กูเกิลเตรียมเปิดโหมด AI Search สู้กับ ChatGPT Search ด้านแอปเปิลยืนยันไม่ร่วมวงแข่ง

กูเกิลเตรียมเปิดโหมด AI Search สู้กับ ChatGPT Search ด้านแอปเปิลยืนยันไม่ร่วมวงแข่ง

กูเกิลเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ AI Mode สู้ศึกสนามเสิร์ชเอนจิน หลังจากที่ OpenAI เปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถใช้ ChatGPT Search ได้ฟรี โดยก่อนหน้าจำกัดเฉพาะผู้ใช้แบบพรีเมียมเท่านั้น ขณะแอปเปิลยืนยันไม่ร่วมวงแข่ง ชี้ ลงทุนสูง-ขัดนโยบายความเป็นส่วนตัว

กูเกิลเตรียมเพิ่ม “โหมดเอไอ” (AI Mode) ให้กับ “กูเกิลเสิร์ช” (Google Search) โดยจะแสดงเป็นแท็บทางเลือกใหม่บนแถบเมนูด้านบนของหน้าผลการค้นหา อยู่ร่วมกับตัวเลือกอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วอย่าง ทั้งหมด รูปภาพ วิดีโอ และช้อปปิ้ง 

เมื่อผู้ใช้เลือกโหมดเอไอระบบจะแสดงหน้าต่างสนทนาคล้ายกับ Gemini AI โดยจะแสดงลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง พร้อมคำตอบในรูปแบบบทสนทนา และมีช่องค้นหาสำหรับถามคำถามเพิ่มเติมได้ ซึ่งการใช้งานจะคล้ายคลึงกับ “แชตจีพีที เสิร์ช” (ChatGPT Search)

ทั้งนี้ ยังมีการค้นพบหลักฐานการพัฒนาโหมดเอไอในแอปกูเกิลเสิร์ชเวอร์ชันเบต้าบนแอนดรอยส์แล้ว โดยเว็บไซต์ 9to5Google และ Android Authority ได้ตรวจสอบพบส่วนติดต่อผู้ใช้ของโหมดดังกล่าว แม้จะยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์

สำหรับคู่แข่งอย่าง ChatGPT Search ได้ทำความร่วมมือกับสำนักข่าวและแหล่งข้อมูลชั้นนำหลายแห่ง เช่น Associated Press, Reuters, Financial Times และอีกหลายราย เพื่อให้ข้อมูลที่ทันสมัย โดยเฉพาะในด้านสภาพอากาศ ราคาหุ้น ผลการแข่งขันกีฬา และข่าวสารต่างๆ

ขณะที่แอปเปิล (Apple) ซึ่งได้รับเงินจากกูเกิลถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 จากข้อตกลงให้กูเกิลเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นบนเบราว์เซอร์ Safari เอ็ดดี้ คิว (Eddy Cue) รองประธานอาวุโสส่วนธุรกิจ Services ว่า แอปเปิลไม่มีแผนพัฒนาเครื่องมือค้นหาของตัวเอง เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล บุคลากรจำนวนมาก และใช้เวลาพัฒนาหลายปี

นอกจากนี้ แอปเปิลยังระบุว่า ธุรกิจระบบค้นหามีรายได้หลักจากโฆษณาแบบเจาะจง ซึ่งไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท อีกทั้งยังขัดกับแนวทางการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยปัจจุบันบริษัทมีเพียงระบบค้นหาเฉพาะกลุ่มเล็กๆ เช่น ใน App Store เท่านั้น

แอปเปิลได้ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมในการพิจารณาคดีต่อต้านการผูกขาดของกูเกิล โดยระบุว่าไม่สามารถปล่อยให้กูเกิลเป็นผู้ปกป้องข้อตกลงแบ่งรายได้แต่เพียงผู้เดียว แม้ว่าบริษัทจะยืนยันว่าไม่มีแผนพัฒนาเครื่องมือค้นหาของตัวเองก็ตาม

การพัฒนาโหมดเอไอของกูเกิลครั้งนี้ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องมือค้นหา หลังจากที่เคยประสบปัญหาในการเปิดตัว Bard และระบบ AI Overview ที่ผ่านมา โดยบริษัทจำเป็นต้องระมัดระวังในการพัฒนาเทคโนโลยีเอไอ เนื่องจากมีผู้ใช้งานจำนวนมากที่คาดหวังความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของข้อมูล

อ้างอิง: The vergeReuters และ The information