื่อมีความกังวลเรื่องก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก็มีระบบ Flue Gas Desulfurization (FGD) ซึ่งกระบวนการควบคุมมลพิษมีคุณภาพสูงกว่าที่ใช้ในระดับสากล
จนถึงปัจจุบันเรื่องเหล่านี้ได้กลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ต้องควบคุมให้ได้ในการจะก่อสร้างโรงไฟฟ้า และปัจจุบัน ประชาคมโลกได้หันมาโฟกัสเรื่องการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แทน ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะคือกระบวนการเผาผลาญเชื้อเพลิง (Combustion) เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า
"ทิศทางพลังงานโลกในปัจจุบันและแผนพลังงานแห่งชาติของประเทศไทย ที่มุ่งสู่พลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2065-2070 นั้น เอ็กโก กรุ๊ป ได้กำหนดเป้าหมายใหม่ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 และตั้งเป้าหมายระยะกลางโดยมุ่งลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Carbon Emission Intensity) ลง 10% ในปี 2030 เป็นการดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” เทพรัตน์กล่าว
- กลยุทธ์ “4I” สู่เติบโตยั่งยืน
การขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ให้ดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน คือ “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” โดย Cleaner ก็คือการลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
ในขณะที่ Smarter เป็นการสร้างความมั่นคงในระบบไฟฟ้าและการลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง (New S-Curve) เพื่อให้ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Digital Disruption) และสุดท้าย Stronger การสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นด้วยการหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
ดำเนินการภายใต้ แผนกลยุทธ์ “4I” ซึ่งครอบคลุมการดำเนินงานอย่าง รอบด้าน ประกอบด้วย
Invest ลงทุนในสินทรัพย์ที่เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว มุ่งเน้นธุรกิจรูปแบบใหม่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน แอลเอ็นจี และ New S-Curve เป็นต้น
Increase เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการเงิน
Improve ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้มีความเป็นเลิศในระดับสากล
Innovate ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและสร้างกระบวนการทำงานอย่างยั่งยืน ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
การลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอยู่ในกลยุทธ์ของ เอ็กโก กรุ๊ป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ปัจจุบัน มีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนในพอร์ตโฟลิโอสูงถึง 1,364 เมกะวัตต์ ทั้งจากชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ และเซลล์เชื้อเพลิง
- ลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียนสหรัฐ
การลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในบริษัท เอเพ็กซ์ คลีน เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง 17.46% ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนา การขาย และการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์โครงการพลังงานสะอาดในสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนเอกชนขนาดใหญ่ ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ใน รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ดำเนินธุรกิจด้วยการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงเริ่มดำเนินการก่อสร้าง (Notice to Proceed - NTP) หรือเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date - COD) แล้วขายโครงการที่พัฒนาเหล่านั้นให้แก่นักลงทุนอื่น
นับเป็นการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐอเมริกาครั้งแรกของ เอ็กโก กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดพลังงานหมุนเวียนที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้งจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์มากที่สุดในโลก และมีโอกาสในการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอีกมาก ที่คาดว่าจะเข้าสู่ตลาดจำนวนกว่าแสนเมกะวัตต์ในอีก 10 ปีข้างหน้า
“การลงทุนครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะสนับสนุนแผนการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเอ็กโก กรุ๊ป ในอนาคต ในขณะเดียวกันยังเป็นไปตามทิศทางการดำเนินธุรกิจ “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 ด้วย” เทพรัตน์ กล่าว