10 เขตกทม.ติดโควิด19สูงสุด เสียชีวิตส่วนใหญ่รับวัคซีนไม่ครบ-ไม่ได้รับ
กทม.ติดโควิด19เพิ่ม เผย 10 เขตพบสูงสุด แนวโน้มสูงต่อเนื่อง ส่วนใหญ่กลุ่มวัยรุ่นวัยทำงาน-นักเรียนม.ปลาย ไม่มีอาการ ความรุนแรง-เสียชีวิตลดลง ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ-มีโรคประจำตัว มีประวัติรับวัคซีนไม่ครบ-ไม่ได้รับ
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการแถลงสถานการณ์โควิด19 นพ.สุทัศน์ โชตนะพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด19 พื้นที่ กทม. ในระลอกใหม่ 10 เขตที่พบการติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ ราชเทวี 1,463 ราย จอมทอง 1,340 ราย บางกอกน้อย 1,267 ราย สายไหม 1,122 ราย ประเวศ 1,058 ราย จตุจักร 1,047 ราย ห้วยขวาง 986 ราย บางแค 969 ราย หลักสี่ 908 ราย และบางเขน 894 ราย ซึ่งการติดเชื้อมีการกระจายแต่ละเขตแตกต่างกันไม่มาก โดยเป็นเชื้อโอมิครอน กระจายทุกกลุ่มอายุ เริ่มพบมากในกลุ่มวัยรุ่นวัยทำงาน และนักเรียนชั้นม.ปลายปะปนขึ้นมา
“ปัจจัยเสี่ยงคือสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน และเข้าไปพื้นที่แออัด ใช้บริการสถานที่อากาศปิด เช่น ร้านอาหารที่ปรับมาจากผับบาร์ เป็นต้น แต่พบการกระจายในครอบครัวง่ายขึ้น จากเดิมที่มักติดคนเดียว แต่พบการติดเกือบทุกคนในครอบครัว เพราะเชื้อแพร่ง่าย และส่วนหนึ่งอาจมีการหย่อนมาตรการในครอบครัว จึงต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเอง”นพ.สุทัศน์กล่าว
นพ.สุทัศน์ กล่าวอีกว่า การเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิดในระลอกใหม่ เป็นหญิงและชายพอๆ กัน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว มีประวัติรับวัคซีนไม่ครบหรือไม่ได้รับ อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตลดลง และการเสียชีวิตค่อนข้างน้อยแสดงว่าตัวโรคไม่รุนแรง อีกทั้ง ผู้ที่มีอาการป่วยตรวจ ATK ผลเป็นบวก ดูแลพักที่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นอาการสีเขียว มีสีเหลืองส่วนน้อย จนถึงตอนนี้ยังไม่ค่อยพบสีแดง แสดงว่าอาการไม่รุนแรง
สรุปสถานการณ์การติดเชื้อในกทม.แนวโน้มสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงขึ้น พบประมาณ 1,800-2,000 รายต่อวัน ลักษณะของโรคยังไม่แสดงลักษณะอาการรุนแรง ปัจจัยเสี่ยงกระจายตัวทุกกลุ่มอายุ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือติดจากการพบผู้ป่วยยืนยัน ปฏิบัติงานพื้นที่เสี่ยง แหล่งชุมชน รวมตัวทำกิจกรรม การรวมกลุ่มสังสรรค์ในร้านอาหารกึ่งผับบาร์ การเสียชีวิตลดลงจาก 5-10 รายต่อวันเหลือ 1-2 รายต่อวัน เน้นย้ำมาตรการป้องกันตนเองโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง คัดกรอง ATK ก่อนปฏิบัติงาน และปฏิบัติตนเองเรื่อง COVID Free Setting
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มก กทม.จะสูงขึ้นอีกแค่ไหน นพ.สุทัศน์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในแนวโน้มสูงขึ้น แต่จะสูงขึ้นกว่านี้ไม่มาก และน่าจะทรงตัว ซึ่งการติดเชื้อในกทม.ที่สูงขึ้นก็เป็นไปตามคาดการณ์ และสอดคล้องกับสถานการณ์ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยใน กทม.ที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งยังมาจากปริมณฑลที่บริษัทต่างๆ ส่งพนักงานที่ติดเชื้อเข้ามารักษาด้วย และยังต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อจากผู้ที่กลับเข้ามาทำงาน สำหรับคลัสเตอร์ต่างๆ ใน กทม. ยังเป็นแหล่งชุมชน ตลาด ส่วนแคมป์คนงานพบน้อยลง