ไทยพบ"โอมิครอน"สะสม 104 ราย เพิ่มขึ้น 41 รายใน 2 วัน
“อนุทิน”เผยไทยพบโอมิครอนสะสม 104 ราย เร่งติดตามผู้สัมผัส “ครอบครัวกาฬสินธุ์” หลังกลับไม่เจอเชื้อ ต่อมาพบเป็นโอมิครอน ลั่นไทยไม่ได้ปิดประเทศ รอประเมินสถานการณ์ 4 ม.ค.65 หากผ่านด้วยดี พร้อมผ่อนคลายให้เร็วที่สุด ส่วนคนไทยกลับเข้าประเทศใช้รูปแบบเดียวกับต่างชาติ
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2564 ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ว่า ขณะนี้จากการตรวจเบื้องต้นพบผู้ติดโอมิครอนสะสม 104 ราย และกำลังติดตามผู้สัมผัสกรณีครอบครัวหนึ่งที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ผลการตรวจไม่พบเชื้อ แต่มาพบการติดเชื้อภายหลังเป็นสายพันธุ์โอมิครอน มีประวัติเดินทางไปหาลูกเขยที่ จ.อุดรธานี แต่ไม่น่าจะเป็นกรณีใหญ่ เนื่องจากรับทราบเส้นทางในการติดตามผู้สัมผัสชัดเจน
ขณะนี้ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า สายพันธุ์โอมิครอยเมื่อเทียบกับเดลตา อัลฟา อาการไม่ได้รุนแรงมากกว่ากัน เพียงแต่อาจติดเชื้อเร็ว แต่เรื่องนี้ก็ต้องเทียบบริบทระหว่างไทยและยุโรปด้วย กรณีไทยเข้มมาตรการ DMHTT กว่า 90% ยุโรปใช้ชีวิตเหมือนไทยหรือไม่ ขณะที่การเข้าออกประเทศยุโรปเป็นประชาคม แต่ของไทยจะข้ามไปเมียนมา ลาว ก็ยังลำบาก การเทียบริทที่ต่างกันก็จะเอามาเป็นความวิตกกังวลมากไม่ได้ ตราบใดที่โอมิครอนยังไม่ได้พิสูจน์ทางการแพทย์ว่า ฤทธิ์ของมันทำให้รุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น ไทยก็เฝ้าระวังเหมือนโควิด ไม่ต้องกังวลว่าเป็นสายพันธุ์อะไร ให้รีบไปรับเข็ม 3 ซึ่งได้สั่งการกรมควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) รพ. เร่งกระจายวัคซีนไปให้มากที่สุด
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับยามีเพียงพอ ในส่วนฟาร์วิพิราเวียร์ผลิตได้เองในประเทศ วัคซีนก็เพียงพอ และใช้มาตรการควบคุมป้องกันโรค โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เนื่องจากไม่ได้ปิดอะไร ก็ขอความร่วมมือใช้ COVID Free Setting อย่างเข้มงวด ไม่ใช่แบบบางจังหวัดที่จัดงานขายบัตร 2 พันใบวางแผนให้นั่งห่างๆ แต่พอจัดจริงบอกกันคนไม่อยู่ ควบคุมไม่ได้ ถ้าควบคุมไม่ได้ถือว่าบกพร่อง มีความผิดต่อกฎหมายด้วย ผู้อนุญาตให้จัดก็ต้องรับผิดชอบระเบียบต่างๆ ด้วย ถ้าทุกคนใช้ COVID Free Setting ผู้ประกอบการต้องเข้มตรวจ ATK ตรวจการฉีดวัคซีนของหมอพร้อม ผู้ไปรับบริการให้ความร่วมมือ โอกาสติดก็จะลดความเสี่ยงลงมา
"ที่ผ่านมาการใช้ระบบดูแลผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงที่บ้านและชุมชน หรือ HI CI ได้ผลมากเตรียมเรื่องนี้อยู่ ตอนนั้นที่วุ่นวายหนักเพราะต้องการดูแลผู้ป่วยทั้งหมด คนป่วยนิดหน่อยก็ไป รพ.สนาม แต่ตอนนี้ใช้ระบบ HI CI ส่วนอาการปานกลางเข้า รพ.สนาม ฮอสปิเมล ดังนั้น รพ.น่าจะมีเตียงเพียงพอดูแลอาการหนัก และหวังว่าเมื่อรับวัคซีนแล้ว ก็จะลดจำนวนการป่วยหนัก ขอว่าอย่าเพิ่งกังวลอะไรที่เกินไป ถ้าระวังตัวตลอดเวลา ก็ลดอัตราเสี่ยงติดเชื้อได้เยอะ" นายอนุทินกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีคนเข้าประเทศอีก 9 หมื่นคนจะควบคุมดูแลอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้เข้าช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง และทำ RT-PCR ตอนนี้ 9 หมื่นคนที่จะเข้ามา ถ้าไปเปลี่ยนกลางคันเขาก็ลำบาก ยังค้างท่ออยู่ก็ต้องดำเนินการในจำนวนนี้ก่อน แต่เพิ่มมาตรการเข้าไป กรณี Test&Go ก่อนนี้ ตรวจRT-PCRวันเดียว รายงานตัวด้วยผล ATK แต่จากนี้ต้อง PCR วันที่ 7 อีกรอบ เป็นการปิดหัวปิดท้าย ทำให้ติดตามตัวเขามากขึ้น เชื่อว่าทุกคนให้ความร่วมมือ เพราะมีการโหลดแอปปลิเคชั่นในการติดตามตัวด้วย
“ย้ำว่าไม่ได้ปิดประเทศ เราเพิ่มมาตรการในการลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัย พอบอกว่าปิดประเทศคนก็ตื่นตระหนก ซึ่งเราไม่ได้พูดแบบนี้” นายอนุทินกล่าว
ถามถึงระบบรับนักท่องเที่ยวที่ดำเนินการต่อจากนี้ นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้มี 2 ทางเลือก คือ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และกักตัวเท่านั้น ถ้าจะไม่อยู่ 14 วัน ก็ไปเข้าแซนด์บ็อกซ์ภูเก็ต ไม่ได้จำกัดหรือเปลี่ยนแปลงมาก แต่คนยังไม่ได้จอง ก็รอดูประเมินวันที่ 4 ม.ค. 2565 ถ้าผ่านไปด้วยดีก็จะเร่งผ่อนคลายให้ ต้องเข้าใจก่อน รัฐบาล ศบค.เรารู้ความเดือดร้อน คนลงทุนจัดเตรียมงายรับปีใหม่เยอะ ถ้ามีสถานการณ์ก็ใช้มาตรการเข้มขึ้น เราทำโดยเร็ว ถ้าเข้าสู่ปลอดภัยก็รีบผ่อนคลายทันที เราติดตามทุกวัน
“คนไทยที่ลงทะเบียนกลับเข้ามาผ่านThailand Pass จนถึงเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2564 และมีกำหนดกลับเข้ามาหลังจากประกาศชะลอ Test&Go ก็สามารถกลับเข้ามาได้ โดยใช้ระบบเดิม แต่ลงทะเบียน Test&Go หลังจากนี้ไม่ได้ จะต้องใช้รูปแบบกักตัวหรือเข้าแซนด์บ็อกซ์ภูเก็ค ต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เพื่อคนในประเทศจะได้ไม่ถูกจำกัดอะไรมากกว่านี้ การลดความเสี่ยงนำเชื้อเข้าประเทศก็ลดมาระดับหนึ่ง”นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนปีใหม่ขอให้เข้มป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา COVID Free Setting ใส่หน้ากาก ฉลองในวงเล็ก อย่าเป็นวงใหญ่ ไม่ใช้ภาชนะร่วมกัน โดยเฉพาะกระติกน้ำแข็ง อันตรายที่สุด อย่ากอนแก้วเดียวกัน ช้อนเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ควรมีช้อนกลาง ตัวคีบ อย่าเอามือไปล้วงตักน้ำแข็งหรือแชร์แก้วกัน
ผู้สื่อข่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) รายงานพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสมล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2564 จำนวน 63 ราย และวันนี้(22 ธ.ค.) รายงานสะสม 104 ราย เท่ากับมีการตรวจพบเพิ่มขึ้น 41 รายใน 2 วัน