56 ประเทศโลกพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน ไทยพบเพิ่มอีก 2 ราย

วันนี้ (8 ธ.ค.2564)พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน มีดังนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,618 ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากในประเทศ 3,562 ราย ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 16 รายและผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 40 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ (ระลอกเดือนเม.ย.) 2,123,521 ราย

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 38  คน ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมถึง 20,941 คน ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 21,005 คน  ผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ 64,200 ราย กลุ่มคนไข้อาการหนักที่มีอาการปอดอักเสบที่น่าวิตก 1,217 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจอีก 321  ราย ยอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 5,775 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 2,039,723 ราย

ส่วนรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ 38  ราย พบว่า เป็นเพศชาย 18 ราย หญิง 20 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวไทย 34 ราย เมียนมา 3 ราย และลาว 1 ราย โดยส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 27 ราย คิดเป็น 71% และ กลุ่มโรคเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 13 % ทั้งสองกลุ่มคิดเป็นสัดส่วน 84 %

 

 

• 56 ประเทศพบเชื้อโอมิครอน ไทยพบเพิ่ม2ราย

ขณะนี้มีการรายงานผู้ติดเชื้อโอมิครอน ทั่วโลกแล้ว 56 ประเทศ ซึ่งยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยในส่วนของผู้ติดเชื้อ โอมิครอนในไทยนั้น ขณะนี้มีทั้งหมด 3 ราย ซึ่งรายแรกเป็นชายอายุ 35 ปี สัญชาติอเมริกัน  อาศัยอยู่ที่สเปนเป็นเวลา 1 ปี อาชีพนักธุรกิจ ไม่มีโรคประจำตัว เดินทางคนเดียว (ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ) ได้เดินทางเข้าถึงไทยวันที่ 1 ธ.ค.2564 ซึ่งมีผู้สัมผัสทั้งหมด 17 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม  

ในวันนี้ (8ธ.ค.2564) มีรายงานเพิ่มขึ้นมา 2 ราย คือ รายที่2  หญิงไทยอายุ 46 ปี อาชีพล่าม ประจำคริสตจักรแห่งหนึ่ง ยังไม่เคยได้รับวัคซีน  และรายที่ 3 เป็นหญิงไทยอายุ 36ปี อาชีพล่าม ประจำคริสตจักรแห่งหนึ่ง ยังไม่เคยได้รับวัคซีน ช่วงเดือนก.ค.เคยเป็นโควิด-19 รักษาที่รพ.บุษราคัม  ทั้ง 2 ราย ได้เข้าร่วมการประชุมตัวแทนคริสตจักร (13-23พ.ย.2564) ที่เมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่า ระหว่างทำกิจกรรมทั้ง 2 ราย ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย

 

 

• ย้ำประชาชนคุมเข้มมาตรการป้องกันโรค

“จากสถานการณ์ที่มีเชื้อโอมิครอนขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านคุมเข้มมาตรการส่วนบุคคล สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพราะเชื้อโรคไม่สามารถทะลุหน้ากากอนามัยออกมาภายนอกได้ รวมถึงขอให้ทุกคนเว้นระยะห่าง ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ในไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตน้อยลง ถ้าทุกคนดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคก็จะทำให้เกิดการผ่อนคลายมากขึ้น”พญ.สุมนี กล่าว

ทั้งนี้ ส่วนข้อมูลผู้เดินทางจากทวีปแอฟริกาของท่าอากาศ ตั้งแต่วันที่ 15-27 พ.ย. และ 15 พ.ย.-5ธ.ค. 2564 ใน กลุ่ม 8 ประเทศ Botswana Eswatini Lesotho Malawi Mozambique Namibia South Africa Zimbabwe พบว่า มีทั้งหมด 333 คน ออกจากประเทศ 55 คน ครบ 14 วัน 113 คน อยู่ระหว่างการกักดตัวและติดตามมากได้ 152 คน ส่วนที่ติดตามไม่ได้อีก 13 คน  โดยคนที่ติดตามมากได้ 152 คน ผลการตรวจเป็นลบทั้งหมด ฉะนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจระบบสาธารณสุข ทั้งเรื่องมาตรการป้องกันการคัดกรอง ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ระบบในประเทศมีประสิทธิภาพ วินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็ว