สธ.ขอคนไทยชะลอไปต่างประเทศ-ปรับเข้าประเทศเป็น "กักตัว"
สธ.เผยTest&GO พบติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่า ชงชะลอกลับมาใช้กักตัว 7-10 วัน ขอคนไทยชะลอเดินทางไปต่างประเทศ ย้ำ 5 ข้อปฏิบัติสำคัญช่วงปีใหม่ สะกัดโควิดระบาด-ชะลอโอมิครอน
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19และสายพันธุ์โอมิครอน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ประเทศไทยคนที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศในช่วงวันที่ 1-19 ธ.ค.2564 จำนวน 146,781 คน ติดเชื้อ 348 ราย คิดเป็น 0.22 % แยกเป็น Test&Go 204 ราย จาก 126,649 คน คิดเป็น 0.15 % แซนด์บ็อกซ์ 49 ราย จาก 16,511 คน คิดเป็น 0.27 % และกักตัว 95 ราย จาก 3,621 คน คิดเป็น 2.49 % ซึ่งในส่วนของผู้ที่เดินทางเข้าระบบ Test&Go ช่วง 19 วันเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นจาก เดือนพ.ย. 2 เท่า จากที่พบผู้ติดเชื้อคิดเป็น 0.08 % เป็น 0.15 % โดยขณะนี้ระบบ Test&Go เข้ามาประมาณ วันละ 1 หมื่นคน ส่วนระบบแซนด์บ็อกซ์เข้ามาประมาณ 1 พันคนต่อวัน
“กระทรวงจึงทำข้อเสนอต่อศบค.พิจารณาชะลอการเข้าประเทศในระบบ Test & Go ของผู้เดินทางมาจากทุกประเทศ และใช้มาตรการกักตัว AQ หรือแซนด์บ็อกซ์นาน 7-10 วัน ทั้งนี้เพื่อให้คนไทยฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข” นพ.จักรรัฐ กล่าว
นพ.จักรรัฐ กล่าวอีกว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อลดการระบาดของโรค และชะลอการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย ขอความร่วมมือทุกคน และทุกภาคส่วนร่วมด้วยช่วยกันป้องกัน ดูแลตนเอง โดย 1.ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ ให้ไปฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยด่วน รวมทั้งฉีดบูสเตอร์โดส ตามเกณฑ์ 2.คนไทยที่มีแผนเดินทางไปต่างประเทศ ช่วงนี้ขอให้ชะลอการเดินทางไปต่างประเทศ หากจำเป็นต้องเดินทางให้ป้องกันตนเองขณะเดินทาง และขณะพำนักในต่างประเทศอย่างเคร่งครัด เน้นปฏิบัติตามมาตรการ UP : Universal Prevention 3.คนไทยเดินทางมาจากต่างประเทศ และกักตัวที่บ้าน ให้รีบไปรพ.ตรวจหาโควิด-19อีกครั้ง และกักตัวจนครบ 14 วัน
4.สถานประกอบการ หน่วยงานที่จะจัดงานรื่นเริงช่วงปีใหม่ ให้ดำเนินการตามแนวทาง COVID -Free Setting และตรวจหาเชื้ออีกครั้งด้วยATK ก่อนกลับมาทำงานหลังปีใหม่ รวมทั้ง เฝ้าระวัง พนักงานทุกคนที่เดินทางไปต่างจังหวัดด้วย และ5.แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ หากพบสถานบริการ สถานประกอบการ ร้านอาหารที่ให้ดื่มสุราภายในร้ายไม่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID -Free Setting นอกจากนี้ รมว.สาธารณสุขสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้บริการประชาชน รับการตรวจโควิด-19ด้วยATK รวมทั้งให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19ที่รพ.ทุกแห่งทั่วประเทศ และเพิ่มจุดให้บริการ ณ สถานีขนส่งในจังหวัดที่มีผู้เดินทางจำนวนมากด้วย เช่น นครราชสีมา และเชียงใหม่ เป็นต้น