เทพแห่งเสียงมาจุติ “HUAWEI FreeBuds Pro 2” หูฟังไร้สายเรือธงราคาไม่ถึง 7,000
การพัฒนาและร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ระหว่าง “HUAWEI” กับ “DEVIALET” ได้ผลผลิตเป็น “หูฟังไร้สาย” เสียงดีมีคาแรกเตอร์ กระทั่ง “HUAWEI FreeBuds Pro 2” พุ่งทะยานขึ้นมาเป็นที่จับตามองในราคาที่หลายคนตัดสินใจไม่ยากเมื่อเทียบกับคุณภาพเสียงและฟีเจอร์เทพๆ
ในโลกของเสียงดนตรี หูฟังไร้สาย คือ Gadget หนึ่งสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกในการพกพา ความคล่องตัวในการใช้งาน แต่ส่วนมากจะแลกมาด้วยคุณภาพเสียงที่ไม่น่าตื่นเต้นมากนัก โดยเฉพาะในหูฟังราคาไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แม้แต่ในระดับราคาไม่เกินเจ็ดพันบาทก็ตามที
แต่วันนี้ HUAWEI กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการ “หูฟังไร้สาย” ด้วยการจับมือกับแถวหน้าของแวดวงเครื่องเสียงระดับ Hi-End ของฝรั่งเศสอย่าง DEVIALET พัฒนาจนได้มาเป็น HUAWEI FreeBuds Pro 2 หูฟังไร้สายที่ทั้งสวยหรู ดูแพง และชื่อของ DEVIALET ก็การันตีได้ถึงคุณภาพเสียงยอดเยี่ยม
เป็นหูฟังที่หน้าตาดีที่สุดเท่าที่หัวเว่ยเคยทำมา
จั่วหัวมาแบบนี้ ไม่ได้อวยเกินไปแน่นอน เพราะในบรรดา “หูฟังไร้สาย” จากค่าย “HUAWEI” นี่คือการดีไซน์ให้ทั้งรูปทรง ขนาด และสัดส่วนต่างๆ รวมไปถึงสีสัน ดูลงตัวไปหมด และในความดูดีที่ว่าไปนั้นแฝงไปด้วยหลักการเพื่อให้ทั้งสวยและสวมใส่สบายด้วย
โดยที่ “HUAWEI FreeBuds Pro 2” ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ ส่วนเว้าส่วนโค้งต่างๆ ที่ต้องสัมผัสกับหูของเราจะพอดี ทำให้รู้สึกสบายหู ไม่รำคาญ ซึ่งตรงจุกซิลิโคนมีให้เลือกถึง 3 ขนาด เลือกใช้ได้ตามสรีระหูของแต่ละคน
สำหรับสีโปรโมทเป็นสี Silver Blue สีสันจะเหลื่อมๆ เงางามตามสไตล์เมทาลิค เล่นกับแสงไฟได้อย่างดี เป็นหนึ่งในโทนสีที่ยกระดับให้หูฟังรุ่นนี้สวยหรูดูแพงเอามากๆ แต่นอกจากสีนี้ยังมีอีกสองสีคือสีเงิน Silver Frost และสีขาว Ceramic White สวยไปคนละสไตล์
และก็เป็นไปตามที่ “หัวเว่ย” ทำมาตลอด คือ “หูฟังไร้สาย” นอกจากไม่มีสายแล้วยังไม่มีปุ่มกดที่เป็นแบบอะนาล็อก ทว่าใช้ระบบสัมผัส ทำให้ดีไซน์ของ “HUAWEI FreeBuds Pro 2” จะค่อนข้างไร้รอยต่อ เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี
ระบบสัมผัสนี้ใช้ในการเปิดใช้งาน และควบคุมระดับเสียง ด้วยการรูดนิ้วไปบริเวณก้านหูฟังนั่นเอง ส่วนการบีบที่ก้านหูฟังหนึ่งครั้งคือการเล่นหรือหยุดเพลง หากบีบสองครั้งคือเลื่อนไปเพลงถัดไป บีบสามครั้งจะย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า และบีบค้างไว้ทั้งสองข้างคือการสลับโหมดระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวนกับโหมด Ambient
ซึ่งการออกแบบให้มีความ Seamless แบบนี้ ก็รวมไปถึงการช่วยให้หูฟังรุ่นนี้มีความสามารถป้องกันน้ำได้ถึงระดับ IP54 เลยทีเดียว เรียกได้ว่าใช้งานกันได้ทั้งชิลๆ หรือจะเอาไปลุยหน่อยก็ไม่ต้องกลัวพัง
เสียงดีเกินต้าน
หัวใจของหูฟังต้องเป็นเรื่องเสียง แน่นอนว่า “HUAWEI FreeBuds Pro 2” มีคุณภาพเสียงที่โหดจัดกว่ารุ่นเก่ามากพอสมควร นั่นเพราะการร่วมกับ "DEVIALET" สร้างสรรค์คุณภาพเสียงแบบ Hi-Res Wireless Dual HD Audio ซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพ HWA
องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ “หูฟังไร้สาย” รุ่นนี้ เสียงดี คือ Dual-Speaker True Sound ที่ประกอบด้วยไดนามิกไดรเวอร์ขนาด 11 มม. แบบแม่เหล็ก 4 ชุด (quad-magnet dynamic driver) ซึ่งขับเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า “HUAWEI FreeBuds Pro” รุ่นแรกถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ให้เสียงเบสทุ้มแน่นและหนัก
เป็นครั้งแรกที่ใช้ ultra-high-frequency planar diaphragm driver หรือไดอะแฟรมความถี่สูงที่ใช้วัสดุแผ่นฟิล์มสอดไว้ระหว่างแม่เหล็กซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวนำอันทรงพลัง ช่วยเก็บรายละเอียดให้ใกล้เคียงกับเสียงที่แท้จริง
ซึ่งเจ้าลำโพงคู่ Dual-Speaker True Sound นี้ใช้เทคโนโลยี cross-over ที่พัฒนาซาวด์เอฟเฟ็คอัลกอริธึมขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อประสานการทำงานระหว่าง 2 ไดรเวอร์ได้อย่างชาญฉลาดเพื่อขับเสียงเบสได้อย่างมีสุนทรีย์“HUAWEI FreeBuds Pro 2” จึงมอบประสบการณ์เสียงที่ครอบคลุมย่านความถี่เสียงตั้งแต่ 14 Hz ถึง 48 kHz เรียกได้ว่าเก็บทุกโน้ตเสียงที่หูมนุษย์จะได้ยิน แถมยังแปรรายละเอียดเสียงที่หูมนุษย์ไม่ได้ยินออกมาได้อย่างแม่นยำด้วย
และเพื่อไปให้สุดในเรื่องคุณภาพเสียง “หูฟังไร้สาย” รุ่นนี้ยังมีเทคโนโลยี Triple adaptive EQ ปรับจูนเสียงได้อัตโนมัติถึง 10 ระดับ ประกอบด้วย Volume EQ ปรับย่านเสียงอัตโนมัติเมื่อมีการเพิ่มเสียงหรือลดเสียง, Ear canal structure EQ ปรับจูนเสียงตามโครงสร้างหูของผู้ใช้และลักษณะการสวมใส่หูฟัง และ Wearing status EQ ปรับจูนเสียงตามอิริยาบถของผู้ใช้ เช่น ใส่นั่งทำงาน ใส่เดิน หรือใส่ออกกำลังกาย
คาแรกเตอร์ของเสียงที่จะได้ยินจาก “HUAWEI FreeBuds Pro 2” แบบเดิมๆ ตั้งแต่เปิดกล่องมา เรียกได้ว่าค่อนข้างครบเครื่อง ทั้งเบส กลาง แหลม ครบทุกย่าน เมื่อฟังเพลงที่มีรายละเอียดของดนตรีเยอะๆ จะรู้สึกคล้ายกับว่าวงดนตรีนั้นกำลังมาเล่นสดอยู่ตรงหน้า ซึ่งถ้าใครเคยฟังเพลงด้วยลำโพง "DEVIALET" จะเข้าใจเลยว่าเป็นคาแรกเตอร์ที่แบรนด์นี้เป็น
ไม่ใช่แค่ฟังดี แต่ไมค์ก็ไม่ธรรมดา
นอกจากเรื่องการฟังเพลงหรือคุณภาพเสียงที่ได้ยินแล้ว เรื่องไมโครโฟนเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ “HUAWEI FreeBuds Pro 2” ครบเครื่อง ด้วยความที่มีไมโครโฟนถึง 4 ตัว แบ่งหน้าที่กันคือ 2 ตัวหันออกด้านนอก ทำหน้าที่ตรวจจับและระบุเสียงรบกวนรอบข้างอย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยี Beamforming ส่วนไมโครโฟนอีก 1 ตัวหันเข้าด้านใน เป็นไมโครโฟนแบบ SNR (signal-to-noise ratio) คอยจับสัญญาณเสียงพูดของผู้ใช้ และตัวสุดท้ายเป็น Bone Conduction Microphone ที่แยกแยะระหว่างเสียงบรรยากาศโดยรอบกับเสียงพูดของผู้ใช้ได้ด้วยการสัมผัสการสั่นของกระดูกและเนื้อเยื่อบริเวณช่องหู ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพเสียงสนทนาให้ชัดใสในทุกสถานการณ์
ในการใช้งานในที่ที่มีเสียงรบกวนมาก ผู้คนจอแจ “หูฟังไร้สาย” รุ่นนี้ จัดการได้จนประหลาดใจ ซึ่งเป็นเพราะ “หัวเว่ย” ใช้อัลกอริทึมตัดเสียงรบกวนรอบข้างเป็นครั้งแรกแบบ Deep Neural Network (DNN) โดยใช้ฐานข้อมูลเสียงรบกวนจากบรรยากาศรอบข้างมากกว่า 500 สถานการณ์ และเมื่อได้ข้อมูลที่แม่นยำจากการตรวจจับและแยกแยะเสียงของระบบไมโครโฟนทั้ง 4 ตัว ช่วยให้อัลกอริทึมตัดเสียงรบกวนทำงานได้ดีมาก การสนทนาจึงคมชัดแม้จะมีเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมมากแค่ไหน
ความสามารถตัดเสียงรบกวนของ “HUAWEI FreeBuds Pro 2” ยังไม่หมด เพราะมีเทคโนโลยี Intelligent Dynamic ANC 2.0 ลดเสียงรบกวนได้มากสุด 47 dB แบ่งเป็น 3 โหมด ได้แก่ Ultra คือในที่คนพลุกพล่านมากๆ จะตัดเสียงรบกวนความถี่ต่ำมากๆ, General ใช้ในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนเล็กน้อยโดยจะตัดเสียงจากบรรยากาศรอบๆ และ Cozy คือตัดเสียงรบกวนที่เบาอยู่แล้ว เช่น เสียงเครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้เงียบสนิท ซึ่งโหมดเหล่านี้ต้องไปตั้งค่าในแอปพลิเคชัน HUAWEI AI Life เรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่จัดการเสียงรบกวนแบบอยู่หมัดที่สุดรุ่นหนึ่ง
เชื่อมต่อง่าย แบตใช้ได้นาน
การเชื่อมต่อ “HUAWEI FreeBuds Pro 2” เข้ากับอุปกรณ์ ทำได้พร้อมกันถึงสองเครื่อง โดยการเชื่อมต่อบลูทูธ 5.2 ได้ในนทุกระบบปฏิบัติการ ซึ่งการเชื่อมต่อได้พร้อมกันสอง devices นั้นยังมีเรื่องให้ทึ่งอีก ยกตัวอย่าง หากเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน แล้วใช้หูฟังเล่นเกมบนแท็บเล็ต เมื่อมีสายเข้าที่สมาร์ทโฟนหูฟังจะสลับมารับเสียงจากสมาร์ทโฟนอัตโนมัติ
ยิ่งถ้าเป็น HUAWEI Eco System ด้วยแล้ว จะยิ่งดึงศักยภาพของ “หูฟังไร้สาย” รุ่นนี้ออกมาได้สุดๆ ตั้งแต่การเชื่อมต่อผ่านฟีเจอร์ Pop-up Pairing ที่ตรวจจับได้ว่ามีหูฟัง “HUAWEI FreeBuds Pro 2” อยู่ใกล้ๆ หรือใน Super Device ของ “หัวเว่ย” หูฟังนี้ก็จะปรากฏอยู่ด้วยทำให้เชื่อมต่อได้ง่ายที่สุดของที่สุด
สำหรับขุมพลังของ “HUAWEI FreeBuds Pro 2” นั้นสบายหายห่วง เพราะมาพร้อมแบตเตอรี่ 55mAh ในหูฟัง และ 580 mAh ในเคสชาร์จ ที่รองรับการชาร์จเร็ว หากใช้งานร่วมกับ ANC จะใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 4 ชั่วโมง หรือเมื่อปิดโหมด ANC จะเล่นเพลงต่อเนื่องนาน 6.5 ชั่วโมง และนานสุด 30 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ
อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากและเหมาะกับคนขี้ลืม คือ Find My Earphones ซึ่งต้องเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน HUAWEI AI Life ที่จะช่วยให้หูฟังส่งเสียงเรียก โดยเรียกได้แต่ละข้างเลย
สำหรับแอปพลิเคชั่น HUAWEI AI Life ยังมีโหมดต่างๆ ให้ได้ปรับแต่งหูฟังให้เหมาะกับสไตล์และการใช้งาน ซึ่งต้องบอกว่ากับการใมช้งานคู่กันระหว่าง “HUAWEI FreeBuds Pro 2” กับแอปพลิเคชันทำได้ลื่นไหลและใช้งานไม่ยากเลย
หูฟัง “HUAWEI FreeBuds Pro 2” เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยด้วยราคา 6,499 บาท พร้อมกับโปรโมชัน เมื่อสั่งจองระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 – 5 สิงหาคม 2565 รับฟรี HUAWEI Band 6 มูลค่า 1,899 บาท และ HUAWEI Music Premium ฟรี 3 เดือน มูลค่า 387 บาท สั่งจองได้ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store ที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์มออนไลน์
แน่นอนว่าในระดับราคาเท่านี้ เทียบกับสิ่งที่ได้ ทำให้ “หูฟังไร้สาย” เรือธงตัวล่าสุดของ “หัวเว่ย” ดี คุ้มค่า สมกับการร่วมกันพัฒนาโดยแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำของโลก