'สื่อ-โทรคม'แตกบริษัท แห่ชิง'ทีวีดิจิทัล'

'สื่อ-โทรคม'แตกบริษัท แห่ชิง'ทีวีดิจิทัล'

กสทช.เปิดขายซองประมูลทีวีดิจิทัล ธุรกิจ 24 ช่อง"วันแรก" "ช่อง7-แกรมมี่-อินทัช-บีอีซี" แห่ซื้อซองวันแรก "ช่อง3" ซื้อ 4 ซอง

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดจำหน่ายเอกสารการประมูลเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ทีวีดิจิทัล) ประเภทธุรกิจ 24 ช่อง ประกอบด้วยช่องเด็ก 3 ช่อง, ช่องข่าว 7 ช่อง, ช่องวาไรตี้ (SD) ระหว่างวันที่ 10-12 ก.ย. นี้ ราคาซองละ 1.07 ล้านบาท

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. เปิดเผยว่าการเปิดจำหน่ายซองประมูลทีวีดิจิทัล วันแรกวานนี้ (10 ก.ย.) มีผู้ประกอบการสนใจซื้อซองรวม 8 ราย รวม 11 ซอง ประกอบด้วย 1.บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (ช่อง7) ซื้อซองช่องเอชดี 2.บริษัทบีบีทีวี แซทเทลวิชั่น จำกัด บริษัทลูกช่อง7 ซื้อซองช่องวาไรตี้ (SD) 3.บริษัท โรสมีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ซื้อซองช่องเด็ก 4.บริษัท ทัช ทีวี จำกัด ในเครืออินทัช ซื้อซองช่องวาไรตี้ (SD) 5.บริษัท โพสต์ ทีวี จำกัด ซื้อซองช่องข่าว 6.บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัลทีวี จำกัด ซื้อซองช่องเอชดี 7.บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอสดี ดิจิทัลทีวี ซื้อซองช่องวาไรตี้ (SD) 8.บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง3)

สรุปการจำหน่ายซองแยกตามประเภทช่อง ประกอบด้วย ช่องเด็ก 2 ช่อง, ช่องข่าว 2 ช่อง, ช่องวาไรตี้ (SD) 4 ช่อง และ ช่องเอชดี 3 ช่อง

"สื่อ-โทรคม"ตั้งบริษัทลูกชิงช่อง

รายงานข่าวพบว่า รายชื่อบริษัทที่ยื่นซื้อซองประมูลทีวีดิจิทัลวันแรก ส่วนใหญ่เป็นการจัดตั้งบริษัทลูก ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ และกลุ่มโทรคมนาคม เพื่อเข้าร่วมประมูลและดำเนินกิจการทีวีดิจิทัล อาทิ ช่อง7 ซื้อ 2 ซอง โดยบริษัท บริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด และบริษัทลูกที่จัดตั้งขึ้นใหม่ คือ บริษัทบีบีทีวี แซทเทลวิชั่น จำกัด ขณะที่กลุ่มบีอีซี หรือช่อง3 จัดตั้งบริษัทบีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด เพื่อประมูลทีวีดิจิทัลเต็มเพดาน 3 ช่อง แม้จะซื้อซองทุกประเภทรวม 4 ซอง

เช่นเดียวกับ "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" ซื้อ 2 ซอง โดยจัดตั้งบริษัทใหม่ 2 บริษัท เพื่อประมูลประเภทเอชดี และวาไรตี้ ส่วนธุรกิจโทรคมนาคมพบว่าเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2556 "ชิน คอร์ปอเรชั่น" หรือ กลุ่มอินทัช แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ 2 บริษัท คือ บริษัท อินทัช มีเดีย จำกัด และบริษัททัช ทีวี จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง โดยวานนี้ "ทัชทีวี" ได้ซื้อซองประมูลช่องวาไรตี้ 1 ช่อง

ด้าน นางสาวอรพรรณ มนต์พิชิต บวรวัฒนะ รองประธานฝ่ายจัดหาลิขสิทธิ์และกลุ่มโทรทัศน์ บริษัท โรสมีเดียแอนด์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทได้ซื้อซองประมูลทีวีดิจิทัล ช่องเด็ก 1 ช่อง เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญและสนใจช่องรายการเด็ก ทั้งนี้ หากชนะการประมูลจะพัฒนาช่องรายการเด็กขึ้นมาใหม่ โดยไม่นำช่องแก๊ง การ์ตูน ที่ออกอากาศบนทีวีดาวเทียมมาออกอากาศบนแพลตฟอร์มทีวีดิจิทัล คาดว่าช่องเด็ก น่าจะมีผู้สนใจประมูลไม่มาก

ช่องวาไรตี้สนใจสูงสุด

พ.อ.นที กล่าวเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายซองประมูลทีวีดิจิทัล วันแรก ประเภทช่องวาไรตี้ (SD) ได้รับความสนใจซื้อซองสูงสุด 4 ซอง คาดว่าจนถึงครบกำหนดขายซองในวันที่ 12 ก.ย.นี้ จะเป็นประเภทที่มีผู้สนใจซื้อซองสูงสุด

ภายใต้ประกาศหลักเกณฑ์การประมูล ทีวีดิจิทัล ของ กสทช. กำหนดให้ผู้ประกอบการ "หนึ่งบริษัท" ถือครองใบอนุญาตทีวีดิจิทัลสูงสุด 3 ช่อง โดยห้ามถือครองช่องเอชดี และช่องข่าวคู่กัน ดังนั้นในขั้นตอนการยื่นซองประมูลวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ คณะทำงานจะตรวจสอบเอกสารผู้ยื่นประมูลประเภทช่องเอชดี และช่องข่าว อย่าง"เข้มข้น" เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์เชิงบริหารและการถือหุ้น ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ห้ามถือครองช่องเอชดีและข่าวคู่กัน เพื่อไม่ต้องการให้เกิดการครอบงำกิจการของผู้ประการรายใหญ่ และกระจายการถือครองช่องข่าว เพื่อทำให้เกิดการผลิตข่าวหลากหลาย

สำหรับบริษัทบีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ที่ซื้อซองครบทุกประเภทรวม 4 ซอง สามารถดำเนินการได้ โดยคาดว่าผู้ประกอบการซื้อซองครบทุกประเภท เพื่อรอตัดสินใจอีกครั้งว่าจะประมูลในช่องประเภทใด คาดว่าบีอีซี จะยื่นซองประมูลในวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ เพียง 3 ซองตามหลักเกณฑ์ของ กสทช.

ทั้งนี้ "รายชื่อ" ผู้สนใจซื้อซองวันแรก อยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมสื่อและโทรคม ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตรายการที่มีคุณภาพ หากชนะการประมูลน่าจะเป็นผู้ผลิตคอนเทนท์ที่ดีในสื่อทีวีดิจิทัล

"วัตถุประสงค์หลักการประมูลทีวีดิจิทัลธุรกิจ ไม่ต้องการให้เกิดการแข่งขันสูงในการประมูล แต่ต้องการคัดเลือกผู้ประกอบกิจการที่มีคุณภาพและมีความพร้อมมาดำเนินกิจการสื่อทีวี ซึ่งเป็นสื่อที่คนไทยรับชมสูงสุด" พ.อ.นที กล่าว

โดย กสทช. จะเปิดขายซองทีวีดิจิทัล ถึงวันที่ 12 ก.ย.นี้ เชื่อว่ายังมีอีกหลายบริษัทเตรียมจะเข้ามาซื้อซองในอีก 2 วันที่เหลือ ซึ่งวันแรกที่เปิดขายซอง มีผู้ประกอบการสนใจซื้อซองแล้วหลายราย ถือว่าได้รับการตอบรับดี

เก็งกำไรหุ้นสื่อสารคึกคัก

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มมีเดีย และบันเทิง วานนี้ (10 ก.ย.) พบว่า มีแรงซื้อเก็งกำไรคึกคัก โดยเฉพาะบริษัทที่คาดว่าจะเข้าซื้อซองประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิทัลวันที่ 10-12 ก.ย. ดังนี้ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น (INTUCH) ราคาหุ้นปิดตลาดที่ 83 บาทเพิ่มขึ้น 1.25 บาท คิดเป็น 1.5% บริษัท บีอีซี เวิลด์ (BEC) ปิดตลาด 58.25 บาท ลดลง 0.50 บาท คิดเป็น 0.85% บริษัท อสมท (MCOT) ปิดตลาด 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท คิดเป็น 0.73% บริษัท แกรมมี่ (GRAMMY) ปิดตลาด 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท คิดเป็น 2.61% บริษัท อาร์เอส (RS) ปิดตลาด 7.60 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (Work) ปิดตลาด 23.40 บาท ลดลง 0.10 บาท คิดเป็น 0.43% บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (NMG) ปิดตลาด 1.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท คิดเป็น 2.36% บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED) ปิดตลาด 5 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท คิดเป็น 0.81% บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น (MATCH) ปิดตลาดที่ 2.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท คิดเป็น 0.87%

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า การเปิดขายซองระหว่างวันที่ 10-12 ก.ย. นี้ คาดมีผู้เข้าร่วมประมูลไม่ต่ำกว่า 30 ราย โดยบริษัทที่แสดงความสนใจเข้าประมูลมีมากมาย ทั้งที่เป็นผู้ผลิตรายการทีวี เช่น บีอีซี อสมท บริษัทสื่อสาร เช่น อินทัช ทรู ทีเอ็นเอ็น รวมถึงผู้ผลิตเนื้อหา เช่น แกรมมี่ อาร์เอส เวิร์คพอยท์ เอ็นบีซี เนชั่น ไนท์ รวมถึงซีเอ็ด แม็ทชิ่ง เป็นต้น

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ผู้ประกอบการรายเดิมโดยเฉพาะ บริษัท บีอีซีฯ ยังคงมีความได้เปรียบกว่าผู้ประกอบการรายอื่น จากศักยภาพและความพร้อมทางการเงิน ที่จะสามารถชนะการประมูลทีวีดิจิทัล ได้ทั้ง 3 ช่อง ได้แก่ 1 ช่อง HD, 1 ช่องวาไรตี้ และ 1 ช่องเด็ก อีกทั้งช่อง 3 ภายใต้ ระบบอนาล็อกเดิม ยังได้รับการคุ้มครองให้ออกอากาศต่อไปจนถึงปี 2563 ตามสัญญาสัมปทานเดิม ส่งผลให้มีช่องทางการเข้าถึงผู้รับชมได้ทั่วถึงกว่าผู้ประกอบการรายใหม่

บล.กสิกรไทย กล่าวว่า การขายซองดิจิทัลทีวี เป็นโอกาสเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้อง เช่น หุ้นเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป, หุ้นอาร์เอส, หุ้นเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์, หุ้นจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, หุ้นแม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น แต่ในระยะสั้นอาจมีการเก็งกำไรในหุ้นที่เกี่ยวข้อง แต่แนะนำลงทุนอาร์เอสและหุ้นเวิร์คพอยท์