ฝ้ากันเสียง-ดูดซับเสียง "ประหยัดพลังงาน" เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
มลพิษทางเสียง เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนมองข้าม การสร้างอาคาร ที่อยู่อาศัยโดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฝ้ากันเสียง และดูดซับเสียง ที่ "เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างสิ่งแวดล้อมยั่งยืน
ปัจจุบันทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับการสร้างสิ่งแวดล้อมยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งมลภาวะทางอากาศ ทางกลิ่น รวมถึง "มลพิษทางเสียง" ที่หลายคนอาจจะมองข้าม แผ่นฝ้ากันเสียงและดูดซับเสียง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนำมาใช้ลดเสียงรบกวนเพื่อช่วยลดความรำคาญ และหากทำมาจากวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือว่าได้ประโยชน์ถึงสองทาง
ผลวิจัยของ Lessman ระบุว่า เสียงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อมนุษย์ ผู้คนมีความพึงพอใจในสภาพแวดล้อมในการทำงานเพียง 33.4% นั่นเท่ากับว่าอีก 66.6% ไม่พึงพอใจกับสภาพแวดล้อมของเสียงในที่ทำงาน และยังพบว่าในกลุ่มงานที่ซับซ้อน หากทำงานในสภาพเสียงไม่ดี มีความดังส่งผลให้สมาธิในการทำงานลดลงถึง 50%
นอกจากนี้ การวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า เสียงรบกวนต่างๆ ในที่ทำงานส่งผลให้คนทำงานมีสมาธิหรือโฟกัสกับงานได้น้อยลง และยังส่งผลต่อให้เกิดการลาป่วยมากขึ้น ชี้ให้ชัดเจนว่า "เสียงรบกวน" (Noise) เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความรู้สึกรำคาญและสาเหตุที่ทำให้สุขภาพแย่ลง ซึ่งต้องใช้เวลา 60% ในการมีสมาธิจดจ่อ การถูกรบกวนจากเสียงนั้นจะทำให้ต้องใช้เวลาถึง 25นาที จึงจะสามารถกลับมามีสมาธิอีกครั้ง และต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 8 นาที จึงจะกลับมามีสมาธิเท่าเดิม และยังส่งผลทางอ้อมให้พนักงานมีความคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนที่ทำงานได้อีกด้วย
“กฤษดา สาธุกิจชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและที่ปรึกษาด้านอะคูสติก บริษัท แทรนดาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Trandar) นวัตกรรมอะคูสติก เพื่องานก่อสร้างและตกแต่งภายใน เผยว่า ผลการวิจัยดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า หากการออกแบบตกแต่งอาคารสำนักงาน และที่พักอาศัย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของเสียงที่ดีจะช่วยเพิ่มจุดขายให้กับโครงการ ปัจจุบันทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับการสร้างสิ่งแวดล้อมยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งมลภาวะทางอากาศ ทางกลิ่น และทางเสียง จากเกิดข้อตกลงเพื่อการลดการปล่อยคาร์บอนในหลายประเทศเพื่อเป้าหมายของการเป็น คาร์บอนเป็นศูนย์ หรือ Net Zero
แต่อีกหนึ่ง ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ที่ทั่วโลกต้องเผชิญตลอด 24 ชั่วโมง นั่นคือ ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียง ปัญหานี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายๆ ฝ่ายได้มองข้าม หากปล่อยไว้ในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องอยู่อาศัยในแหล่งที่มีเสียงดังตลอดเวลา เช่น ผู้ที่พักอาศัยใกล้กับถนน สนามบิน ใกล้แม่น้ำลำคลองที่มีเรือสัญจรตลอดทั้งวัน โรงงานอุตสาหกรรม เสียงในอาคารสำนักงาน หรือแม้แต่เสียงดังที่เกิดจากผู้คนภายในบ้าน
ทั้งนี้ กว่า 20 ปี ที่ แทรนดาร์ ได้จับมือกับ บริษัท อีโคโฟน แซงโกแบ็ง จำกัด จากสวีเดน พัฒนาผลิตภัณฑ์อะคูสติกดูดซับเสียง (Sound absorption) คุณภาพสูง “อีโคโฟน โฟกัส เอฟ” (Ecophon Focus F) แผ่นฝ้าอะคูสติกที่ผลิตจากเส้นใยอะคูเทคคุณภาพสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน มีค่าการดูดซับเสียงสูงซึ่งคุณสมบัติข้อนี้สำคัญมากต่อการลดเสียงก้องเสียงสะท้อนภายในห้อง ลดผลกระทบของเสียงที่ก่อให้เกิดความรำคาญกับมนุษย์ (Sound effect on People) ช่วยทำให้อยู่ในสภาพแวดล้อมเสียงที่เหมาะสม ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกได้กำหนด
นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติการกระจายแสงและสะท้อนแสงได้ดีช่วยประหยัดพลังงานทำให้ทั้งห้องมีความสว่างทั่วถึงกัน รวมไปถึงตัวแผ่นยังได้รับการรับรองจากองค์กร Asthma and Allergy ของประเทศสวีเดนว่าไม่มีสารที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ อีกหนึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นของ อีโคโฟน โฟกัส เอฟ คือ ได้รับการรับรองมาตรฐานไม่ลามไฟ ตามมาตรฐาน EN จากยุโรป เพื่อตอกย้ำการเป็นแผ่นฝ้าอะคูสติกคุณภาพสูง และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
กฤษดา อธิบายว่า "เส้นใยอะคูเทค” เป็นเทคโนโลยี Glass Wool ซึ่งทำมาจากขวดแก้ว และมีส่วนผสมจากธรรมชาติมาผสม เทคโนโลยีของ อีโคโฟน เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะที่ผ่านการค้นคว้าวิจัย จะแตกต่างจาก Glass Wool ที่อยู่ในปัจจุบัน แตกต่างจากเจ้าอื่นๆ ที่ใช้ใยหิน หรือวัตถุดิบอื่นๆ ไม่ใช่ Architect Technology
“ทั้งนี้ “อีโคโฟน โฟกัส เอฟ” มีค่าการดูดซับความร้อน หากติดตั้งฝ้าอิโคโฟน จะช่วยในเรื่องของการประหยัดแอร์ ช่วยลดพลังงาน ทำให้ห้องไม่ร้อน และหากเปิดแอร์ก็สามารถเก็บความเย็นไว้ได้ เป็นเรื่องของ Saving Energy กันความร้อน และช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงช่วยเรื่องภูมิแพ้และทางเดินหายใจ เพราะแบคทีเรียไม่ก่อตัวอีกด้วย”
หลังจากเปิดตัวในหลายประเทศอีโคโฟน โฟกัส เอฟ (Ecophon Focus F) ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการตกแต่งภายในและวงการสถาปัตยกรรมทั้งในไทย และต่างประเทศ ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หอประชุมเอนกประสงค์ อาคารสำนักงาน โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ห้องซ้อมดนตรีและสตูดิโอ หรือแม้กระทั่งการใช้กับห้องในบ้าน
ปัจจุบัน แผ่นฝ้ากันเสียงและดูดซับเสียง อีโคโฟน โฟกัส เอฟ ถูกติดตั้งในหลายอาคาร เช่น หอประชุมมหาวิทยาลัยขอนแก่น , หอศิลป์แห่งชาติ , หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ , โรงเรียนนานาชาติเวลลิงตัน , AUA ราชดำริ , หอประชุม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ Ascott Thonglor Bangkok เป็นต้น
เทรนด์ที่อยู่อาศัยยั่งยืน
สำหรับทิศทางการเติบโตของการก่อสร้างอาคารของไทยนั้น มองว่ายังเติบโตต่อเนื่องแต่ในส่วนของอาคารสำนักงาน จะเป็นการเติบโตที่เป็นไปตามเทรนด์ของการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านการประหยัดพลังงาน การให้ความสำคัญกับมลภาวะทางอากาศ รวมถึงทางเสียง
ทั้งนี้ ในปีช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์อะคูสติก เติบโตขึ้นเฉลี่ย 10% และในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตขึ้น 20% เนื่องจากปัจจุบัน โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมา มีการทำงานที่บ้านมากขึ้น จากเดิมตลาดจะอยู่ที่อาคารสำนักงาน มีการขยายไปยังกลุ่มบ้าน พฤติกรรมของการทำงานเริ่มเปลี่ยน โดยคาดว่ากว่า 30% เริ่มไปทำงานที่บ้าน สอดคล้องกับตลาดเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะทำงาน เติบโตในกลุ่มใช้ในบ้านมากขึ้น ขณะเดียวกัน เด็กๆ ก็เรียนที่บ้าน และหลายบ้านเริ่มมีห้องซ้อมดนตรี
มูลค่ารวมตลาดผลิตภัณฑ์อะคูสติกคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท แม้ปีนี้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 แต่ยอดขายผลิตภัณฑ์อะคูสติกสะท้อนให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังดำเนินต่อไป การก่อสร้างอาคารสำนักงานยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา ปี 2564 แทรนดาร์ ได้รับงานปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางเสียงจากทางโรงเรียนนานาชาติ อาคารสำนักงาน และโรงแรมชั้นหลายแห่ง ที่ต้องการปรับปรุงสถานที่ เตรียมพร้อมบริการอีกครั้งหลังจากสถาณการณ์โควิดคลี่คลาย