Forward Labs จับมือ รร.สว่างบริบูรณ์วิทยา เปิดสอน “วิชาบล็อกเชนชั้นมัธยม”
Forward Labs เทคสตาร์ตอัปสัญชาติไทย พัฒนาวิชา เทคโนโลยีบล็อกเชน-คริปโทเคอร์เรนซี่สำหรับชั้นมัธยม โดยจะเปิดสอนที่โรงเรียนสว่างบริบูรณ์วิทยา จ.ชลบุรี มุ่งพัฒนานักเรียนสู่การเงินดิจิทัลและสมาร์ทคอนแทร็ค
Forward Labs เทคสตาร์ตอัปสัญชาติไทย ร่วมกับ โรงเรียนสว่างบริบูรณ์วิทยา จ.ชลบุรี เตรียมเปิดหลักสูตรพิเศษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา วิชาเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน และคริปโทเคอร์เรนซี่ เพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่การเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์บล็อกเชนและสมาร์ทคอนแทร็คในอนาคต
นิติ เรืองรัตนากร ตำแหน่ง ผู้รับใบอนุญาตและผู้จัดการ โรงเรียนสว่างบริบูรณ์วิทยา กล่าวว่า โรงเรียนของเรามุ่งพัฒนานักเรียนด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีโคดดิ้ง ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษา
และเนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของผู้คนอย่างรวดเร็ว เช่น ด้านการเงินหรือแม้แต่การนำบล็อกเชนเข้ามาช่วยในการติดตามตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่โรงเรียนต้องการบรรจุหลักสูตรดังกล่าวเข้าไว้ในการเรียนระดับมัธยม ซึ่งก็เป็นการต่อยอดจากการเรียนโคดดิ้ง
ทางด้าน ชานน จรัสสุทธิกุล Co-founder & CEO บริษัท ฟอร์เวิร์ด แล็บส์ ให้ความเห็นว่า ทั่วทั้งโลกได้พิสูจน์แล้วว่าบริษัทที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลกได้จะเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อาทิเช่น Google, Apple, Microsoft, Amazon, ฯลฯ แต่ประเทศไทยเรายังขาดบริษัทด้านเทคโนโลยีเหล่านี้อยู่ หากประเทศไทยเราจะก้าวให้หลุดจาก “ประเทศกำลังพัฒนา” จึงจำเป็นต้องมีบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีที่เกิดแนวคิด ไอเดียใหม่ๆ ที่เหนือชั้นกว่าฝั่งอเมริกาและจีน
การพัฒนาและปลูกฝังศักยภาพและแนวคิดเชิงตรรกศาสตร์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปูให้กับเด็กๆ ตั้งแต่ยังเล็ก และโรงเรียนสว่างบริบูรณ์วิทยา เป็นโรงเรียนที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี ฝึกกระบวนความคิดและตรรกศาสตร์เบื้องต้นให้กับนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล
การคิดแบบเป็นเหตุและผลตั้งแต่ยังเด็กจะช่วยส่งเสริมคุณภาพในการเรียนรู้ของเด็กและตัวเด็กเองจะสามารถค้นหาสิ่งที่เขาสนใจ สิ่งที่เขาชอบตั้งแต่ยังเด็กได้ การคิดแบบเป็นตรรกะนั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกอาชีพและสามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต
เด็กสามารถเลือกอนาคตของตัวเด็กเองได้อย่างเป็นเหตุและผล รวมถึงได้สัมผัสกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเด็กเหล่านี้จะกลายเป็นถ้วยทองคำของประเทศชาติในอนาคต
ปัจจุบันสหรัฐฯ ได้มีการเพิ่มบล็อกเชน และคริปโทเคอร์เรนซี่ เข้าไปในหลักสูตรของมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งแล้ว วันนี้เทคโนโลยีดังกล่าวได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศการเงินและการลงทุน
แต่ในระยะยาว คริปโทเคอร์เรนซี่ และเงิน Fiat จะทำงานร่วมกันเพื่อชดเชยจุดอ่อนของกันและกัน ซึ่งก็เหมือนกับอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เกือบทั้งหมด (IoT) และช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิต
คริปโทเคอร์เรนซี่จะถูกยอมรับในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นในระบบชำระเงินออนไลน์เกือบทั้งหมดเพื่อชำระเงินและทำธุรกรรม รวมไปถึงการกำหนดสิทธิในการร่วมลงทุนในโปรเจ็กต์ การปล่อยเงินกู้ การชำระค่าสาธารณูปโภค ตลอดจนการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
จึงมองว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องติดอาวุธ เพิ่มองค์ความรู้ให้เด็กไทยของเรามีความสามารถแข่งขันในตลาดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ระดับโกลบอล
อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน Co-founder & Advisor บริษัท ฟอร์เวิร์ด แล็บส์ กล่าวเสริมว่า บล็อกเชนเข้ามามีอิทธิพลในวงการต่าง ๆ นอกเหนือจากแวดวงการเงินมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิต อสังหาริมทรัพย์ เเละด้านการเกษตร
ซึ่งหลักสูตร Blockchain นี้ จะมีเนื้อหาที่ทำให้นักเรียนชั้นมัธยมปลาย เข้าใจหลักการทำงานของ Blockchain Smart Contract ตลอดจนถึงการนำไปใช้งานจริง โดยที่นักเรียนจะได้เรียนรู้การนำ usecase ที่มีการนำ Blockchain มาใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ รวมถึงความเข้าใจกระบวนการของ Decentralize Finance เเละการทำงานของ โปรโตคอลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใน DAPP
ตลาดแรงงานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นตลาดที่มีความต้องการสูงและด้วยเทคโนโลยี IoT ปัจจุบันที่ทำให้การทำงานนั้นไร้พรมแดน หลักสูตรนี้จึงเป็นการเปิดโอกาส สร้างนักพัฒนารุ่นใหม่ ให้เติบโตในระดับโลกได้ รวมไปถึงร่วมผลักดันในการสร้างบุคคลากรที่มีคุณภาพให้แก่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ