เทคโนโลยีเสกอาวุธสังหาร | วรากรณ์ สามโกเศศ
เทคโนโลยีก้าวหน้าสมัยใหม่สามารถทำให้หลายสิ่งเป็นอาวุธได้อย่างไม่น่าเชื่อ เเละสามารถสร้างอาวุธที่น่ากลัวขึ้นได้จากซอฟต์แวร์และปริ้นเตอร์ ลองดูตัวอย่างจริงที่เกิดขึ้นในโลก
เมื่อกลางเดือน ก.ย.2567 เกิดเหตุการณ์ที่เคยคิดกันว่ามีอยู่เฉพาะแต่ในนิยายและภาพยนตร์เท่านั้น อยู่ๆ pager และวิทยุ walkie-talkie นับพันเครื่องก็ระเบิดขึ้นพร้อมกัน pager ราว 4,000 กว่าเครื่องระเบิดขึ้นก่อนและวิทยุประมาณ 600 เครื่องระเบิดในวันรุ่งขึ้น
วันแรกมีคนตาย 12 คน บาดเจ็บ 3,000 คน วันที่สองตาย 25 คน บาดเจ็บ 600 คน จารกรรมสมัยใหม่ครั้งนี้เกิดขึ้นกับกลุ่ม Hezbollah ในเลบานอน ซึ่งกำลังรบติดพันกับอิสราเอล
ไม่มีใครออกมายอมรับผลงานแต่ใครๆ ก็รู้ว่าอิสราเอลเป็นผู้กระทำ ข่าวเปิดเผยว่าเมื่อปลายปี 2563 ผู้นำกลุ่ม Hezbollah ออกมาฟ้องว่าโทรศัพท์มือถือที่กลุ่มใช้อยู่ถูกอิสราเอลแฮกจึงหันไปใช้ pager ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่าเมื่อ 30 ปีก่อน (คงจำกันได้ ว่าใช้รับข้อความที่ส่งเข้ามาจากโอเปอเรเตอร์คนกลางเพื่อให้ผู้คนติดต่อกันได้) ซึ่งมั่นใจว่าปลอดภัยกว่าเพราะใช้ส่งกันเป็นโค้ดลับ
เดากันว่าจุดนี้แหละที่พลาดเพราะไม่ระมัดระวัง สั่งซื้อเครื่อง pager และวิทยุ walkie-talkie จากบริษัทในโรมาเนียซึ่งได้ใบอนุญาตผลิตจากไต้หวัน ระหว่างส่งมาคงมีคนแอบเอาระเบิดไปใส่ไว้อุปกรณ์เหล่านี้ใช้กันในกลุ่มผู้นำอยู่กว่า 5 เดือน เมื่อสัญญาณสังหารส่งมาจากภายนอกที่ไปเปิดสวิตช์ที่ฝังตัวอยู่ในเครื่อง ระเบิดจึงทำงาน
Hezbollah เป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายติดอาวุธเข้มแข็งมากของเลบานอน ซึ่งมีพรมแดนติดกับอิสราเอลทางเหนือ เชื่อว่ามีกำลังหลายหมื่นคน มีหัวจรวดอาวุธนับหมื่นนับแสนลูกเพราะอิหร่านเป็นนายทุนใหญ่อย่างเปิดเผยก่อตั้งเมื่อปี 2525 กลุ่มนี้มีอำนาจมากกว่ารัฐทางการด้วยซ้ำ เป็นพันธมิตรกับกลุ่ม Hamas
ปัจจุบันติดพันอยู่กับการช่วยเหลือ Hamas ในการสู้รบกับอิสราเอล ล่าสุดเลบานอนและ Hezbollah กำลังถูกถล่มอย่างหนักหลังเหตุการณ์เพจเจอร์ระเบิดสองครั้งดังกล่าว ซึ่งทำให้เกิดความหวาดระเเวงและขวัญกระเจิง
จารกรรมครั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เป็นครั้งแรกของโลกที่ภารกิจสำเร็จไปอย่างแนบเนียน และคลาสสิกราวกับภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ 007 เป็นการผสมกันระหว่างเทคโนโลยีโบราณคือ pager กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ส่งคลื่นสัญญาณจากภายนอกออกไประเบิดทีเดียว 4,000 กว่าลูก ระเบิดที่ใช้คือ PETN ซึ่งทรงพลังมากเพียงใช้ 20 กรัม ในแต่ละเครื่องเท่านั้นซึ่งเหนือกว่าระเบิด C4 ที่ใช้กันมานาน
ผลกระทบต่อโลกก็คือจะมีการตรวจค้นก่อนขึ้นเครื่องบินเข้มข้นขึ้น สินค้าต่างๆ ที่ส่งเข้าประเทศจะมีมาตรการการป้องกันหนักมือขึ้น supply chain ของสินค้าที่ส่วนประกอบมาจากหลายประเทศจะไม่ราบรื่นเหมือนที่เคยเป็น
ที่สำคัญก็คือชาวโลกจะหวาดระแวงกับไฟฉาย โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ จุดส่งสัญาณไวไฟเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ แม้แต่ไมโครเวฟ พัดลม ตู้เย็นหรือสบู่ เครื่องสำอาง แปรงสีฟันเเว่นตา ฯลฯ เพราะหลายสิ่งถูกเสกให้เป็นอาวุธได้ทั้งนั้น
ที่น่ากลัวอีกเรื่องหนึ่งก็คือการผลิตปืนจากซอฟต์แวร์และปริ้นเตอร์ด้วยเทคโนโลยี 3D ซึ่งกำลังแพร่หลายในหลายประเทศ มีความกังวลในเรื่องปืนที่ไปอยู่ในมือของคนที่ขาดคุณสมบัติ และควบคุมจำนวนและการใช้ได้น้อยลง
เทคโนโลยี 3D คือเทคโนโลยีและกระบวนการสร้างวัตถุจับต้องได้โดยการสั่งผ่านการเขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์ และใช้ปริ้นเตอร์พิเศษพิมพ์ออกมาเป็นวัตถุ 3 มิติ ตามแบบพิมพ์หรือเหมือนต้นเเบบทุกประการ
3D เทคโนโลยีเริ่มคิดค้นตั้งแต่ทศวรรษ 1980 และพัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับจนก้าวหน้าไปไกลมากในการผลิตเพื่ออุตสาหกรรม การแพทย์ การศึกษา ความบันเทิง การก่อสร้าง แฟชั่นเสื้อผ้า ฯลฯ การพิมพ์จะใช้วัสดุหลากหลายชนิด เช่น พลาสติกชนิดต่างๆ โลหะ คอนกรีต ฯลฯ โดยพิมพ์ลงไปเป็นชั้นๆ ตามพิมพ์เขียวที่กำหนดไว้ในโปรเเกรมคอมพิวเตอร์
ในเรื่องปืนนั้น ชนิดแรกผลิตโดย 3D ตามบลูปริ้นเเละวิธีการผลิตที่เปิดเผยในโซเซียลมีเดียและแพร่หลายไปทั่วโลกในปี 2556 ปืนมีชื่อว่า “Liberator” โดยเป็นปืนจริงที่ยิงได้ทีละนัด ลำตัวเป็นพลาสติกเเต่ไม่คงทน หลังจากนั้นก็มีออกมาเป็นร้อยๆ เเบบแต่ไม่มีปืนที่โดดเด่นเป็นพิเศษ
จนกระทั่งถึงปี 2563 มีการเผยแพร่บลูปริ้นท์ของปืนชื่อ FGC-9 โดยไม่ระบุเจ้าของ เป็นปืนที่ใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง โดยเป็นปืนออโตเมติคขนาด 9 ม.ม. และเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วอย่างน่ากลัว
FGC-9 ผลิตออกจากปริ้นเตอร์ตามบลูปริ้นได้โดยมือสมัครเล่นที่มีอุปกรณ์ปริ้นเตอร์แบบพิเศษ และวัสดุโพลิเมอร์ (พลาสติกชนิดหนึ่ง) ซึ่งสั่งซื้อได้ออนไลน์ปืนนี้เป็นปืนไฮบริด
โครงปืนเป็นโพลิเมอร์อย่างแข็งแรงชนิดพิเศษพิมพ์จากเครื่องเเละซื้อชิ้นส่วนจากออนไลน์ซึ่งได้แก่ลำกล้องปืนเข็มแทงชนวนและ ไกปืน ส่วนแมกกาซีนใส่ลูกนั้นใช้ของปืน Glock-17 ปืนยอดนิยมที่มีโครงปืนเป็นโพลิเมอร์ชนิดพิเศษเช่นกัน
ขณะนี้ปืน FGC-9 จาก 3D เป็นที่นิยมอย่างมาก พบปืนนี้ในการสู้รบในหลายประเทศ เช่น เมียนมา ประเทศในแอฟริกาเเละตะวันออกกลาง อีกทั้งในกลุ่มโจรผู้ร้ายในหลายประเทศ สำหรับคนที่ไม่ถนัดผลิตเองก็สามารถซื้อออนไลน์ในราคาถูกกว่าปืนจริงมากเพราะไม่มีลิขสิทธิ์ “ปืนผี” (ghost guns) เหล่านี้ไม่มีทะเบียน และในบางรัฐ ในบางประเทศไม่ผิดกฎหมาย
สำหรับประเทศไทยเจ้าหน้าที่รัฐต้องตื่นตัวและตามให้ทัน เพราะจำนวนปืนสั้นที่มีอยู่ก็มากมายล้นประเทศอยู่แล้ว หากมี FGC-9 เพิ่มอีก และมีอีกหลายรุ่นที่จะออกตามมาก็จะเป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องหนึ่งในอนาคตที่เป็นผลพวงจากเทคโนโลยี
3D มีคุณอนันต์และก็มีโทษมหันต์เช่นกัน เหมือนกับทุกสิ่งในโลกที่มีเหรียญสองด้าน การติดตามให้ทันความก้าวหน้าและระมัดระวังกับผลที่จะเกิดตามมาเป็นประเด็นสำคัญมาก
ในปัจจุบันคนที่่ถูกปองร้ายนั้นน่าหวั่นใจอยู่ตลอดเวลาเป็นอันมาก เพราะเทคโนโลยีสามารถเสกอาวุธได้เสมอ คิดเล่นๆ มันอาจฆ่าได้ด้วยกางเกงในโดยเอาระเบิด PETN ที่เป็นผงเย็บไว้ในขอบกางเกงไม่ถึง 10 กรัม เเละใช้ความร้อนจากร่างกายเเปรเป็นพลังไฟฟ้าหรือใช้ไฟฟ้าสถิตเป็นพลังจุดชนวนระเบิด...คิดเเล้วน่าสยดสยองมากครับกว่าระเบิดที่ฝังตัวอยู่ในที่อื่น.